ทีเอ็มบี พัฒนาศักยภาพแก่เยาวชนที่ก้าวพลาด ในโครงการ “สานฝันสร้างอาชีพ-คืนคนดีสู่สังคม”

พฤหัส ๓๐ พฤษภาคม ๒๐๑๙ ๑๗:๐๖
คนเราทุกคนต่างต้องการได้รับ "โอกาส" ในการฝึกฝนตนเอง เพื่อเริ่มต้นสิ่งใหม่ ๆ อันจะนำพาชีวิตความเป็นอยู่ของตนเองและครอบครัวไปสู่สถานะที่ดีกว่าเดิม เช่นเดียวกับน้อง ๆ กลุ่มนี้ ที่เป็น "กลุ่มเยาวชนด้อยโอกาสที่ก้าวพลาด" จากมูลนิธิบ้านพระพร กลุ่มเยาวชนที่ออกจากสถานพินิจและเข้ารับการฟื้นฟูกับทางมูลนิธิฯ ซึ่งพวกเขาต้องการโอกาสท่ามกลางสภาวะของสังคมไทยในปัจจุบันซึ่งยังไม่เปิดกว้างเท่าที่ควร

แต่ ทีเอ็มบี กลับมองเห็นถึงศักยภาพของเยาวชนเหล่านี้ที่จะสามารถพัฒนาตัวเอง สร้างอาชีพ มีโอกาสเติบโตและต่อยอดในการช่วยสร้างสังคมที่ดีต่อไปได้

โดย กิจกรรม อาสาสมัครทีเอ็มบี เปลี่ยนชุมชนอย่างยั่งยืน (FAI-FAH for Communities) ภายใต้ปรัชญา "Make THE Difference" ที่เชื่อมั่นในพลังของการ "ให้" ซึ่งพนักงานทีเอ็มบีทั่วประเทศจะเป็นผู้จุดประกายให้ชุมชนเกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นผ่านกิจกรรมเปลี่ยนชุมชนเพื่อความยั่งยืน

"นายปิติ ตัณฑเกษม" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีเอ็มบี กล่าวว่า ด้วยความมุ่งมั่นของทีเอ็มบี ที่จะ "ให้คืน" กลับสู่สังคมอย่างไม่สิ้นสุด นับตั้งแต่ก่อตั้งเมื่อปี 2557กิจกรรมเปลี่ยนชุมชนเพื่อความยั่งยืน (FAI-FAH for Communities) โดยเหล่าอาสาสมัครทีเอ็มบีที่เป็นคนจุดประกายชุมชนในการเปลี่ยนแปลงให้มีชีวิตที่ดีขึ้น และในปี 2562นี้ ได้มีการเปลี่ยนชุมชน ผ่าน 40 โครงการทั่วประเทศ โดยได้มุ่งเน้นสร้างสรรค์โครงการที่ตอบโจทย์ชุมชน ตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน เริ่มตั้งแต่การเข้าไปในชุมชนเพื่อสำรวจปัญหาต่างๆ จุดประกายให้คนในชุมชนออกมาช่วยกัน "เปลี่ยน" ร่วมกับทีมอาสาสมัคร ช่วยกันคิด วางแผน และกำหนดแนวทางในการ "เปลี่ยน" เพื่อให้เหมาะกับชุมชนหรือตอบสนองความต้องการของชุมชนนั้น โดยใช้เวลา 3 เดือนต่อ 1 โครงการ ตลอดระยะเวลา 6 ปีที่ผ่านมีชุมชนที่ได้รับผลประโยชน์กว่า 133 ชุมชน มีชาวชุมชนร่วมกิจกรรมกว่า 200,000 คน และล่าสุด คือโครงการ "สร้างอาชีพ คืนคนดี สู่สังคม" ที่ได้เข้าไปสนับสนุนการสร้างอาชีพแก่เยาวชนด้อยโอกาสที่ก้าวพลาดจากมูลนิธิบ้านพระพร

มุ่งพัฒนาเน้นสร้างอาชีพได้จริง

"นายชนะกร มุ่งงานดี" ผู้จัดการเขตพระราม 9 ทีเอ็มบี และหัวหน้าโครงการทีมพระราม 9 เล่าถึงความเป็นมาของโครงการ "สร้างอาชีพ คืนคนดี สู่สังคม" ว่า ทางมูลนิธิบ้านพระพร มีนโยบายรับเยาวชนที่ออกมาจากสถานพินิจเพื่อการฟื้นฟู และมีโครงการพัฒนาเยาวชนไปสู่การสร้างอาชีพอยู่แล้ว แต่เห็นว่ายังมีความต้องการการสนับสนุนเพิ่มเติมจึงได้เข้าไปช่วยเสริมในด้านการฝึกอาชีพให้กับเยาวชน และจากการหารือร่วมกับทางมูลนิธิ จึงได้คัดเลือกมา 2 อย่างคือการทำเค้กกล้วยหอมเนยสด และช่างตัดผมชาย

"ก่อนหน้านี้ทางมูลนิธิมีการสอนและทำเบเกอรี่อยู่แล้ว แต่ทำเพียง 1 อย่างเท่านั้นคือ ขนมเปี๊ยะ ประกอบกับเราได้สูตรการทำเค้กกล้วยหอมเนยสดมา ซึ่งเป็นสูตรพิเศษ และคิดว่าน้อง ๆ เยาวชน จะสามารถนำไปทำเองได้ตามสูตรที่เราแนะนำ อีกทั้งยังสามารถนำไปต่อยอดสร้างเป็นอาชีพได้ ส่วนวิชาชีพช่างตัดผมนั้น เห็นว่ามีน้อง ๆ เคยไปเรียนมาบ้างแล้วแต่ยังไม่เก่งนัก ภายใต้โครงการนี้ จึงเชิญอาจารย์ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญการตัดผมมาสอนให้กับน้อง ๆ โดยเฉพาะ" นายชนะกร กล่าว

ไม่เพียงเท่านี้ ทางทีเอ็มบียังได้จัดทีมเข้ามาสอนในเรื่องการบริหารจัดการ โดยเฉพาะด้านการเงิน การใช้จ่าย ดูแลต้นทุน และทำบัญชีเบื้องต้น เป็นต้น เพราะเมื่อน้อง ๆ เยาวชนเหล่านี้ได้มีโอกาสกลับไปสู่สังคมและได้เริ่มต้นประกอบวิชาชีพของตัวเองแล้วจะสามารถบริหารจัดการอาชีพหรือกิจการของตัวเองได้เป็นอย่างดี

นายชนะกร กล่าวอีกว่า ภายใต้โครงการอาสาสมัครเปลี่ยนชุมชนเพื่อความยั่งยืนนี้ ทีเอ็มบีได้เข้ามาช่วยส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพให้กับน้อง ๆ เยาวชนที่ก้าวพลาดในสองอาชีพ ซึ่งเป็นอาชีพที่คาดหวังว่าพวกน้อง ๆ จะสามารถนำไปต่อยอดและประกอบอาชีพของตัวเองได้จริง อีกทั้งเป็นคนที่เข้มแข็งในสังคมได้คนหนึ่งและใช้ชีวิตอย่างมีความสุขต่อไป

ปั้นต้นแบบเยาวชนเพื่อสังคม

ด้าน "นายวุฒิชัย วงศ์จิโรจน์" เลขาธิการมูลนิธิบ้านพระพร กล่าวว่า มูลนิธิฯ ได้รับช่วยเหลือเยาวชนที่ด้อยโอกาสที่ก้าวพลาดเข้ามาฟื้นฟู ปรับทัศนคติ ให้ทุนการศึกษา และจัดโครงการฝึกอาชีพเพื่อพวกเขาจะสามารถนำไปประกอบเป็นวิชาชีพได้จริง ซึ่งมีทั้งการเกษตร เบเกอรี่ ช่างตัดผม คาร์แคร์ และการทำกีตาร์แฮนด์เมด เป็นต้น โดยโครงการของทีเอ็มบีที่เข้ามาช่วยเหลือในครั้งนี้ได้ช่วยเติมเต็มในส่วนที่ยังเป็นจุดอ่อนของทางมูลนิธิฯ ด้วย เช่น สอนในเรื่องการจัดทำบัญชี การใส่ความคิดสร้างสรรค์เข้าไป ซึ่งสิ่งเหล่านี้เชื่อว่าจะสามารถช่วยเหลือเยาวชนผู้ด้อยโอกาสได้พัฒนาชีวิตตัวเองให้ดีขึ้นได้จริง

นอกจากนี้ การมีพี่ ๆ อาสาสมัครเข้ามา นับว่ามีส่วนสำคัญเป็นอย่างมาก ทำให้น้อง ๆ เหล่านี้ได้เห็นชีวิตของคนอีกกลุ่มหนึ่งในสังคม กลุ่มคนที่มีความคิดอ่าน มีความรับผิดชอบ ให้เยาวชนที่นี่ได้เห็นว่าชีวิตไม่ได้มีเพียงด้านเดียว ความสนุกในแบบที่เขาทำอยู่ ไม่ได้ทำให้ชีวิตเขาดีขึ้น ซึ่งเมื่อเขาได้มีปฏิสัมพันธ์กับพี่ ทีเอ็มบี ทำให้พวกเขาได้เห็นสังคมที่กว้างขึ้น สามารถซึมซับ และเปลี่ยนแปลงพัฒนาตัวเองไปในทางที่ดีขึ้นได้

นายวุฒิชัย กล่าวด้วยว่า สำหรับแผนในอนาคต คือการสร้างให้เยาวชนที่ได้รับการฝึกอบรมกลุ่มนี้ไม่ว่าจะเป็นช่างตัดผม เบเกอรี่ หรือการเกษตร เป็นต้นแบบในการเข้าไปช่วยเหลือเยาวชนด้อยโอกาสที่ก้าวพลาด ให้สามารถกลับคืนสู่สังคมเป็นคนดีได้อีกครั้ง โดยน้อง ๆ เหล่านี้จะสามารถกลับเข้าไปช่วยเหลือเยาวชนในสถานพินิจหรือคนในเรือนจำได้ และต่อไปคาดหวังว่ายังจะสามารถเข้าไปช่วยเหลือกลุ่มเยาวชนที่กำลังจะก้าวพลาดได้อีกด้วย เพื่อพวกเขาจะสามารถเข้าไปต่อยอดช่วยเหลือสังคมต่อ ๆ ไปได้ไม่สิ้นสุด

2 จิตอาสาร่วมส่งต่อความฝัน

สำหรับโครงการ "สร้างอาชีพ คืนคนดี สู่สังคม" นอกจากทีมอาสาสมัครจากทีเอ็มบีแล้ว ทางทีเอ็มบีเองยังร่วมกับจิตอาสาในการเป็นวิทยากรเข้าช่วยฝึกอาชีพให้กับน้อง ๆ อีก 2ท่าน นั่นคือ "นางเภริตา คุ้มภัย" พี่จิตอาสาที่เข้ามาช่วยสอนทำขนมเค้กกล้วยหอมเนยสด ซึ่งเธอเล่าว่า ก่อนหน้านี้ไม่รู้จักมูลนิธิบ้านพระพรมาก่อนเลย แต่เมื่อได้มีโอกาสจึงอาสาที่จะเข้ามาช่วยเพราะมีความตั้งใจอยู่แล้วว่าหากตัวเองสามารถช่วยเหลือสังคมได้ก็ต้องการเข้าไปทำ และคิดว่าสูตรขนมที่มีอาจจะสามารถทำช่วยทำรายได้ให้กับหลาย ๆ คนได้

"พี่มีลูกอยู่ในวัยเดียวกับน้องเยาวชนกลุ่มนี้ ซึ่งคิดว่าอย่างน้อยเราให้โอกาสเขา และที่ผ่านมาเขาอาจจะผ่านอะไรมาที่อาจจะดูโหดร้ายสำหรับเขา บางทีเขาก็อยากจะได้รับโอกาสจากสังคมแต่ก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไร ส่วนเราเองอย่างน้อยก็มาเป็นทางเลือกหนึ่งให้น้อง ๆ ได้เริ่มเห็นและเก็บเกี่ยวสิ่งดี ๆ เพื่อจะสามารถกลับเข้าสู่สังคมได้ง่าย และในอนาคตหากมีโอกาสช่วยเหลือเรื่องอื่น ๆ อีกก็ยินดีหากสามารถทำได้" นางเภริตา กล่าว

"อาจารย์สันทัด พินน้อย" อาจารย์สอนเสริมสวยและอาภรณ์ ช.2 โรงเรียนฝึกอาชีพกรุงเทพมหานคร หนองจอก เป็นจิตอาสาที่อีกท่านที่เข้าร่วมในโครงการนี้ โดยอาจารย์เล่าว่า ปกติในเวลาว่างจะพาทีมงานเป็นจิตอาสาไปตัดผมให้กับชุมชนอยู่แล้ว และในครั้งนี้ได้เข้ามาจุดประกายความฝันให้น้อง ๆ และสานฝันในการฝึกอาชีพเป็นช่างตัดผม ซึ่งเด็ก ๆ ที่นี่มีความอ่อนน้อม และตั้งใจใฝ่หาความรู้ และเห็นว่ามีน้อง ๆ หลายคนที่จะสามารถเข้าไปฝึกฝนต่อเนื่องและเป็นช่างตัดผมมืออาชีพได้จริง

"เรากระตุ้นให้เขาเห็นว่าการเป็นช่างตัดผมสามารถที่จะเลี้ยงตัวเองและครอบครัวได้จริง ซึ่งน้อง ๆ เขาก็มองเห็นโอกาสนั้นและก็คว้าโอกาสนั้นด้วย นอกจากนี้ ผมปลูกฝังให้เยาวชนกลุ่มนี้ให้กลับมาฝึกฝนน้อง ๆ ในรุ่นต่อ ๆ ไปด้วย และในอนาคตยังคิดจัดทีมจิตอาสาส่งเข้ามาช่วยฝึกฝนน้อง ๆ ที่ต้องการฝึกอาชีพช่างตัดผมเพิ่มเติมด้วย เพื่อให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้ประสบการณ์จากช่างมืออาชีพที่แตกต่างกันออกไป"อาจารย์สันทัด กล่าว

มุ่งมั่นสร้างความฝันให้เป็นจริง

ด้านเยาวชนที่ได้เข้าร่วมโครงการ "สร้างอาชีพ คืนคนดี สู่สังคม" ในครั้งนี้ คาดหวังจะนำไปใช้ในการสร้างอาชีพของตนเองในอนาคต โดย "คิว" ผู้ที่เรียนเป็นช่างตัดผม กล่าวว่าทางมูลนิธิฯ แนะนำให้เข้าร่วมกับโครงการนี้เพราะส่วนตัวแล้วมีความฝัน ตั้งใจจริงในการจะเป็นช่างตัดผมและอยากจะมีร้านตัดผมเป็นของตัวเองในอนาคต เพื่อเป็นอาชีพเลี้ยงตัวเองและดูแลพ่อ-แม่

"ผมได้รับแรงบันดาลใจมาจากรุ่นพี่ด้วย ซึ่งก่อนหน้านี้เขาเคยเป็นเยาวชนที่ก้าวพลาดและเข้ามาฟื้นฟู ได้รับการช่วยเหลือจากมูลนิธิบ้านพระพรมาก่อน จนปัจจุบันพี่เขาประสบความสำเร็จเป็นช่างตัดผมมืออาชีพและมีรายได้สามารถดูแลครอบครัวและพ่อ-แม่ได้ โดยไม่กลับเข้าไปในสังคมเดิม ๆ อีก จึงทำให้ผมมีแรงผลักดันที่อยากจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ของผมเองเช่นกัน"

อย่างไรก็ดี หลังจากจบโครงการของทีเอ็มบีในครั้งนี้แล้ว คิวบอกว่า ยังมีความตั้งใจที่จะไปฝึกฝนฝีมือต่อ เพราะต้องหาประสบการณ์ให้มากขึ้น แม้ปัจจุบันจะสามารถตัดผมได้แล้วและยังสามารถช่วยสอนน้อง ๆ ตัดผมด้วยแล้ว แต่คิดว่าการเป็นช่างตัดผมมืออาชีพได้ยังต้องใช้ความละเอียดอีกมาก เช่น การออกแบบทรงผมให้เข้ากับรูปหน้าของลูกค้า รวมไปถึงการฝนฝนวิธิการตัดผมในหลากหลายรูปแบบด้วย

ส่วน "ดา" มีความตั้งใจที่จะใช้ความสามารถในการทำขนมของตนเองจากการที่ได้เข้ารับการอบรมจากการจัดกิจกรรมครั้งนี้ โดยจะใช้เป็นอาชีพเสริมเพื่อหารายได้เสริมให้กับตนเองหลังออกจากมูลนิธิบ้านพระพรแล้ว

"หนูชอบทำขนมอยู่แล้วและได้รับการสอนมาตั้งแต่สมัยอยู่ในสถานพินิจก่อนแล้ว เพราะส่วนตัวเป็นคนชอบทานขนม โดยเฉพาะขนมไทย พอมาอยู่ที่นี่ก็ขอเข้าไปเรียนทำเบเกอรี่ด้วย ส่วนการเข้าร่วมอบรมกับทางโครงการของทีเอ็มบี ก็ได้รับอีกสูตรหนึ่งในการทำขนมเค้กกล้วยหอมเนยสด ซึ่งคิดว่าน่าจะนำไปสร้างรายได้ให้กับตัวเองได้ในอนาคต" ดา กล่าวและบอกด้วยว่า การทำขนมมีส่วนทำให้ตัวเองเป็นคนใจเย็นขึ้น ทำอะไรด้วยความมีสติมากขึ้น และคิดว่าการที่ทีเอ็มบีเข้ามาสนับสนุนเราก็ยิ่งเป็นโอกาสให้เราได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ไว้กับตัวเองให้มากขึ้นด้วย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๔ พ.ค. Siriraj Education Expo 2024 ก้าวสู่ยุคใหม่ไปกับศิริราช พร้อมยกระดับทางการแพทย์ให้ดีขึ้น เพื่อสุขภาวะที่ดีของคนไทยทุกคน
๐๓ พ.ค. ครั้งแรก! งานเทศกาลคอนเทนต์ LGBTQ ฉลองความเท่าเทียมทางเพศ THAILAND INTERNATIONAL LGBTQ FILM TV FESTIVAL 2024 ปักหมุดเตรียมพบกัน กันยายนนี้
๐๓ พ.ค. โน วัน เอลส์ ส่ง 3 เพลงรัก 3 สไตล์! ผ่านมิวสิกซี่รีย์ ที่จะทำให้คุณเข้าใจความรักมากขึ้น
๐๓ พ.ค. ทีซีเอ็มซีมอบรางวัลประกวดการออกแบบผลงานด้านผลิตภัณฑ์อคูสติกส์
๐๓ พ.ค. GT Auto ฉลองแชมป์ยอดขาย Volvo จัดงาน มหกรรม GT Auto Show ลดสูงสุด 1,000,000 บาท พร้อมชูบริการ GT Auto Exclusive Service
๐๓ พ.ค. กทม. เตรียมพร้อมให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเสี่ยงและนักเรียนในสังกัด
๐๓ พ.ค. กรมส่งเสริมการเกษตร ประชุมคณะทำงานความร่วมมือด้านการรับรองแหล่งผลิตพืชฯ (GAP พืช) ครั้งที่ 1/2567
๐๓ พ.ค. First Sale! realme 12 5G และ realme 12X 5G สัมผัสประสบการณ์ Portrait Master กับกล้องซูม 3X in sensor
๐๓ พ.ค. CRYSTALLIZING ใหม่! โดย SHISEIDO PROFESSIONAL อัปเกรดกลุ่มผลิตภัณฑ์ยืด-ดัดผม ชูเทคโนโลยีสุดล้ำ DUAL PERFORMANCE SYSTEM
๐๓ พ.ค. บัลเลต์ รีทรีต บนเกาะมัลดีฟส์ กลับมาอีกครั้ง ที่ อวานี พลัส แฟเรส โดย คาร์ริส สการ์เลต นักเต้นบัลเลต์ชื่อดัง