ในปี 2561 มาเลเซียต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวไทยจำนวน 1.9 ล้านคน เพิ่มขึ้น 4.3% ซึ่งบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้เมื่อปีที่แล้ว
แคมเปญล่าสุดนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อนำเสนอความหลากหลายของปีนังในหลากหลายแง่มุม ไม่ว่าจะเป็นวัฒนธรรม มรดก ศิลปะ อาหาร รวมถึงสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติต่างๆ ทั้งทางทะเลและภูเขา กิจกรรมพิเศษภายในงานเริ่มด้วยการนำเสนอสถานที่ท่องเที่ยวและเส้นทางการบินใหม่ล่าสุด ตามมาด้วยการจับคู่ทางธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ โดยมีผู้ขายจากปีนัง 9ราย พันธมิตร 4 ราย จาก AirAsia Malaysia Airlines Thai Smile Airways และ KTC มาพบกับผู้ซื้อกว่า 112 รายหรือ 71 บริษัทนำเที่ยวตัวแทนประเทศไทยเพื่อต่อยอดธุรกิจการท่องเที่ยวร่วมกัน
นาย โยว ซุน ฮิน มนตรีแห่งรัฐปีนังด้านการพัฒนาท่องเที่ยว ศิลปะ วัฒนธรรม และมรดกกล่าวว่า "แคมเปญใหม่ล่าสุดนี้ที่กำลังเปิดตัวทั่วโลก เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ในการส่งเสริมปีนังให้เป็นจุดหมายปลายทางระดับโลก แสดงความโดดเด่นของเมืองที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งมีกลิ่นอายทางประวัติศาสตร์ในสมัยที่มีการแลกเปลี่ยนการค้าและอารยธรรมในอดีต ได้รับอิทธิพลจากทั้งมาเลย์ จีน อินเดีย และยุโรป แคมเปญการท่องเที่ยวนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้ได้สัมผัสความคลาสสิคและความชิคของปีนังด้วยตัวเองตลอดปี 2019 จนถึงปี 2020"
"สำหรับประเทศไทยเนื่องจากเป็นตลาดที่มีศักยภาพสำหรับเราและมีความผูกพันธ์กันทางอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวนี้มาเป็นเวลานาน ในวันนี้เราจึงได้จัดให้มีการจับคู่ทางธุรกิจและนำผู้ประกอบการท่องเที่ยวของปีนัง มาพบกับตัวแทนบริษัทนำเที่ยวไทย เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจ ในกลุ่มผู้ที่มีศักยภาพในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวร่วมกัน" นาย โยว ซุน ฮิน กล่าวเสริม
แคมเปญการท่องเที่ยวของปีนังได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากสองพันธมิตรใหญ่ที่มีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและไลฟ์สไตล์ในประเทศไทย อันดับแรกคือบริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (KTC) เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการผลิตภัณฑ์ทางการเงินชั้นนำที่ตรงกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้า KTC ได้รับเชิญให้เข้าร่วมในฐานะพันธมิตรที่สำคัญในการส่งเสริมการตลาดในประเทศไทยโดยเฉพาะสำหรับสมาชิก KTC กว่า 3 ล้านบัญชี ผ่านแคมเปญพิเศษ "Retro Go Penang" ซึ่งสอดคล้องกับแคมเปญดั้งเดิม"Experience Penang 2020" โดยการประกาศความร่วมมือระหว่าง KTC และ PGT จัดขึ้นพร้อมกับการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของแคมเปญ "Experience Penang 2020" โดยมีรายละเอียด ดังนี้
สมาชิกบัตรจะได้ส่วนลดพิเศษสูงสุด 2,020 บาท เมื่อซื้อแพคเกจ F.I.T. ปีนัง กับพันธมิตรสายการบิน ตัวแทนเอเย่นต์ที่ร่วมรายการฯ และ KTC World Travel Serviceกิจกรรม Workshop เรียนถ่ายภาพ "เที่ยวปีนังยังไงให้ปัง ให้เป๊ะ !กิจกรรมการแข่งขัน Influencers' Experience Penang 2020 เป็นต้น ติดตามข่าวสาร สิทธิพิเศษสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซีภายใต้แคมเปญนี้ ได้ที่ www.ktcworld.co.th/retroGopenang
อีกหนึ่งพันธมิตร คือ AirAsia สายการบินต้นทุนต่ำชั้นนำของโลกที่รับรางวัล World Travel Awards (WTA) เป็นปีที่ 6 ให้การสนับสนุนด้านการส่งเสริมกลยุทธ์เจาะตลาดไทยสู่ปีนัง โดยจะเริ่มตั้งแต่เดือนสิงหาคมถึงตุลาคม 2562 ผู้ที่สนใจสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้จากเฟสบุ๊ค AirAsia
การประกาศความร่วมมือครั้งนี้จัดขึ้นพร้อมกับการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของแคมเปญ "Experience Penang 2020" โดยมีตัวแทนผู้บริหารจากปีนังและประเทศไทยประกอบด้วยนาย โยว ซุน ฮิน - มนตรีแห่งรัฐปีนังด้านการพัฒนาท่องเที่ยว ศิลปะ วัฒนธรรม และมรดก; ฯพณฯ ดาโต๊ะ โจจี้ ซามูเอ็ล เอ็ม ซี ซามูเอ็ล - เอกอัครราชทูตมาเลเซียประจำประเทศไทย; คุณอุย ชอค เยียน – ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการท่องเที่ยวปีนัง; คุณนอรัน อูจัง ผู้อำนวยการฝ่ายกองอาเซียน การท่องเที่ยวมาเลเซีย; คุณทัศนีย์ เกียรติกำจรชัย – เลขาธิการสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว; คุณพิทยา วรปัญญาสกุล - รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารธุรกิจบัตรเครดิต "เคทีซี" หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน)
แขกผู้มีเกียรติและสื่อมวลชนที่มาร่วมงานได้รับชมการแสดง "Retro Go Penang" ในช่วงอาหารกลางวันและมีโอกาสลุ้นรับรางวัลจับฉลากสุดคุ้ม
ศิลปะและวัฒนธรรมเป็นหนึ่งในเสน่ห์การท่องเที่ยวหลักที่ได้รับการส่งเสริมโดย PGT ภายใต้แนวคิด "Experience Penang 2020" และกลุ่มนักท่องเที่ยวเป้าหมายจะรวมถึงคนรุ่นใหม่ที่ชอบเดินทางท่องเที่ยวด้วยตัวเอง และหาข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ตเอง ผู้นิยมเทคโนโลยี รวมถึงกลุ่มคนรักอาหาร ดังนั้น แฮชแท็ก #เที่ยวปีนังยิ่งเก๋ายิ่งเก๋ จึงนำมาเป็นกิมมิคเพื่อสร้างภาพจำของการท่องเที่ยวในปีนังที่นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสทั้งความคลาสสิค ความเก๋ และเท่ห์แบบมีเอกลักษณ์ หรือที่เรียกว่า "Retro Style"
และนอกเหนือจากศิลปะและวัฒนธรรม ปีนังยังมีแง่มุมการท่องเที่ยวอื่นๆมานำเสนอเพื่อตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นแนว อาหารและไลฟ์สไตล์ ธรรมชาติและการผจญภัย เทศกาลและกิจกรรม MICE การท่องเที่ยวทางเรือ และการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็น "ความหลากหลายของเอเชีย" ตามหัวใจหลักของแคมเปญ