บลจ.กสิกรไทย เตรียมเงินกว่า 80 ล้านบาท จ่ายปันผลกองทุน ABFTH ดีเดย์ 25 มิ.ย.นี้

จันทร์ ๒๔ มิถุนายน ๒๐๑๙ ๑๐:๕๖
นายชัชชัย สฤษดิ์อภิรักษ์ Chief Investment Officer (รองกรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการลงทุน) บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยว่า บลจ.กสิกรไทย เตรียมจ่ายเงินปันผลกองทุนเปิดดัชนีพันธบัตรไทยเอบีเอฟ (ABFTH) สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2561 – 31 พฤษภาคม 2562 ในอัตรา 11.00 บาทต่อหน่วย ให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีรายชื่อในสมุดทะเบียน ณ วันที่ 18 มิถุนายน 2562 โดยมีกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 25 มิถุนายน 2562 รวมมูลค่าทั้งสิ้น 87.73 ล้านบาท

นายชัชชัยกล่าวต่อไปว่า ปัจจุบันกองทุน ABFTH มีขนาดประมาณ 10,205 ล้านบาท และจดทะเบียนซื้อขายอยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ซึ่งกองทุนมีนโยบายเน้นลงทุนในตราสารหนี้ที่ออกโดยรัฐบาลไทย หรือออกโดยภาครัฐที่มีรัฐบาลไทยเป็นผู้ค้ำประกัน หรือภาครัฐที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือไม่ต่ำกว่าระดับที่สามารถลงทุนได้ (Investment Grade) จากสถาบันจัดอันดับที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล จึงมีความเสี่ยงด้านการผิดนัดชำระหนี้ต่ำมาก ทั้งนี้ นับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนเมื่อปี 2549 กองทุนมีการจ่ายปันผลรวมแล้วทั้งสิ้น 27 ครั้ง เป็นเงิน 435.73 บาทต่อหน่วย โดยในรอบผลการดำเนินงาน 1 ปีที่ผ่านมา กองทุนมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield) เฉลี่ยอยู่ที่ 1.19% ต่อปี ขณะที่ผลการดำเนินงานย้อนหลัง 1 ปี, 5 ปี และ 10 ปี อยู่ที่ 4.62% ต่อปี, 3.98% ต่อปี และ 3.92% ต่อปี เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานซึ่งอยู่ที่ 4.46% ต่อปี, 4.09% ต่อปี และ 4.06% ต่อปี ตามลำดับ (ข้อมูล ณ วันที่ 31 พ.ค. 62)

"สำหรับภาวะตลาดตราสารหนี้ จากปัจจัยเสี่ยงทางเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะประเด็นสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนที่ยังมีความไม่แน่นอน ทำให้เศรษฐกิจโลกทั้งกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วและประเทศเกิดใหม่มีสัญญาณที่ชะลอลง ตลาดคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจปรับลดดอกเบี้ยลง ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงมาก และส่งผลให้อัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ไทยปรับตัวลดลงตาม ทั้งนี้ ยังคงคาดว่าดอกเบี้ยนโยบายของไทยมีแนวโน้มทรงตัวไปอย่างน้อยจนถึงสิ้นปีนี้ ด้านส่วนต่างผลตอบแทนหุ้นกู้ (Credit Spread) ของไทย ที่ปรับตัวลดลงจากการที่มีอุปสงค์จากนักลงทุนในการหาโอกาสเพิ่มผลตอบแทน ทำให้ผลตอบแทนการลงทุนตราสารหนี้โดยรวมในช่วงที่ผ่านมาปรับตัวได้ดี อย่างไรก็ตาม สำหรับการลงทุนในอนาคตซึ่งจะมีประเด็นเรียกเก็บภาษีเงินได้ตราสารหนี้กองทุนรวมในอัตรา 15% ก่อนจ่ายดอกเบี้ยให้กองทุนรวม สำหรับตราสารที่กองทุนลงทุนหลังวันที่ 20 ส.ค. 62 ซึ่งทาง บลจ.กสิกรไทย ได้ติดตามศึกษาประเด็นดังกล่าว และเตรียมสถานะของกองทุนเพื่อลดผลกระทบจากการจัดเก็บภาษีดังกล่าว โดยได้ลงทุนเพิ่มเติมในหุ้นกู้เอกชนก่อนวันที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้" นายชัชชัยกล่าว

นายชัชชัยกล่าวเพิ่มเติมว่า กองทุน ABFTH เป็นกองทุนรวมตราสารหนี้ระยะยาวที่มีอายุเฉลี่ยของตราสาร (Portfolio Duration) ยาวกว่ากองทุนรวมตราสารหนี้ทั่วไป จึงควรมีระยะเวลาการถือครองเฉลี่ยประมาณ 6-7 ปี เพื่อโอกาสสร้างผลตอบแทนที่สูงขึ้น ทั้งนี้ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บลจ.กสิกรไทย หรือ KAsset Contact Center 0 2673 3888

ผู้ลงทุนโปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงได้ที่ www.kasikornasset.com หรือ บลจ.กสิกรไทย หรือธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา หรือขอข้อมูลดังกล่าวจากบุคคลที่เสนอขายหน่วยลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๔ พ.ค. Siriraj Education Expo 2024 ก้าวสู่ยุคใหม่ไปกับศิริราช พร้อมยกระดับทางการแพทย์ให้ดีขึ้น เพื่อสุขภาวะที่ดีของคนไทยทุกคน
๐๓ พ.ค. ครั้งแรก! งานเทศกาลคอนเทนต์ LGBTQ ฉลองความเท่าเทียมทางเพศ THAILAND INTERNATIONAL LGBTQ FILM TV FESTIVAL 2024 ปักหมุดเตรียมพบกัน กันยายนนี้
๐๓ พ.ค. โน วัน เอลส์ ส่ง 3 เพลงรัก 3 สไตล์! ผ่านมิวสิกซี่รีย์ ที่จะทำให้คุณเข้าใจความรักมากขึ้น
๐๓ พ.ค. ทีซีเอ็มซีมอบรางวัลประกวดการออกแบบผลงานด้านผลิตภัณฑ์อคูสติกส์
๐๓ พ.ค. GT Auto ฉลองแชมป์ยอดขาย Volvo จัดงาน มหกรรม GT Auto Show ลดสูงสุด 1,000,000 บาท พร้อมชูบริการ GT Auto Exclusive Service
๐๓ พ.ค. กทม. เตรียมพร้อมให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเสี่ยงและนักเรียนในสังกัด
๐๓ พ.ค. กรมส่งเสริมการเกษตร ประชุมคณะทำงานความร่วมมือด้านการรับรองแหล่งผลิตพืชฯ (GAP พืช) ครั้งที่ 1/2567
๐๓ พ.ค. First Sale! realme 12 5G และ realme 12X 5G สัมผัสประสบการณ์ Portrait Master กับกล้องซูม 3X in sensor
๐๓ พ.ค. CRYSTALLIZING ใหม่! โดย SHISEIDO PROFESSIONAL อัปเกรดกลุ่มผลิตภัณฑ์ยืด-ดัดผม ชูเทคโนโลยีสุดล้ำ DUAL PERFORMANCE SYSTEM
๐๓ พ.ค. บัลเลต์ รีทรีต บนเกาะมัลดีฟส์ กลับมาอีกครั้ง ที่ อวานี พลัส แฟเรส โดย คาร์ริส สการ์เลต นักเต้นบัลเลต์ชื่อดัง