กองทุน FTA ไฟเขียว 59.9 ล้านบาท พัฒนาโคเนื้อ-โคนม รองรับเปิดเสรีการค้าไทย-ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์

พฤหัส ๒๗ มิถุนายน ๒๐๑๙ ๐๙:๔๕
นางอัญชนา ตราโช รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงผลการประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนปรับโครงสร้างการผลิตภาคเกษตรเพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศ (กองทุน FTA) เมื่อวันที่ 14 มิถุนายนที่ผ่านมาว่า เพื่อเป็นการรองรับการเปิดเสรีการค้าไทย-ออสเตรเลีย ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในปี 2564 และการเปิดเสรีการค้าไทย-นิวซีแลนด์ มีผลบังคับใช้ในปี 2568 ซึ่งหากการเปิดเสรีการค้ามีผลบังคับใช้อาจมีการนำเข้าเนื้อโค น้ำนมและผลิตภัณฑ์จากทั้ง 2 ประเทศที่มีศักยภาพการผลิตสูงกว่า ทำให้เกษตรกรไทยซึ่งส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรรายย่อย ไม่สามารถแข่งขันด้านราคากับต่างประเทศได้ เนื่องจากมีต้นทุนการผลิตสูงกว่าต่างประเทศ ดังนั้น กองทุน FTA ได้เล็งเห็นถึงความจำเป็นในการเร่งสร้างความเข้มแข็งให้สินค้าโคเนื้อและโคนมของไทยเพื่อรองรับการเปิดเสรีการค้า จึงได้อนุมัติงบประมาณ 59.9 ล้านบาท ให้กรมปศุสัตว์ และ องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย เพื่อนำไปพัฒนาการผลิตสินค้าโคเนื้อ และโคนม จำนวน 2 โครงการ ได้แก่

โครงการศึกษาศักยภาพการขุน คุณภาพซาก และผลตอบแทนทางเศรษฐกิจของโคเนื้อ 5 สายพันธุ์ ในระบบการขุนเชิงการค้า ของกรมปศุสัตว์ จำนวน 4 ล้านบาท เพื่อเร่งศึกษาศักยภาพการขุนโคเนื้อ 5 สายพันธุ์ ซึ่งเป็นพันธุ์โคเนื้อที่เกษตรกรนิยมเลี้ยง ได้แก่ โคเนื้อพันธุ์พื้นเมือง โคเนื้อลูกผสมโคนมและโคเนื้อ โคเนื้อพันธุ์บราห์มัน โคเนื้อพันธุ์ตาก และโคเนื้อพันธุ์กบินทร์บุรี ซึ่งข้อมูลที่ได้จากการศึกษาจะช่วยให้เกษตรกรสามารถตัดสินใจวางแผนการเลี้ยงโคเชิงการค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ หน่วยงานภาครัฐก็สามารถนำข้อมูลมากำหนดนโยบายและแนวทางการส่งเสริมอาชีพการเลี้ยงโคเนื้อและโคขุนได้อย่างเหมาะสม โดยโครงการนี้ได้รับความร่วมมือจากสหกรณ์ผู้เลี้ยงโคขุนในเขตปฏิรูปที่ดินปางศิลาทอง จำกัด จังหวัดกำแพงเพชร ให้ใช้สถานที่และร่วมดูแลโคเนื้อระหว่างที่มีการศึกษาวิจัย

สำหรับอีกหนึ่งโครงการ คือ โครงการจัดตั้งฟาร์มโคนมประสิทธิภาพสูง (Thai Denmark Smart Dairy Farm) ขององค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย จำนวน 55.9 ล้านบาท เพื่อจัดตั้งฟาร์มโคนมสาธิตเชิงธุรกิจที่มีประสิทธิภาพสูง หรือ "Smart Farm" มีการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยทั้งที่เป็น Hard wareและ Soft ware ช่วยในการบริหารจัดการฟาร์มสามารถให้ผลผลิตน้ำนมดิบเฉลี่ยไม่น้อยกว่า 20 กก./ตัว/วัน โดยฟาร์มแห่งนี้จะเป็นตัวอย่างในการพัฒนาการบริหารจัดการฟาร์มของเกษตรกรเพื่อเพิ่มปริมาณและคุณภาพน้ำนมดิบ เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้และการฝึกปฏิบัติของบุคลากรมืออาชีพการเลี้ยงโคนม รวมทั้งเปิดโอกาสให้บุคคลทั่วไปได้เข้าชมฟาร์มเพื่อเป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์อาชีพการเลี้ยงโคนม และการผลิตน้ำนมที่สะอาด มีคุณภาพตามมาตรฐานสากล ส่งผลในการกระตุ้นการบริโภคนมภายในประเทศ

ทั้งนี้ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร โดยกองทุน FTA จะยังคงมุ่งมั่นช่วยเหลือภาคเกษตรกรรมให้มีความแข็งแกร่ง ให้เกษตรกรไทยสามารถแข่งขันกับโลกเสรีทางการค้าได้อย่างมั่นใจ สำหรับเกษตรกรที่ต้องการทราบขอข้อมูลเพิ่มเติมจากกองทุน FTA สามารถสอบถามได้ที่ โทร. 0 2561 4727 หรือ Email:[email protected] หรือศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมที่ www2.oae.go.th/FTA

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๔ พ.ค. Siriraj Education Expo 2024 ก้าวสู่ยุคใหม่ไปกับศิริราช พร้อมยกระดับทางการแพทย์ให้ดีขึ้น เพื่อสุขภาวะที่ดีของคนไทยทุกคน
๐๓ พ.ค. ครั้งแรก! งานเทศกาลคอนเทนต์ LGBTQ ฉลองความเท่าเทียมทางเพศ THAILAND INTERNATIONAL LGBTQ FILM TV FESTIVAL 2024 ปักหมุดเตรียมพบกัน กันยายนนี้
๐๓ พ.ค. โน วัน เอลส์ ส่ง 3 เพลงรัก 3 สไตล์! ผ่านมิวสิกซี่รีย์ ที่จะทำให้คุณเข้าใจความรักมากขึ้น
๐๓ พ.ค. ทีซีเอ็มซีมอบรางวัลประกวดการออกแบบผลงานด้านผลิตภัณฑ์อคูสติกส์
๐๓ พ.ค. GT Auto ฉลองแชมป์ยอดขาย Volvo จัดงาน มหกรรม GT Auto Show ลดสูงสุด 1,000,000 บาท พร้อมชูบริการ GT Auto Exclusive Service
๐๓ พ.ค. กทม. เตรียมพร้อมให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเสี่ยงและนักเรียนในสังกัด
๐๓ พ.ค. กรมส่งเสริมการเกษตร ประชุมคณะทำงานความร่วมมือด้านการรับรองแหล่งผลิตพืชฯ (GAP พืช) ครั้งที่ 1/2567
๐๓ พ.ค. First Sale! realme 12 5G และ realme 12X 5G สัมผัสประสบการณ์ Portrait Master กับกล้องซูม 3X in sensor
๐๓ พ.ค. CRYSTALLIZING ใหม่! โดย SHISEIDO PROFESSIONAL อัปเกรดกลุ่มผลิตภัณฑ์ยืด-ดัดผม ชูเทคโนโลยีสุดล้ำ DUAL PERFORMANCE SYSTEM
๐๓ พ.ค. บัลเลต์ รีทรีต บนเกาะมัลดีฟส์ กลับมาอีกครั้ง ที่ อวานี พลัส แฟเรส โดย คาร์ริส สการ์เลต นักเต้นบัลเลต์ชื่อดัง