JWD โชว์ผลงานธุรกิจ 'รับฝากและบริหารสินค้าอันตราย’ พุ่งแรงทะลุเป้า ปลื้มศูนย์ JCS ได้คะแนนมาตรฐานเก็บวัตถุอันตรายสูงสุดหนุนความเชื่อมั่นลูกค้า

อังคาร ๒๓ กรกฎาคม ๒๐๑๙ ๑๐:๔๑
บมจ.เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ หรือ JWD โชว์ผลงานธุรกิจ 'รับฝากและบริหารสินค้าอันตราย' 2562 ครึ่งปีแรก

แรงทะลุเป้า รับปริมาณสินค้าอันตรายที่ผ่านเข้าออกท่าเรือแหลมฉบังพุ่งแรง คาดแนวโน้มครึ่งปีหลังยังดีต่อเนื่อง ส่วนธุรกิจศูนย์กระจายสินค้าเคมีภัณฑ์ (JCS) มีอัตราเช่าพื้นที่เพิ่มเป็น 70% ลุ้นปิดดีลลูกค้ารายใหญ่ดันพื้นที่เช่าเต็ม 100% ด้านผู้บริหารปลื้มศูนย์กระจายสินค้าเคมีภัณฑ์ได้คะแนนความปลอดภัยสูงสุด หลังกรมโรงงานอุตสาหกรรมส่งที่ปรึกษาลุยตรวจมาตรฐานการเก็บรักษาวัตถุอันตรายเพื่อยกระดับสถานที่จัดเก็บวัตถุอันตราย

นายชวนินทร์ บัณฑิตกฤษดา ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร JWD บริษัท เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟ

โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JWD ผู้เชี่ยวชาญด้านโลจิสติกส์และซัพพลายเชนระดับอาเซียน เปิดเผยว่า ภาพรวมการดำเนินธุรกิจ 'รับฝากและบริหารสินค้าอันตราย' ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ของบริษัทฯ ในช่วงครึ่งแรกปี 62 มีอัตราเติบโตสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ เนื่องจากความต้องการใช้บริการที่เพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา สอดคล้องกับปริมาณสินค้าอันตรายที่ผ่านเข้า-ออกพื้นที่ท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2562 ที่อยู่ในระดับที่ดี โดยมีปริมาณตู้เฉลี่ยอยู่ที่ 10,910 ตู้ต่อเดือน

ปัจจัยที่ธุรกิจรับฝากและบริหารสินค้าอันตรายมีผลการดำเนินงานทำสถิติสูงสุดมาจาก (1) ปริมาณสินค้าอันตรายผ่านเข้า-ออกท่าเรือแหลมฉบังที่เพิ่มขึ้น (2) ผู้ประกอบการธุรกิจโรงกลั่นและจำหน่ายผลิตปิโตรเลียมปรับปรุงสายการผลิต ส่งผลให้เกิดการเช่าพื้นที่จัดเก็บสินค้าอันตรายที่ใช้เป็นวัตถุดิบเป็นระยะเวลานานขึ้น และ (3) การขยายระยะเวลาการจัดเก็บสินค้านานขึ้นจากกลุ่มผู้ประกอบการสารเคมีอันตรายที่ผลิตซัพพลายเพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมาเพื่อรอการส่งออก จากปกติมีระยะเวลาเช่าพื้นที่เก็บสินค้าเฉลี่ย 3 วัน เพิ่มขึ้นเป็นเฉลี่ย 7-10 วัน

"ภาพรวมการดำเนินธุรกิจรับฝากและบริหารสินค้าอันตรายช่วงครึ่งปีแรกถือว่าดีมาก โดยปริมาณงานเพิ่มขึ้นทั้งในด้านบริการรับฝากสินค้าและค่าขนย้ายสินค้าที่ผ่านเข้า-ออกในพื้นที่ท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งโดยปกติการให้บริการเช่าพื้นที่พื้นที่จัดเก็บสินค้าอันตรายจะคิดเป็นอัตราก้าวหน้า คือยิ่งจัดเก็บนาน ค่าเช่าจะยิ่งแพงขึ้น และประเมินจากภาพรวมดังกล่าว จะยังคงมีแรงส่งที่ดีอย่างต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้" นายชวนินทร์ กล่าว

โดยแนวโน้มการดำเนินธุรกิจรับฝากและบริหารสินค้าอันตรายในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ มั่นใจว่าจะยังคงมีความต้องการใช้พื้นที่และบริการขนย้ายอยู่ในระดับสูง เนื่องจากผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับสารเคมีอันตรายมีแนวโน้มขยายโรงงานเข้ามาในแถบนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบังเพิ่มขึ้น หลังจากปัจจุบันพื้นที่ในโซนบางปู กระทุ่มแบน และสุขสวัสดิ์ มีข้อจำกัดด้านการขยายโรงงานอุตสาหกรรม เนื่องจากติดข้อกำหนดด้านผังเมืองที่เปลี่ยนแปลงสีผังใหม่ ขณะเดียวกันการขอใบอนุญาตเพื่อขยายการลงทุนอุตสาหกรรมถังเก็บสารเคมีอันตราย (Tank Farm) ในพื้นที่ใกล้เคียงแม่น้ำเจ้าพระยาเริ่มทำได้ยากขึ้น รวมถึงการขนส่งสารเคมีอันตรายที่มีความเข้มงวดด้านความปลอดภัยสูง

ขณะที่การดำเนินธุรกิจศูนย์กระจายสินค้าเคมีภัณฑ์หรือ JWD Chemical Supply Chain (JCS) ซึ่งเป็นศูนย์กระจายสินค้าเคมีภัณฑ์ทั้งในและต่างประเทศอย่างครบวงจร ในพื้นที่ท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี อาทิ แบ่งบรรจุภัณฑ์ บรรจุหีบห่อ

คัดแยกประเภท กระจายสินค้า ฯลฯ มีพื้นที่ให้บริการรวม 9,000 ตารางเมตร ก็มีผลการดำเนินงานที่ดี โดยลูกค้าส่วนใหญ่ที่มาใช้บริการคือกลุ่มผู้ประกอบการเทรดดิ้ง (ซื้อมาขายไป) สินค้าเคมีภัณฑ์ โดยเฉพาะบริษัทเทรดดิ้งขนาดใหญ่จากต่างประเทศที่เข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ส่งผลให้ ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2562 มีอัตราการใช้พื้นที่ 70% และอยู่ระหว่างการเจรจากับบริษัทผู้ผลิตสารเคมีชั้นนำอีก 1 ราย ซึ่งหากสามารถปิดการเจรจาได้จะทำให้มีอัตราการใช้พื้นที่เต็ม 100%

ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร JWD กล่าวอีกว่า จากที่กรมโรงงานอุตสาหกรรมได้ดำเนินโครงการจัดทำมาตรฐานการเก็บรักษาวัตถุอันตรายเพื่อยกระดับสถานที่จัดเก็บวัตถุอันตราย โดยจัดจ้างที่ปรึกษาโครงการดังกล่าวให้ดำเนินการสำรวจสถานประกอบการจัดเก็บวัตถุดิบอันตราย 100 แห่ง ปรากฏว่าในเบื้องต้น ศูนย์กระจายสินค้าเคมีภัณฑ์ของ JWD เป็น 1 ใน 5 สถานประกอบการฯ ที่ผ่านการตรวจสอบ โดยไม่มีจุดที่ปฏิบัติต่ำกว่ากฎหมายกำหนด นอกจากนี้บริษัทฯ ยังได้รับคะแนนการประเมินสูงสุด (เต็ม 100%) เป็นอันดับ 1 จากจำนวน 5 สถานประกอบการฯ ที่ผ่านการตรวจสอบในครั้งนี้อีกด้วย

ทั้งนี้ ปัจจัยที่ศูนย์กระจายสินค้าเคมีภัณฑ์ของบริษัทฯ ได้รับคะแนนสูงสุด เนื่องจากมีระบบความปลอดภัยและจัดการเหตุฉุกเฉินที่ได้มาตรฐาน โดยในอดีตบริษัทฯ ได้ก่อสร้าง ปรับปรุง และติดตั้งระบบความปลอดภัยในโครงการดังกล่าว โดยอ้างอิงมาตรฐานจากยุโรป ขณะเดียวกันก็มีการติดตั้งระบบที่เกินกว่ามาตรฐานกำหนดในบางจุด ได้แก่ การติดตั้งอุปกรณ์ตรวจจับควันไฟเพื่อส่งสัญญาณแจ้งเตือน (Beam Detector) และอุปกรณ์ตรวจจับเปลวไฟที่สั่งการปิดประตูอัตโนมัติ (Flame Detector) ภายในห้องเก็บวัตถุอันตราย เทียบกับมาตรฐานที่กำหนดให้ติดตั้งอุปกรณ์ตัวใดตัวหนึ่งก็เพียงพอ และการติดตั้งกำแพงกันไฟทุกห้องสูงเหนือหลังคา 1 เมตร จากมาตรฐานกำหนดไว้ที่ 30-50 เซนติเมตร ซึ่งการผ่านมาตรฐานการเก็บรักษาวัตถุอันตรายเพื่อยกระดับสถานที่จัดเก็บวัตถุอันตรายครั้งนี้จะเพิ่มความมั่นใจแก่ลูกค้าที่มาใช้บริการมากยิ่งขึ้น

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๔ พ.ค. Siriraj Education Expo 2024 ก้าวสู่ยุคใหม่ไปกับศิริราช พร้อมยกระดับทางการแพทย์ให้ดีขึ้น เพื่อสุขภาวะที่ดีของคนไทยทุกคน
๐๓ พ.ค. ครั้งแรก! งานเทศกาลคอนเทนต์ LGBTQ ฉลองความเท่าเทียมทางเพศ THAILAND INTERNATIONAL LGBTQ FILM TV FESTIVAL 2024 ปักหมุดเตรียมพบกัน กันยายนนี้
๐๓ พ.ค. โน วัน เอลส์ ส่ง 3 เพลงรัก 3 สไตล์! ผ่านมิวสิกซี่รีย์ ที่จะทำให้คุณเข้าใจความรักมากขึ้น
๐๓ พ.ค. ทีซีเอ็มซีมอบรางวัลประกวดการออกแบบผลงานด้านผลิตภัณฑ์อคูสติกส์
๐๓ พ.ค. GT Auto ฉลองแชมป์ยอดขาย Volvo จัดงาน มหกรรม GT Auto Show ลดสูงสุด 1,000,000 บาท พร้อมชูบริการ GT Auto Exclusive Service
๐๓ พ.ค. กทม. เตรียมพร้อมให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเสี่ยงและนักเรียนในสังกัด
๐๓ พ.ค. กรมส่งเสริมการเกษตร ประชุมคณะทำงานความร่วมมือด้านการรับรองแหล่งผลิตพืชฯ (GAP พืช) ครั้งที่ 1/2567
๐๓ พ.ค. First Sale! realme 12 5G และ realme 12X 5G สัมผัสประสบการณ์ Portrait Master กับกล้องซูม 3X in sensor
๐๓ พ.ค. CRYSTALLIZING ใหม่! โดย SHISEIDO PROFESSIONAL อัปเกรดกลุ่มผลิตภัณฑ์ยืด-ดัดผม ชูเทคโนโลยีสุดล้ำ DUAL PERFORMANCE SYSTEM
๐๓ พ.ค. บัลเลต์ รีทรีต บนเกาะมัลดีฟส์ กลับมาอีกครั้ง ที่ อวานี พลัส แฟเรส โดย คาร์ริส สการ์เลต นักเต้นบัลเลต์ชื่อดัง