คุณหมอแนะนำ: เคล็ด (ไม่) ลับบอกลาไขมัน ฉบับหุ่นสวยอย่างปลอดภัยและเฮลท์ตี้ โดย นพ. กรกฎ พานิช คณะกรรมการที่ปรึกษาด้านโภชนาการของเฮอร์บาไลฟ์ นิวทริชั่น (NAB)

ศุกร์ ๑๖ สิงหาคม ๒๐๑๙ ๑๓:๔๒
หนึ่งในปัญหากวนใจด้านสุขภาพและรูปร่างของใครหลายคน คงจะหนีไม่พ้น "ไขมันหน้าท้อง" ที่ทำให้เรามีพุงป่อง ๆ รู้สึกอึดอัด ใส่เสื้อผ้าไม่สวย แถมหุ่นดูไม่น่ามอง แถมด้วยภัยเงียบที่แฝงมาโดยไม่มีสัญญาณเตือน นั่นคือภาวะไขมันสะสมในช่องท้อง ซึ่งเป็นตัวอันตราย นำมาซึ่งภาวะ Metabolic Syndrome ที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างคาดไม่ถึงได้ วันนี้ผมจึงอยากชวนทุกคนมาทำความรู้จักกับไขมันส่วนนี้ให้ดียิ่งขึ้น รวมถึงแนะนำวิธีการปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันที่ทำได้จริงและปลอดภัย ซึ่งจะช่วยให้คุณมีรูปร่างดีและสมส่วน บอกลาไขมันหน้าท้อง ควบคู่ไปกับสุขภาพที่สดใสแข็งแรงยิ่งขึ้นและมีความสุขมากขึ้น

ภัยร้ายของไขมันที่อยู่ในช่องท้องและวิธีการวัดรอบเอว

ไขมันที่อยู่ในช่องท้อง (Visceral Fat) คือภาวะไขมันส่วนเกินที่สะสมอยู่ในช่องท้อง เกาะตามส่วนต่าง ๆ ในอวัยวะของเรา ซึ่งหากสะสมไว้มาก ๆ อาจส่งผลต่ออวัยวะสำคัญในร่างกาย สร้างความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาสุขภาพต่าง ๆ เกี่ยวกับระบบหัวใจและหลอดเลือด และโรคกลุ่ม NCDs หรือโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคไตซึ่งเป็นภาวะแทรกซ้อนจากเบาหวาน เป็นต้น

ยิ่งไปกว่านั้น ในปี 2017 มีงานวิจัยโดย Keren Papier ที่ศึกษาโอกาสของการเป็นโรคเบาหวานในคนไทย ข้อมูลที่น่าสนใจพบว่า หากใช้ค่า BMI <20.75 เป็นตัวเทียบ จะพบว่าในกลุ่มที่มีค่า BMI < 25 มีโอกาสเป็นโรคเบาหวานมากกว่ากลุ่ม BMI <20.75 ถึง 2 เท่าในกลุ่มผู้ชาย และมากถึง 6 เท่าในผู้หญิง จึงมีข้อเสนอจากการคำนวณทางสถิติว่า ปัจจุบันเราใช้ค่า BMI ปกติ <23.0 หากจะลดการเกิดโรคเบาหวานในคนไทยควรปรับลดค่าปกติมาอยู่ที่ <22.0

โดยปกติแล้ว การวัดไขมันในช่องท้องเพื่อตรวจหาความเสี่ยงของภาวะอ้วนลงพุงไม่ใช่เรื่องง่าย หากจะวัดให้แม่นยำต้องใช้เครื่อง CT หรือ MRI Scan อย่างไรก็ดี ยังมีวิธีวัดเทียบเคียงง่าย ๆ ที่ใช้กันทั่วไป ได้แก่ การวัดรอบเอว โดยขนาดรอบเอวของผู้หญิงควรน้อยกว่า 80 เซนติเมตร และผู้ชายควรน้อยกว่า 90 เซนติเมตร

เผาผลาญไขมันด้วยการออกกำลังกาย

บริเวณหน้าท้องของคนเราจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนด้านนอกที่เห็นได้ด้วยตาเปล่าคือไขมัน ส่วนที่ถัดไปข้างในคือกล้ามเนื้อที่ห่อหุ้มช่องท้องอยู่อีกชั้นหนึ่ง ถ้าเราต้องการลดไขมันที่ยื่นตรงหน้าท้อง เราก็ต้องออกกำลังกาย 2 ส่วน ส่วนแรกเอาไขมันผิวหนังออก ซึ่งต้องเน้นการเผาผลาญไขมันสะสมทั่วร่างกาย เช่น คาร์ดิโอเทรนนิ่งหรือ Endurance Training เป็นการออกกำลังกายแบบสบายๆ หรือหนักปานกลางอย่างน้อย 30-45 นาที แต่ถ้าอยากสลายไขมันอย่างรวดเร็ว ก็ให้ออกกำลังกายแบบ High-Intensity Interval Training (HIIT) เป็นการออกกำลังกายแบบหนักสลับเบา เช่นวิ่งเร็วๆ สลับเดิน ข้อดีของ HIIT คือไขมันยุบเร็ว แต่ไม่เหมาะกับคนที่ระบบหัวใจและข้อต่อไม่ดี เพราะเป็นการออกกำลังกายที่หนักและอาจเกิดการบาดเจ็บหรืออันตรายต่อระบบหัวใจได้ ส่วนที่สองคือเน้นกล้ามเนื้อแบบ 360 องศารอบลำตัว เราต้องทำให้กล้ามเนื้อที่ห่อหุ้มช่องท้องมีความกระชับ ดังนั้นต้องเพิ่มกำลังความแข็งแรงและยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อ ท้อง ด้านข้างลำตัว และหลัง

นับแคลอรี่ในอาหารและเติมเต็มโภชนาการให้ครบถ้วน

ไม่เพียงแค่ออกกำลังกายจะช่วยลดไขมันหน้าท้อง แต่การดูแลควบคุมอาหารให้เหมาะสมก็สำคัญเช่นกัน เพราะอันที่จริงแล้ว ไขมันไม่ได้สะสมอยู่แค่บริเวณหน้าท้องแต่สะสมอยู่ทั่วทุกส่วนในร่างกาย และการที่เรามีไขมันเกินก็เกิดจากร่างกายได้รับแคลอรี่เกินความต้องการ วิธีแก้ก็คือเราต้องรู้และจำกัดจำนวนแคลอรี่ในอาหารที่เรากินในแต่ละวัน ยกตัวอย่างเช่น ผู้ชายอาจต้องการพลังงานประมาณ 1,800-2,500 กิโลแคลอรี่ต่อวัน ส่วนผู้หญิงอาจต้องการพลังงานประมาณ 1,500-2,000 กิโลแคลอรี่ต่อวัน เราก็ต้องคอยสังเกตว่าในแต่ละวันเราบริโภคแคลอรี่เกินปริมาณที่ร่างกายต้องการไหม โดยสามารถทราบจำนวนแคลอรี่ของอาหารโดยเทียบจากตารางแสดงคุณค่าทางโภชนาการของอาหารไทย จัดทำโดยมหาวิทยาลัยมหิดล เช่นข้าวราดไก่ผัดใบกะเพรา 100 กรัมเท่ากับ 188 กิโลแคลอรี่ หรือประมาณ 500-600 กิโลแคลอรี่ต่อจาน

สิ่งที่ควรระวังคือถ้าเราเลือกกินอาหารที่มีไขมันเยอะและเอาพลังงานไปใช้น้อย ก็จะได้รับแคลอรี่เกินความต้องการและทำให้เกิดไขมันสะสม ดังนั้นต้องนับแคลอรี่ในอาหารและเลือกรับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายและมีสัดส่วนของคาร์โบไฮเดรต ไขมัน โปรตีน วิตามิน เกลือแร่ และน้ำในระดับที่เหมาะสม หากเราได้รับสารอาหารอย่างเพียงพอทั้งจากอาหารมื้อหลักหรืออาหารกลุ่ม meal replacement คุณภาพสูงที่มีโภชนาการครบถ้วนและสมดุล ก็จะช่วยบรรเทาความหิวและทำให้เราไม่รับประทานจุกจิกระหว่างมื้อบ่อยเกินไป ซึ่งจะช่วยให้เราดูแลน้ำหนักของตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นไปในตัวด้วย

ปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ให้ดีต่อสุขภาพ

ไลฟ์สไตล์ที่กระฉับกระเฉงและสมดุล ก็เป็นอีกหนึ่งกุญแจสำคัญที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงและ/หรือรักษารูปร่างและสุขภาพที่ดีได้ ไม่ว่าจะเป็นการนอนหลับพักผ่อนในเวลาที่เหมาะสมและเพียงพอ เพื่อให้ร่างกายได้ฟื้นฟูซ่อมแซมจากความเหนื่อยล้าต่างๆ ในชีวิตประจำวัน ดื่มน้ำให้เยอะ ๆ เพื่อเพิ่มเรื่องการไหลเวียนของเลือดให้ไปหล่อเลี้ยงตามเนื้อเยื่อต่าง ๆ ได้คล่องตัวขึ้น อีกทั้งช่วยให้ร่างกายมีความชุ่มชื้นและเซลล์ไม่ขาดน้ำ นอกจากนี้ ควรขับถ่ายให้สม่ำเสมอเพื่อไม่ให้เกิดของเสียสะสมและเกิดอนุมูลอิสระในร่างกาย เพราะจะส่งผลต่อระบบการเผาผลาญของร่างกายโดยอัตโนมัติและทำให้ระบบร่างกายทำงานผิดปกติจนเกิดเป็นโรคร้าย เช่น ภูมิแพ้ โรคเนื้อเยื่ออักเสบต่าง ๆ ไปจนถึงมะเร็งลำไส้ พร้อมทั้งหาเวลาผ่อนคลายเพื่อไปเที่ยวและ/หรือทำกิจกรรมสร้างสรรค์บ้างจะได้ไม่เครียดจนกินมากจนเกินไป

ตั้งใจปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิต ดูแลควบคุมอาหารในแต่ละวัน และหันมาออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอถือเป็นวิธีการขจัดไขมันที่ต้นทางและให้ผลดี การปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ตามธรรมชาติจะช่วยให้เรามีสุขภาพดีได้จริงในระยะยาว แม้จะยากแต่ก็ยั่งยืนแบบธรรมชาติ แนะนำให้ลองจดบันทึกสิ่งที่ลงมือปรับเปลี่ยนเป็นสัปดาห์ ๆ และอย่าบีบคั้นตนเองจนเกินไป ขอให้หมั่นพิจารณาตนเองเพื่อสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงขึ้น รูปร่างสวย และมีความสุขความมั่นใจต่อตนเองและชีวิตมากขึ้น

กดไลค์เราที่เฟซบุ๊ค พร้อมอีกหลากหลายเคล็ดลับดี ๆ เพื่อสุขภาพที่ดีและไลฟ์สไตล์ที่กระฉับกระเฉง ได้ที่

www.facebook.com/HerbalifeThailandOfficial

เกี่ยวกับเฮอร์บาไลฟ์ นิวทริชั่น

เฮอร์บาไลฟ์ นิวทริชั่น เป็นบริษัทโภชนาการระดับโลกที่มีความมุ่งหมายในการทำให้ผู้คนทั่วโลกมีสุขภาพที่ดีขึ้นและมีความสุขมากขึ้น บริษัทก่อตั้งขึ้นด้วยพันธกิจด้านโภชนาการ เพื่อช่วยเปลี่ยนแปลงชีวิตผู้คนด้วยโภชนาการและแผนการจัดการโภชนาการตั้งแต่ปี พ.ศ. 2523 เฮอร์บาไลฟ์ นิวทริชั่น ส่งมอบผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงที่ผ่านการรับรองทางวิทยาศาสตร์ พร้อมคำแนะนำเฉพาะบุคคลจากสมาชิกอิสระ รวมถึงแนวทางในการสนับสนุนชุมชน ที่เป็นแรงบันดาลใจให้ผู้บริโภคได้ใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาพดีและมีวิถีชีวิตที่กระฉับกระเฉงยิ่งขึ้น

ผลิตภัณฑ์ของเฮอร์บาไลฟ์ นิวทริชั่นครอบคลุมตั้งแต่ผลิตภัณฑ์โภชนาการเฉพาะ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อการจัดการน้ำหนัก ผลิตภัณฑ์เพื่อเสริมสร้างพลังงานและเพื่อการกีฬา ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวพรรณและเส้นผม ซึ่งจัดจำหน่ายเพื่อการอุปโภคบริโภคส่วนตัวของผู้จำหน่ายอิสระของเฮอร์บาไลฟ์ นิวทริชั่น และผ่านผู้จำหน่ายอิสระไปยังผู้บริโภคในกว่า 90 ประเทศทั่วโลก

เฮอร์บาไลฟ์ นิวทริชั่น ได้ให้การสนับสนุน เฮอร์บาไลฟ์ นิวทริชั่น ฟาวเดชั่น (Herbalife Nutrition Foundation: HNF) ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่ให้การสนับสนุนองค์กรต่าง ๆ ที่มุ่งส่งมอบโภชนาการที่ดีมาสู่ทุกคน นอกจากนี้ เฮอร์บาไลฟ์ นิวทริชั่น ยังได้ให้การสนับสนุนนักกีฬา สโมสรกีฬา รวมถึงการจัดการแข่งขันระดับโลกรวมกว่า 190 ราย

ปัจจุบัน เฮอร์บาไลฟ์ นิวทริชั่น มีพนักงานทั่วโลกกว่า 8,300 คน รายละเอียดเพิ่มเติม สามารถคลิกดูได้ที่เว็บไซต์ IAmHerbalife.com

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๗ เม.ย. อแมนด้า ชาร์ลีน ออบดัม VICHY LIFTACTIV BRAND PARTNER ตัวแทนประเทศไทย ร่วมงาน 'V.I.C VICHY INTEGRATIVE CENTER' อีเว้นท์สุดยิ่งใหญ่ในรอบ 5 ปี ของแบรนด์ VICHY (วิชี่) อวดลุคเซ็กซี่สุดฮอต สวย ปัง
๒๖ เม.ย. ไทยพีบีเอสผนึกกำลัง สสส. ผลิต และเผยแพร่เนื้อหาส่งเสริมสุขภาวะเด็ก เยาวชน และครอบครัว
๒๖ เม.ย. NPS ร่วมสืบสานประเพณีสงกรานต์ชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า ประจำปี 2567
๒๖ เม.ย. แพทย์แผนไทย มทร.ธัญบุรี แนะฤดูร้อนควรทานพืชผักที่มีฤทธิ์เย็นช่วยลดความร้อนในร่างกาย
๒๖ เม.ย. แพรนด้า จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2566
๒๖ เม.ย. RBRU Herb Shot ขยายศักยภาพทางธุรกิจ รุกตลาดอินเดีย
๒๖ เม.ย. ไฮเออร์ ประเทศไทย เดินเกมรุกไตรมาส 2 เปิดตัวตู้เย็นรุ่นใหม่ Multi-door HRF-MD679 ตั้งเป้าปี 67 ดันยอดขายตู้เย็นโต
๒๖ เม.ย. เอ็น.ซี.ซี.ฯ ประกาศจัดงาน PET EXPO THAILAND 2024 ระดมสินค้า บริการ ลดหนักจัดเต็ม รับกระแส Petsumer ดันตลาดสัตว์เลี้ยงโตแรง
๒๖ เม.ย. ธอส. ขานรับนโยบายรัฐบาล ลดอัตราดอกเบี้ย MRR 0.25% ต่อปี พร้อมส่งเสริมวินัยการออม ด้วย เงินฝากออมทรัพย์เก็บออม ดอกเบี้ยสูงถึง 1.95%
๒๖ เม.ย. ManageEngine ลดความซับซ้อน ช่วยองค์กรจัดการต้นทุนบนคลาวด์ทั่วมัลติคลาวด์ได้ง่ายขึ้น พร้อมรองรับแพลตฟอร์ม Google Cloud