ฟาธี เค อัล ซาลีม ซีอีโอของ IMI กล่าวว่า การเซ็นสัญญาครั้งนี้ "เป็นก้าวสำคัญสำหรับ IMI ในการได้มาซึ่งความรู้ที่จำเป็น รวมถึงการได้มาซึ่งแบบแท่นขุดเจาะที่ดีที่สุด ซึ่งจะถูกปรับให้เหมาะสมกับขีดความสามารถในการก่อสร้างที่ทันสมัยของเรา เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับทศวรรษต่อ ๆ ไปที่จะมาถึง"
Nils van Nood กรรมการผู้จัดการของ GustoMSC กล่าวเสริมว่า "IMI เป็นส่วนสำคัญของนโยบาย Saudi Vision 2030 การมีส่วนสนับสนุนวิสัยทัศน์ดังกล่าวนั้น นับเป็นโอกาสที่ยอดเยี่ยมสำหรับเราที่จะได้ให้บริการลูกค้ารายสำคัญในซาอุดีอาระเบียและในภูมิภาค โดยในฐานะบริษัทออกแบบและผู้จัดหาอุปกรณ์สำหรับใช้ในอุตสาหกรรม เราจึงเล็งเห็นว่า IMI เป็นพันธมิตรรายสำคัญ"
GustoMSC จะรับผิดชอบในการส่งมอบแบบพื้นฐาน โดยจะนำแบบแท่นขุดเจาะชนิด Jack-ups ตระกูล CJ-series ของบริษัทซึ่งเป็นที่ยอมรับในอุตสาหกรรมมาปรับให้เข้ากับขีดความสามารถด้านการก่อสร้างและการติดตั้งที่เฉพาะเจาะจงของ IMI ซึ่งจะช่วยลดเวลาการก่อสร้างแท่นขุดเจาะโดยรวมลง แบบที่ได้รับการปรับแล้วดังกล่าวจะยังคงไว้ซึ่งคุณสมบัติที่สำคัญและได้รับการพิสูจน์ยืนยันมาแล้วในการใช้งานจริง อาทิ แบบขาค้ำยันรูปตัว X ที่มั่นคงแข็งแรง ระบบ Rack & Pinion Jacking Systems และโครงสร้างที่มีลักษณะคานยื่นเป็นรูป X-Y แบบแท่นขุดเจาะของ IMI จะตอบโจทย์ด้านการก่อสร้างให้เหมาะกับวัตถุประสงค์ หรือ 'Fit For Purpose' ซึ่งจะทำให้อุตสาหกรรมการขุดเจาะของซาอุดีอาระเบียมีความปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และเชื่อถือได้
การพัฒนาแบบอย่างเต็มรูปแบบจะเริ่มต้นขึ้นในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า โดย GustoMSC จะทำหน้าที่เป็นบริษัทออกแบบแท่นขุดเจาะอิสระ ซึ่งจะทำให้ IMI และลูกค้าของบริษัทมีแนวทางที่เปิดกว้างสำหรับผู้ผลิตและจำหน่ายรายใหญ่ทุกรายที่ต้องการเป็นส่วนหนึ่งของโครงการก่อสร้างที่กำลังจะมีขึ้นในช่วงต่อไป หลังจากที่เมื่อประมาณหนึ่งปีก่อน ARO Drilling ได้ประกาศแผนการที่จะทำสัญญาจ้าง IMI เพื่อก่อสร้างแท่นขุดเจาะแบบ Jack-ups อย่างน้อย 20 แท่น โดยคาดว่าจะสามารถสรุปคำสั่งก่อสร้างแท่นขุดเจาะเบื้องต้นได้ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2020
เกี่ยวกับ IMI
อินเตอร์เนชันแนล มาริไทม์ อินดัสตรีส์ ตั้งอยู่ที่ The King Salman Complex for International Maritime Industries & Services ในเมืองราส อัล-แคร์ ประเทศซาอุดีอาระเบีย โดยจะเป็นโรงงานอุตสาหกรรมการเดินเรือที่ให้บริการแบบครบวงจรและมีขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ (MENA) เมื่อการก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ โรงงานแห่งนี้จะมีกำลังการผลิตต่อปี ได้แก่ แท่นขุดเจาะน้ำมันนอกชายฝังสร้างใหม่จำนวน 4 แท่น และเรือต่อใหม่จำนวนกว่า 43 ลำ ซึ่งรวมถึงเรือ VLCC นอกเหนือไปจากการให้บริการผลิตภัณฑ์ทางทะเลกว่า 260 รายการ คาดว่าการดำเนินการผลิตระยะแรกจะเริ่มในปลายปี 2020 และจะดำเนินการเต็มกำลังการผลิตได้ภายในปี 2022 ทั้งนี้ อินเตอร์เนชันแนล มาริไทม์ อินดัสตรีส์ เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างซาอุดี อารามโก, แลมเพรลล์, บาห์รี และฮุนได เฮฟวี่ อินดัสตรีส์
รูปภาพ: https://mma.prnewswire.com/media/1011414/IMI_and_GustoMSC_Agreement.jpg