“อ้อน เกวลิน” เปิดตัวลูกชาย 2 คน เคลียร์ชัดหายไปไหนกว่า 10 ปี!?

ศุกร์ ๑๘ ตุลาคม ๒๐๑๙ ๑๔:๑๕
หากพูดถึงอ้อน เกวลิน เชื่อว่าหลายคนคงจะรู้จักกันเป็นอย่างดี เพราะนอกจากจะเป็นนางเอกมากความสามารถเจ้าตัวยังเป็นนักร้องเสียงเพราะอีกด้วย แต่กว่าจะมีวันนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย

ล่าสุด อ้อน เกวลิน ได้มาเปิดใจผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่องวัน 31 ที่มีหนิง ปณิตา และธัญญ่า ธัญญาเรศ เป็นพิธีกร

อ้อนหายไปนานมาก?

อ้อน : ไม่นาน 20 ปีเอง

ไปอยู่ที่ไหน ทำอะไรมา?

อ้อน : หลายคนก็จะบอกว่าหาย แต่จริงๆ ในใจอ้อนก็ไม่ได้หายนะ แต่ว่าแค่ไม่ได้รับละคร คนจะติดภาพเราเล่นละครบ่อย แล้วพออ้อนแบบไม่รับละครเลยก็เลยหายไป จบจากละครปุ๊บก็ไปเป็นนักร้องเต็มตัว แล้วหลังจากนั้นก็เดินสายทัวร์คอนเสิร์ต มีเพลง ก็กลายเป็นว่าภาพละครคือหายไปเลย

ตอนเป็นนักร้องก็คือดังมาก?

อ้อน : ค่อยๆ ดังมากกว่า ตอนนั้นอ้อนน่าจะเป็นนักร้องคนเดียวในประเทศไทยมั้งที่เพลงเดียว อัลบั้มเดียวทัวร์ไป 3 ปี

ตอนนี้ลูก 2 คนแล้ว?

อ้อน : อิคคิว 10 ขวบ ไอค่อนจะ 4 ขวบ

ทำไมอายุมันห่างกัน?

อ้อน : จริงๆ อิคคิวเป็นลูกของสามี ไม่ได้แต่งงาน เขามาแต่งงานกับอ้อน อ้อนเลี้ยงเขามาตั้งแต่แบเบาะ

ตอนนั้นเรายังไม่ได้มีลูกแล้วต้องมาเลี้ยงเด็กรู้สึกยังไงบ้าง?

อ้อน : เดิมทีอ้อนไม่ได้เป็นคนรักเด็ก เป็นคนเลือกที่จะทำงาน แล้วด้วยความที่เราทำงานมาตั้งแต่เด็กๆ แล้วไม่เคยอุ้มหลานคนไหนในบ้านเลย แล้วเราก็ไม่ชอบเด็ก เวลาอ้อนทำงานอ้อนก็จะบอกว่าอ้อนไม่ชอบเด็กเลย แล้วต้องมาดูแลเขา มาอยู่กับเขา คำเดียวก็คือเรารักแฟนเรา แล้วรักทุกคนที่เกี่ยวข้อง

คุณแม่ดุไหม?

อิคคิว : เป็นบางครั้งที่โมโห เพราะดื้อมากเกินไป

กลัวไหมว่าจะเกิดความสับสนรักเด็กสองคนไม่เท่ากัน?

อ้อน : เราพยายามให้เขารู้สึก คือซื้ออะไรก็จะมีทั้งสองอัน แล้วก็จะพยายามบอกเขาตลอดว่าที่ไปที่มาเป็นยังไง มันก็จะมีโมเมนต์ที่เขาจะไปคุยกับพ่อเขาจริงๆ ว่าแบบแม่ไม่ชอบเด็กเหรอ แม่ไม่รักเด็กใช่ไหม อิคคิวต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองใช่ไหม ต้องพัฒนาใช่ไหม คือเขาพยายามเข้าหาเราด้วย อ้อนก็พยายามที่จะปรับตัว แล้วก็พยายามไม่แบกอะไร ด้วยความที่ตัวเองเป็นคนประเภทเพอร์เฟคชั่นนิสต์ คือทุกอย่างจะต้องเรียบร้อย แล้วจะมีโมเมนต์หนึ่งที่อ้อนแยกออกมาจากบ้านแม่อ้อน แต่ก่อนต้องบอกก่อนว่าอยู่กับแม่ อยู่กับน้องคืออ้อนเป็นครอบครัวใหญ่ แล้วพอตัดสินใจเอาเขามาเลี้ยงที่กรุงเทพฯ เขาเพิ่งมาจากเชียงราย เขาเพิ่งย้ายโรงเรียน เพิ่งมาอยู่เมื่อ พฤษภาคม ที่ผ่านมา เลยกลายเป็นว่าครอบครัวอ้อนตอนนี้ต้องปรับเป็นการใหญ่ ก็คือเหมือนแยกออกมาแล้วมาสร้างครอบครัวกันเอง เขาก็เลยบอกว่าออกมาตรงนี้ เพราะอิคคิวใช่ไหม ต้องมาหาโรงเรียนนู้น นี่นั่น ก็กลายเป็นว่าปีนี้ของอ้อนปรับตัวเยอะมากและยุ่งมาก

คุณก็รวยมาก แต่ก็ยังสอนให้ลูกรูกจักคุณค่าของเงิน?

อ้อน : ใช่ คือ อ้อนมาจากการที่เราลำบากกว่าการที่เราจะได้เงิน แล้วพ่อแม่ก็ไม่ได้มีฐานะอะไร แล้วเราจำความลำบากของแม่ได้ บวกกับกว่าที่อ้อนจะมีวันนี้ได้ กว่าที่อ้อนจะได้ทำงาน กว่าที่อ้อนจะได้เก็บเงิน อ้อนก็มาจากไม่มีมาก่อน

ที่อ้อนบอกว่าลำบากนี่ลำบากขนาดไหน?

อ้อน : เคยมีเงินเหลือแค่ 400 บาทในชีวิต ตอนนั้นเราก็เข้าวงการแล้ว คือมันมีช่วงหนึ่งที่อ้อนไปทำธุรกิจส่วนตัว แล้วเรารอเงินที่มันจะเกิดขึ้น ช่วงเวลานั้นก็มีแค่นั้นจริงๆ กับสามี ก็เลยทำให้ความรักที่มีต่อสามี เรามองไม่เห็นเลยว่าเราจะทะเลาะกันได้วันไหน เรามองไม่เห็นเลยว่าเราจะมีวันเลิกกับเขา เพราะเราผ่านความลำบากมาด้วยกัน

ย้อนไปสมัยตอนที่เราเด็กๆ เห็นว่าทานข้าวต้องทานจานเดียวกัน?

อ้อน : คุณแม่เล่าให้ฟังว่าแต่ก่อนแม่เลี้ยงลูกมาทุกคน อ้อนเป็นพี่คนโตแล้วมีน้องสาวอีก 2 คน ก็เลยรู้เลยว่าแม่กว่าจะเลี้ยงเราลำบากมาก เขาบอกว่าเขาล่ามโซ่ขาลูกเอาไว้แล้วเขาก็ทำงาน ต้องรอพ่อกลับมาก่อนที่จะได้กินข้าวจานเดียวกัน หมายความว่าแม่ไม่สามารถเหลือเงินที่จะซื้อข้าวได้อีกจาน ต้องรอกินพร้อมพ่อ แล้วเงินที่เหลือก็เป็นค่านมให้อ้อนกับน้องสาว เราเห็นความยากลำบากของแม่ พอโตขึ้นมาหน่อยบ้านเราอยากจะกินหมอนทอง แม่ก็เล่าให้ฟังว่า ต้องไปกู้เขาลูก กู้เงินเพื่อได้กินหมอนทองกันทั้งบ้าน แล้วพวกเราก็นั่งล้อมวง ตั้งหน้า ตั้งตาเพื่อจะได้กินของอร่อย

พอเข้าวงการบันเทิง มันทำให้ครอบครัวดีขึ้นไหม?

อ้อน : ดีขึ้นมาก เป็นครั้งแรกที่เราได้เงินแสน

คือเริ่มแรกคุณพ่อพาไปประกวด?

อ้อน : ใช่ คอฟฟี่เมต ชาเลนจ์ ตอนนั้นเราเฉยๆ ยังไม่รู้ว่ามันคืออะไร ต้องไปเจออะไร พ่อก็เลยบอกให้ไปทำก็ไปทำ

ซื้อบ้านได้ตำแหน่ง?

อ้อน : ใช่ แต่ตอนเขาบอกคุณผ่านการคัดเลือกให้ไปสัมภาษณ์ ดีใจมากนะคะ แต่ยังไม่รู้ว่าจะไปเจออะไร

แสดงว่าการเข้าวงการบันเทิงคือการพลิกชีวิตของครอบครัวอ้อน?

อ้อน : มากเลยค่ะ แต่บอกตรงๆ อ้อนไม่เคยกลัวความยากจนเลย ถึงแม้ว่าขึ้นสุดแล้วลงสุดก็ไม่เคยกลัว

แล้วตอนที่อ้อนมาเล่นละครเห็นว่าพี่ดู๋ สัญญาเป็นคนพาไปเล่น เห็นว่าอ้อนอยากขอโทษพี่ดู๋ด้วย มันเรื่องอะไร?

อ้อน : คืออยากจะบอกว่ามามีชื่อเสียง มีละครให้ทุกคนได้เห็น มาจากการเลือกในวันนั้นของพี่ดู๋ หลังจากที่เราชนะคอฟฟี่เมตชาเลนจ์ เรายังไม่มีโอกาสได้ร้องเพลง แต่มีพี่เขาพาไปแคสติ้งบริษัทหนึ่ง แล้วนั่นคือผลงานชิ้นแรกที่พี่ดู๋เป็นผู้กำกับครั้งแรก แกก็เลยอยากมีส่วนร่วมในการแคสติ้ง นั่นก็คือวันแรกที่อ้อนได้เจอพี่ดู๋ พี่ดู๋บอกให้ทำอะไรอ้อนทำหมดเลย แล้วพี่ดู๋ก็เลยบอกว่า ฉันเอาคนนี้ ปรากฎพอวันไปออกกองถ่ายจริงๆก็เรียบร้อย อยู่ๆ เป็นอะไรไม่รู้ ทำอะไรไม่ได้สักอย่าง อ้อนกลายเป็นนักแสดงที่เดินไปด้วย พูดไปด้วยไม่ได้ ต้องหยุดแล้วค่อยพูด ถึงขั้นพี่ดู๋พูดใส่หน้าอ้อนว่าพี่ผิดเองที่เลือกเรา ตอนนั้นเราก็รู้สึกอยากตาย ร้องไห้ไม่รู้กี่รอบ แล้วบอกกับตัวเองว่าแบบฉันจะไม่เล่นละครอีกต่อไป แต่มาอีก 50 เรื่องจ้า

ถ้าตอนนี้พี่ดู๋ ดูอยู่อยากบอกอะไรกับเขา?

อ้อน : ไม่เคยมีโอกาสได้บอกพี่ดู๋เลย เพราะอ้อนรู้สึกว่าอ้อนกลัวพี่ดู๋ อยากขอบคุณพี่ดู๋มากๆ ที่เลือกอ้อนวันนั้น พี่เลือกไม่ผิด แล้วอ้อนมามีทุกอย่างวันนี้ได้ ครอบครัว แล้วลูกๆ หลานๆ ที่นั่งอยู่ตรงนี้ มาจากการที่พี่ตัดสินใจเลือกอ้อนในวันนั้น ไม่รู้จะกราบขอบพระคุณและทดแทนบุญคุณพี่ยังไง ขอบคุณมากๆ

เพราะจุดตรงนั้นหรือเปล่าที่ทำให้อ้อนพยายามเอาชนะคำดูถูก มันไม่ได้ ฉันต้องทำให้ได้?

อ้อน : เป็นไปได้ เพราะหลังจากเรื่องเจ้าพ่อจำเป็น เรื่องนั้นปุ๊บ เรื่องต่อไปเป็นละครที่คนทั่วประเทศไทยรู้จัก เกวลิน เลย คือบ้านสอยดาว

หลายคนบอกว่าอ้อนแต่งงานกับสามีรวย สามีเลี้ยงก็เลยหายไปจากวงการ?

อ้อน : ไม่ใช่เลย

ไปเจอกันที่ไหน?

อ้อน : คือจริงๆ อ้อนบอกก่อนว่าอ้อนเป็นคนเชื่อเรื่อง เดสตินี่ มาก เพราะว่าเราเชื่อว่าความรักของพ่อกับแม่เป็นไอดอลของอ้อน พ่อกับแม่เล่าให้ฟังว่ากว่าที่แกจะรักกันได้ แกส่งจดหมายหากัน แล้วแม่ได้รับจดหมายจากพ่อถึง 5 ปี เต็มหีบเลยแต่ก็สามารถอยู่ด้วยกันได้แล้วความตายก็แยกทั้งคู่ออกจากกัน อ้อนเชื่อว่าถ้าของที่มันใช่มันก็จะอยู่กับเรา แต่ถ้าของที่มันไม่ใช่ต่อให้รักกันมากแค่ไหนมันก็ไม่อยู่ เพราะฉะนั้นอ้อนเลยอยู่กับเขา เราเจอกันเป็นพี่ เป็นน้อง สวัสดีกัน แค่นี้ 5 ปี

เพราะมันเป็นรักต้องห้ามหรือเปล่า เขาว่าคู่ของคุณเป็นคู่ที่รักกันไม่ได้?

อ้อน : ไม่ คือต้องบอกแบบนี้ พอรักแล้วมันดันมีประเด็นนี้ สั่งห้ามว่าไม่ให้รักกัน แต่ก่อนหน้านี้อ้อนไม่เคยสปาร์คกับเขานะคะ คือรู้สึกเป็นพี่ เป็นน้องจริงๆ จนกระทั่งได้มีโอกาสได้นั่งคุยแล้วได้แลกไลน์ ประเด็นคืออ้อนอยากจะไปซื้อหนังสือ แล้วเขาชอบอ่านหนังสือ เขาแนะนำหนังสือให้อ้อนเล่นหนึ่ง อ้อนแค่อยากจะบอกว่า เห้ย...อ้อนไปซื้อถูกเล่ม ส่งให้พี่ดูนะ แค่นั้นเอง แล้วหลังจากนั้นเขาก็เริ่มคุยกินข้าวหรือยัง ทำอะไร แล้วเรารู้สึกว่าเราอยากคุยกับเขา ทำไมรู้สึกกีจังเวลาได้คุยกับเขา

แล้วใครมาห้ามไม่ให้คุณรักกัน?

อ้อน : ธุรกิจที่ทำมันมีกฎของผู้บริหารว่าห้ามรักกัน อ้อนว่าที่ไป ที่มาของกฎนี่มันมาจากการที่คู่อื่นๆ ทำไว้ไม่ค่อยดี คู่อื่นๆ ทำให้รูปแบบธุรกิจมันเสียหาย แล้วมีการเสียผลประโยชน์ของธุรกิจเกิดขึ้น ก็เลยถูกสร้างกฎนี่ขึ้นมา

ตอนนั้นก็ได้ถูกแหกกฎ เพราะคุณก็ได้แต่งงานกัน?

อ้อน : กลายเป็นคู่เดียวแล้วคู่สุดท้ายของบริษัท ทุกวันนี้ก็ยังทำงานอยู่ที่บริษัทเดิม

เห็นว่ามีการลงโทษด้วย?

อ้อน : โห...ถ้าบอกนี่คือละครเรื่องหนึ่งเลยนะ ก็ห้ามคุย ห้ามเจอ ไม่งั้นจะถูกเก็บภาพไปฟ้อง ยิ่งกว่าสมัยตอนเป็นดาราอีก

แล้วเขารู้ได้ยังไงว่าคบกัน?

อ้อน : มีคนไปบอก คืออ้อนวางงานเป็นหลักอยู่แล้ว เพราะเรารับผิดชอบ โตเป็นผู้ใหญ่พอรู้ว่าอะไรสำคัญ เรื่องความรัก และเรื่องครอบครัวคือเป็นเรื่องรองอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นอ้อนจะเจอเขาเดือนหนึ่งไม่เกิน 5 วัน แล้วจะเจอในเส้นทางที่ป้ะเจอกันพอดี หมายถึงว่าเขาอยู่แถวนั้นพอดี พอเจอกันก็มีคนเก็บภาพไปบอกผู้บริหารใหญ่

แล้วบทลงโทษนั้นคือ?

อ้อน : ถูกแบนไม่ให้ขึ้นสอน ไม่ให้ขึ้นเป็นเทรนเนอร์บนเวที แล้วสื่อการให้ความรู้บนเวทีถูกถอดออกทั้งหมด แล้วพี่นิคมโดนไล่ให้ไปบวชเป็นพระ

ทำไมเราไม่ลาออกแล้วหางานใหม่?

อ้อน : เอาจริงๆ มันคือกฎ อ้อนยอมรับว่าอ้อนทำผิดกฎ มันเป็นกฎที่เรารู้อยู่แล้ว แล้วเราเป็นผู้บริหาร แล้วเราไปทำแบบนั้นมันเป็นอะไรที่ไม่ดีอยู่แล้ว เรายอมรับผิด เราก็ชวนกันขึ้นตำแหน่งสร้างยอดขาย คือมันยากมาก ตำแหน่งที่อ้อนบอกมันสร้างวอลุ่มแบบดับเบิ้ลเลยกว่าจะได้อีกขั้น แต่อ้อนข้ามได้ถึงสองขั้นเลย แล้วไม่ใช่อ้อนคนเดียว เราช่วยกันพาทีมงานอ้อนขึ้นด้วย ก็เลยกลายเป็นไม่ได้มีอะไรเสีย คบกันมีแต่เรื่องดี องค์กรก็มีความรู้ขึ้น แล้วช่วยกันทำมาหากิน เขาก็เงียบไปปล่อยให้งานแต่งงานเกิดขึ้น แต่ขณะเดียวกันไม่มีใครสามารถไปได้ในงานแต่งของอ้อน

ติดตามรายการ คุยแซ่บShow ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ 13.30-14.30 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama

คลิปสัมภาษณ์ อ้อน เกวลิน https://youtu.be/vqiJwdJY8WU

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๔ พ.ค. Siriraj Education Expo 2024 ก้าวสู่ยุคใหม่ไปกับศิริราช พร้อมยกระดับทางการแพทย์ให้ดีขึ้น เพื่อสุขภาวะที่ดีของคนไทยทุกคน
๐๓ พ.ค. ครั้งแรก! งานเทศกาลคอนเทนต์ LGBTQ ฉลองความเท่าเทียมทางเพศ THAILAND INTERNATIONAL LGBTQ FILM TV FESTIVAL 2024 ปักหมุดเตรียมพบกัน กันยายนนี้
๐๓ พ.ค. โน วัน เอลส์ ส่ง 3 เพลงรัก 3 สไตล์! ผ่านมิวสิกซี่รีย์ ที่จะทำให้คุณเข้าใจความรักมากขึ้น
๐๓ พ.ค. ทีซีเอ็มซีมอบรางวัลประกวดการออกแบบผลงานด้านผลิตภัณฑ์อคูสติกส์
๐๓ พ.ค. GT Auto ฉลองแชมป์ยอดขาย Volvo จัดงาน มหกรรม GT Auto Show ลดสูงสุด 1,000,000 บาท พร้อมชูบริการ GT Auto Exclusive Service
๐๓ พ.ค. กทม. เตรียมพร้อมให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเสี่ยงและนักเรียนในสังกัด
๐๓ พ.ค. กรมส่งเสริมการเกษตร ประชุมคณะทำงานความร่วมมือด้านการรับรองแหล่งผลิตพืชฯ (GAP พืช) ครั้งที่ 1/2567
๐๓ พ.ค. First Sale! realme 12 5G และ realme 12X 5G สัมผัสประสบการณ์ Portrait Master กับกล้องซูม 3X in sensor
๐๓ พ.ค. CRYSTALLIZING ใหม่! โดย SHISEIDO PROFESSIONAL อัปเกรดกลุ่มผลิตภัณฑ์ยืด-ดัดผม ชูเทคโนโลยีสุดล้ำ DUAL PERFORMANCE SYSTEM
๐๓ พ.ค. บัลเลต์ รีทรีต บนเกาะมัลดีฟส์ กลับมาอีกครั้ง ที่ อวานี พลัส แฟเรส โดย คาร์ริส สการ์เลต นักเต้นบัลเลต์ชื่อดัง