OYO เชนโรงแรมที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลกพร้อมเปิดให้บริการในประเทศไทย

อังคาร ๑๒ พฤศจิกายน ๒๐๑๙ ๑๖:๑๙
- OYO ประเทศไทยเปิดบริการแล้ววันนี้ โดยมีห้องพักกว่า 8,000 ห้อง จาก 250 โรงแรม ใน 13 จังหวัด ทั่วประเทศ

OYO Hotels and Homes (โอโย โฮเทลส์ แอนด์ โฮมส์) เครือข่ายธุรกิจโรงแรม บ้านพัก คอนโด และพื้นที่สำนักงานที่ใหญ่เป็นลำดับ 2 ของโลก เปิดให้บริการในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ

โอโย ประเทศไทย เปิดให้บริการโดยมีห้องพักกว่า 8,000 ห้อง จาก 250 โรงแรม ใน 13 จังหวัด อาทิ กรุงเทพฯ, พัทยา, ภูเก็ต และ หัวหิน ตอบรับกระแสการท่องเที่ยวในราคาที่พักที่เข้าถึงได้ง่าย เพื่อรองรับการท่องเที่ยวในประเทศไทยซึ่งเป็นประเทศที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

OYO Hotels (โอโย โฮเทลส์) เริ่มเปิดให้บริการในประเทศไทย หลังความสำเร็จในการขึ้นเป็นผู้นำตลาดธุรกิจเครือโรงแรมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งในมาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลลิปปินส์ และเวียดนาม

โอโยมุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนวิธีการท่องเที่ยวของนักเดินทางทั่วโลก ด้วยการนำเสนอที่พักที่มีคุณภาพ ในราคาที่เข้าถึงได้ง่าย บนโลเคชั่นที่ดีที่สุดทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย โดยโอโยได้นำโมเดลทางธุรกิจที่ประสบความสำเร็จมาปรับใช้ ซึ่งรวมการออกแบบ การบริการ ทักษะด้านเทคโนโลยี ความเชี่ยวชาญทางการเงิน และความสามารถในการดำเนินธุรกิจมาใช้ในประเทศไทย ส่งผลให้ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมกับ โอโยได้รับผลตอบแทนที่มากขึ้น เข้าถึงโอกาสในการปิดการจองที่พักได้ง่ายขึ้น มีการปรับปรุงคุณภาพและมอบบริการที่น่าประทับใจให้แก่ลูกค้า โดยทุกที่พักในเครือโอโยได้รับการการันตีการให้บริการ เครื่องปรับอากาศ ฟรี Wifi โทรทัศน์ และบริการผ้าขนหนู ผ้าปูที่นอนที่สะอาดสำหรับผู้เข้าพักทุกคน

คุณอัลปานา ดูเบ, อุปทูต ณ สถานเอกอัครราชทูตอินเดียประจำประเทศไทย กล่าวว่า "ปีนี้มีการคาดการว่าจะมีนักท่องเที่ยวจากอินเดียเดินทางมาที่ประเทศไทยมากกว่า 2 ล้านคน ดังนั้นโอโยจึงจะมีบทบาทสำคัญในการปรับเปลี่ยนภูมิทัศน์ของการท่องเที่ยวในประเทศไทยอย่างแน่นอน"

"โอโย คือหนึ่งในความสำเร็จทางธุรกิจของประเทศอินเดีย โดยเป็นแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับไม่เพียงเฉพาะในประเทศอินเดีย แต่จากนักเดินทางทั่วโลก ดิฉันมีความรู้สึกยินดีเป็นอย่างมากที่โอโยเข้ามาให้บริการในประเทศไทย และขออวยพรให้โอโยประสบความสำเร็จตามที่ตั้งเป้าไว้" คุณอัลปานา กล่าวเสริม

คุณมัณดา ไวดิย่า, ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และตะวันออกกลาง, โอโย กล่าวว่า "แม้ประเทศไทยจะเป็นตลาดที่ค่อนข้างใหม่สำหรับโอโย แต่ด้วยศักยภาพของประเทศ โอโยมั่นใจว่าประเทศไทยจะเป็นตลาดที่สำคัญต่อการเติบโตทางธุรกิจของโอโยในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้"

"มาเลเซียถือเป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่โอโยเปิดให้บริการ นอกเหนือจากในประเทศอินเดีย ปัจจุบันโอโยให้บริการที่พักในมากกว่า 160 เมืองทั่วโลก ผ่านแฟรนไชส์และโรงแรมกว่า 2,500 แห่งในประเทศมาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลลิปปินส์ และเวียดนาม ซึ่งจำนวนนี้จะเพิ่มขึ้นหลังจากเราเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทย"

"การขยายพอร์ตโฟลิโอของบริษัทโดยการเปิดให้บริการในประเทศไทย จะช่วยให้เราบรรลุเป้าหมายซึ่งได้แก่ การมีห้องพักภายใต้การดูแลจัดการของเราในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รวม 2 ล้านห้อง ภายในปี ค.ศ. 2025 ซึ่งจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่หลั่งไหลเข้ามาในประเทศไทยโดยพาะอย่างยิ่งนักท่องเที่ยวชาวเอเชีย อีกทั้งจำนวนเที่ยวบินสู่ประเทศไทยที่เพิ่มมากขึ้น ทั้งหมดนี้จะช่วยให้เราบรรลุถึงเป้าหมายอย่างแน่นอน"

"เราดีใจเป็นอย่างยิ่งที่จะได้ให้บริการในประเทศไทย ผ่านจุดขายของโอโย ซึ่งคือการให้บริการห้องพักที่สวยงาม ทันสมัย สะดวกสบาย โลเคชั่นดี ในราคาที่เข้าถึงได้ง่าย" คุณมัณดา กล่าวเสริม

คุณอชูโตช สิงห์, ผู้อำนวยการบริหาร ประจำประเทศไทย, โอโย กล่าวว่า "ภารกิจของโอโยคือการปรับปรุงคุณภาพของอสังหาริมทรัพย์ เพื่อให้นักท่องเที่ยวที่มีรายได้ระดับปานกลาง และคนในชุมชนได้สัมผัสกับประสบการณ์การใช้ชีวิตในแบบ #LivingTheGoodLife

"อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและบริการนั้นกำลังเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงทางนวัตกรรม โดยมีวิวัฒนาการที่ก้าวหน้าเป็นอย่างยิ่ง อีกทั้งเทคโนโลยียังเป็นหัวใจสำคัญในการพัฒนาธุรกิจในปัจจุบัน โอโยมีความมุ่งมั่นที่จะร่วมมือกับรัฐบาลไทยและหน่วยงานต่าง ๆ อาธิ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เพื่อใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีในการมอบบริการใหม่ ๆ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาในประเทศไทย เราตั้งใจที่จะมอบห้องพักที่มีคุณภาพ และประสบการณ์การท่องเที่ยวที่เพลิดเพลินให้กับทุกคนในประเทศไทย พร้อมช่วยเพิ่มผลตอบแทนให้กับผู้ประกอบการโรงแรมอิสระในประเทศในขณะเดียวกัน"

"เรามั่นใจกับการเติบโตของเราในประเทศไทยแม้จะเพิ่งเริ่มดำเนินธุรกิจในไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ปัจจุบันเรามีห้องพักกว่า 8,000 ห้อง ใน 13 จังหวัดทั่วประเทศ โอโยเห็นความต้องการของตลาดสำหรับที่พักราคาระดับกลางถึงบนในประเทศไทย และตั้งเป้าที่จะขยายธุรกิจโอโยในประเทศให้แข็งแกร่ง" คุณอชูโตช กล่าวสรุป

โอโย ได้ปฏิวัติเครือข่ายธุรกิจห้องพักราคาประหยัดในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยได้เพิ่มขีดความสามารถในการดำเนินงานจัดการโรงแรมให้แก่กลุ่มเจ้าของธุรกิจโรงแรมขนาดเล็กผ่านการใช้เทคโนโลยีอันล้ำสมัยมาช่วยต่อยอด ทำให้กลุ่มผู้ประกอบการสามารถแข่งขันกับกับเครือโรงแรมขนาดใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่วางเอาไว้ได้อย่างสำเร็จ

โอโย มุ่งมั่นที่จะนำเสนอโมเดลทางธุรกิจที่ประสบผลสำเร็จสู่เจ้าของกิจการโรงแรมทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง ผ่านรวมเอาเอกลักษณ์ทางด้านการดีไซน์ การบริการ นวัตกรรมที่ล้ำสมัย ประกอบกับการบริหารทางด้านการเงินและการดำเนินการทางธุรกิจ เพื่อให้ผู้ประกอบการได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่า มีอัตราการเพิ่มขึ้นของจำนวนลูกค้าที่เข้าพัก เพิ่มผลกำไรที่เกิดขึ้นจากการเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโอโย

เกี่ยวกับ OYO Hotels and Homes

OYO Hotels & Homes เริ่มเปิดให้บริการในปีพ.ศ. 2556 ปัจจุบันเป็นเครือข่ายเครือข่ายธุรกิจโรงแรม บ้านพัก คอนโด และพื้นที่สำนักงานที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองของโลก พอร์ตโฟลิโอของโอโยรวมอสังหาริมทรัพย์ที่ดำเนินการอย่างเต็มรูปแบบ ประกอบด้วยโรงแรมมากกว่า 35,000 แห่ง รวมถึงห้องพักกว่า 1.2 ล้านห้อง และให้บริการบ้านพักตากอากาศกว่า 125,000 หลังให้กับผู้เข้าพักทั่วโลก ในส่วนบ้านพักตากอากาศ โอโยมีการดำเนินธุรกิจ OYO Homes, Belvilla, Danland, Dancenter และแบรนด์ Traum-Ferienwohnungen จากประเทศเยอรมนี ในกว่า 800 เมืองใน 80 ประเทศทั่วโลก ทั้งในสหรัฐอเมริกา ยุโรป สหราชอาณาจักร อินเดีย มาเลเซีย ตะวันออกกลาง อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถดูได้ที่ https://www.oyorooms.com/

บรรยายภาพ (ขวา) คุณมัณดา ไวดิย่า, ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และตะวันออกกลาง โอโย และ (ซ้าย) คุณอชูโตช สิงห์ ผู้อำนวยการบริหาร ประจำประเทศไทย โอโย มาให้ข้อมูลเกี่ยวกับโอโยในทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และประเทศไทย (กลาง) คุณอัลปานา ดูเบ, อุปทูต ณ สถานเอกอัครราชทูตอินเดียประจำประเทศไทย ร่วมแถลงข่าวเปิดตัวโอโยในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๓ พ.ค. ทีซีเอ็มซีมอบรางวัลประกวดการออกแบบผลงานด้านผลิตภัณฑ์อคูสติกส์
๐๓ พ.ค. GT Auto ฉลองแชมป์ยอดขาย Volvo จัดงาน มหกรรม GT Auto Show ลดสูงสุด 1,000,000 บาท พร้อมชูบริการ GT Auto Exclusive Service
๐๓ พ.ค. กทม. เตรียมพร้อมให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเสี่ยงและนักเรียนในสังกัด
๐๓ พ.ค. กรมส่งเสริมการเกษตร ประชุมคณะทำงานความร่วมมือด้านการรับรองแหล่งผลิตพืชฯ (GAP พืช) ครั้งที่ 1/2567
๐๓ พ.ค. First Sale! realme 12 5G และ realme 12X 5G สัมผัสประสบการณ์ Portrait Master กับกล้องซูม 3X in sensor
๐๓ พ.ค. CRYSTALLIZING ใหม่! โดย SHISEIDO PROFESSIONAL อัปเกรดกลุ่มผลิตภัณฑ์ยืด-ดัดผม ชูเทคโนโลยีสุดล้ำ DUAL PERFORMANCE SYSTEM
๐๓ พ.ค. บัลเลต์ รีทรีต บนเกาะมัลดีฟส์ กลับมาอีกครั้ง ที่ อวานี พลัส แฟเรส โดย คาร์ริส สการ์เลต นักเต้นบัลเลต์ชื่อดัง
๐๓ พ.ค. มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท เดินหน้า โครงการบ้านชื่นสุขสร้างสุขผู้สูงอายุ ตอกย้ำ ความกตัญญู
๐๓ พ.ค. รีเล็กซ์ โซลูชันส์ เผยกลุ่มค้าปลีกและผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคยังไม่ใช้ศักยภาพของ AI มากนัก
๐๓ พ.ค. กทม. บูรณาการหน่วยงานเร่งแก้ปัญหาเด็กเช็ดกระจก-ขายของริมถนน ใช้สหวิชาชีพแก้ปัญหารายครอบครัว