“รพ.บางมด” กางแผนสยายปีก เสิร์ฟศูนย์ศัลยกรรมเอเชียเพื่อกลุ่มไฮเอนด์

จันทร์ ๒๕ พฤศจิกายน ๒๐๑๙ ๑๕:๑๕
"รพ.บางมด" กางแผนสยายปีกรับตลาดศัลยกรรมโต 45,000 ล้านบาท พร้อมลุยตั้งศูนย์ศัลยกรรมความงามครบวงจรระดับเอเชีย มาตรฐาน JCI รองรับลูกค้ากลุ่มไฮเอนด์และชาวต่างชาติ

นพ.สุรสิทธิ์ อัศดามงคล ประธานกรรมการบริหาร รพ.บางมด ได้กล่าวถึงภาพรวมของศัลยกรรมในประเทศว่า "ปัจจุบันประเทศไทยถูกยกให้เป็นศูนย์กลางด้านความงามอันดับที่ 3 ของเอเชีย ซึ่งจากข้อมูลของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ประเทศไทยสร้างรายได้จากนักท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ที่เข้ามาใช้บริการด้านเวชศาสตร์ชะลอวัยและความงามกว่า 26,000 ล้านบาท ในปีที่ผ่านมา ซึ่งส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวมักเดินทางเข้ามาเพื่อรักษาโรคเฉพาะทาง, ตรวจสุขภาพ, รับบริการด้านการชะลอวัย และศัลยกรรมความงาม เนื่องจากบริการเหล่านี้ในไทยมีชื่อเสียงและมาตรฐานใกล้เคียงโรงพยาบาลในยุโรป

นอกจากนี้ โรงพยาบาล คลินิก และสถานเสริมความงามต่างๆ ก็มีอัตราเติบโตเพิ่มขึ้น ซึ่งเหตุผลสำคัญส่วนหนึ่งมาจากค่านิยมที่เปิดรับการทำศัลยกรรมและความงามมากขึ้นจากทั่วโลก ส่งผลให้ภาครัฐมีนโยบายสนับสนุนให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางแพทย์นานาชาติ (Medical Hub) โดยจัดเป็น 1 ใน 5 ของอุตสาหกรรมในอนาคต (New S Curve)

สำหรับในปี 2563 ทางโรงพยาบาลมีแผนจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างอาคารศูนย์ศัลยกรรมความงามแบบครบวงจรระดับเอเชีย บนพื้นที่ถนนพระราม 2 ขนาด 12 ชั้น มาตรฐาน JCI (Joint Commission International Accreditation) ประกอบด้วยศูนย์ศัลยกรรมความงาม, Wellness Center, ศูนย์ทันตกรรมความงาม, ศูนย์รักษาผู้มีบุตรยาก (IVF), ศูนย์เวชศาสตร์ชะลอวัย, ศูนย์การแพทย์เฉพาะด้านสเต็มเซลล์ ซึ่งในแต่ละศูนย์ก็จะมีเครื่องมือ อุปกรณ์ และเทคโนโลยีอันทันสมัยมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับระดับนานาชาติ โดยมีเป้าหมายสำคัญคือ การขยายฐานกลุ่มไฮเอนด์และชาวต่างชาติเพิ่มมากขึ้น คาดว่าจะใช้งบประมาณในการก่อสร้างประมาณ 3,000 ล้านบาท ซึ่งประเทศไทยมีจำนวนสถานพยาบาลที่ได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับสากล JCI มากเป็นอันดับ 1 ของภูมิภาค AEC และเป็นอันดับ 4 ของโลก"

ทางด้านภาพรวมของศูนย์ศัลยกรรมความงาม รพ.บางมด ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา แม้เศรษฐกิจจะถดถอย แต่อัตราการเติบโตของรายได้ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยศัลยกรรม 3 อันดับแรกที่ได้รับความนิยม ได้แก่ ศัลยกรรมดึงหน้า Modern Facelift, ศัลยกรรมตา และศัลยกรรมเสริมหน้าอก ซึ่งคาดว่าในช่วง 3 เดือนต่อจากนี้ จะสามารถทำรายได้เป็นไปตามเป้าที่มีการวางไว้ เนื่องจากจุดแข็งทางด้านแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญและมากด้วยประสบการณ์ รวมถึง เทคนิคการผ่าตัดเฉพาะทาง "Bangmod Technique" ที่มีความแตกต่าง ทำให้เกิดความประทับใจและบอกต่อ

ปัจจุบันภาพรวมมูลค่าตลาดศัลยกรรมยังคงมีแนวโน้มขยายตัว และเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปีประมาณ 20% โดยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมานับตั้งแต่ปี 2559 ตลาดศัลยกรรมมีมูลค่าเม็ดเงินในตลาดสูงถึง 30,000 ล้านบาท หลังจากนั้น ในปี 2560 เม็ดเงินที่หมุนเวียนในตลาดศัลยกรรม เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 36,000 ล้านบาท และในปี 2561 ที่ผ่านมา อัตราเติบโตของมูลค่าตลาดศัลยกรรมเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 45,000 ล้านบาท ซึ่งมูลค่าของเม็ดเงินในตลาดศัลยกรรมเกิดจากสัดส่วนศัลยกรรมจากโรงพยาบาล 70% และอีก 30% จากคลินิกเสริมความงาม

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘:๓๓ COM7 เดินหน้าเต็มสปีด EV7 ส่งมอบแท็กซี่ไฟฟ้าล็อตแรก ดันเมกะเทรนด์ EV สู่หัวใจเมือง
๑๘:๓๖ GCAP ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ไฟเขียวผ่านฉลุยทุกวาระ พร้อมเดินหน้าแผนธุรกิจขยายสู่กลยุทธ์ Non Lending
๑๘:๔๔ PYLON จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผู้ถือหุ้นไฟเขียวจ่ายปันผล 0.04 บาท/หุ้น
๑๘:๓๙ LDC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 มุ่งเป็นคลินิกทันตกรรมพรีเมียม ในราคาที่เข้าถึงง่าย
๑๘:๑๒ ผู้ถือหุ้น TATG ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.07 บาท/หุ้น ลงทุนเครื่องจักรใหม่เสริมแกร่งสายการผลิต พิชิตเป้ารายได้ 3,000
๑๘:๕๗ ADVICE จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นรูปแบบ Hybrid ประจำปี 2568 ผถห.ไฟเขียวทุกวาระ เคาะแจกปันผล 0.175 บ./หุ้น
๑๘:๓๖ LE ร่วมงานสถาปนิก'68 โชว์นวัตกรรมแสงสว่างอัจฉริยะ เสริมภาพผู้นำ Lighting Solutions Provider
๑๘:๔๖ SELIC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ปี 2568 ผู้ถือหุ้นเห็นชอบทุกวาระ อนุมัติจ่ายปันผล 0.038 บาท/หุ้น เดินหน้า 3 ธุรกิจ
๑๘:๔๙ STA เปิดบ้านต้อนรับภาครัฐ โชว์มาตรฐานรับซื้อยางโปร่งใส เป็นธรรม หนุนรัฐต้านยางเถื่อน
๑๘:๓๕ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จับมือเอกชน ปั้นช่างเชื่อมโกอินเตอร์ รายได้ทะลุ 70,000 บาทต่อเดือน