เฮงเค็ลแต่งตั้ง มาร์โค สโวโบดา ขึ้นเป็น CFO คนใหม่ของเฮงเค็ล

พฤหัส ๐๒ มกราคม ๒๐๒๐ ๑๖:๐๘
ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 เป็นต้นไป นายมาร์โค สโวโบดา รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโสฝ่ายการเงินได้รับการแต่งตั้งให้เป็น ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของบริษัท เฮงเค็ล แทนนายคาร์สเทน โนเบล ซึ่งเลื่อนขึ้นไปเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) และมีผลตั้งแต่ วันที่ 1 มกราคม 2563 เช่นเดียวกัน
เฮงเค็ลแต่งตั้ง มาร์โค สโวโบดา ขึ้นเป็น CFO คนใหม่ของเฮงเค็ล

"เรามีความยินดีที่ได้แต่งตั้งให้ มาร์โค สโวโบดา เป็นผู้สืบทอดตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของเรา เนื่องจากเป็นบุคคลภายในองค์กรที่มีคุณสมบัติเหมาะสม เขามีความเชี่ยวชาญด้านการเงิน และประสบการณ์ทำงานระดับสากลมานานหลายปี," ดร. ซิโมน บาเกล-ทราห์ ประธานคณะกรรมการผู้ถือหุ้นและกำกับกิจการกล่าว

มาร์โค สโวโบดา เกิดที่เมืองเวลแบร์ต ประเทศเยอรมนี เมื่อปี 2514 หลังจากสำเร็จการศึกษาด้านเศรษฐศาสตร์และบริหารจากมหาวิทยาลัยรูห์ ที่เมืองโบคุม ประเทศเยอรมนีแล้ว ก็เริ่มงานกับ เฮงเค็ล เมื่อปี 2540 ในหน่วยงานด้านกลยุทธ์ของกลุ่มบริษัท

หลังจากที่ เฮงเค็ล ได้แยกหน่วยงานด้านเคมีออกมาจัดตั้งเป็นบริษัทชื่อ Cognis เขาก็ได้เข้าร่วมในหน่วยงานพัฒนาองค์กร และการควบรวมและซื้อกิจการ (M&A) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่จัดตั้งขึ้นในบริษัทใหม่แห่งนั้น ซึ่งตั้งอยู่ในประเทศเนเธอร์แลนด์ ในปี 2543 ระหว่างที่ทำงานในบริษัท Cognis นั้น เขาเป็นผู้ที่จัดกระบวนการขายเงินลงทุนให้กับกลุ่มคอนซอร์เทียมเอกชนแห่งหนึ่ง และจากนั้นก็เป็นหัวหน้าหน่วยงานด้านการควบคุมดูแลกิจการก่อนที่จะกลับมาร่วมงานกับ เฮงเค็ล อีกครั้งในปี 2549 เขาเป็นผู้ควบคุมดูแลบริษัทย่อยต่างๆ ของบริษัทเฮงเค็ล และจากนั้นในปี 2552 เขาก็รับผิดชอบเพิ่มเติมในส่วนของการวางแผนองค์กร ระหว่างปี 2554 - 2557 เขาขึ้นเป็นหัวหน้าองค์กรด้านการเงินในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งตั้งอยู่ในเซี่ยงไฮ้

หลังจากนั้นเขากลับไปทำงานที่สำนักงานใหญ่ในดุซเซลดอร์ฟ ในฐานะรองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโสฝ่ายการเงิน เขาเป็นผู้ดูแลรับผิดชอบด้านการเงินทั่วโลก ควบคู่กับการดูแลด้านการบัญชี การควบคุมดูแลบริษัทย่อยและหน่วยงานด้านการเงินการคลังต่างๆ ของกลุ่มบริษัท

เกี่ยวกับเฮงเค็ล

เฮงเค็ล ดำเนินธุรกิจทั่วโลกด้วยพอร์ตโฟลิโอผลิตภัณฑ์ที่สมดุลและหลากหลาย บริษัทฯ เป็นผู้นำในสามกลุ่มธุรกิจทั้งในธุรกิจเพื่ออุตสาหกรรมและธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค อันเป็นผลมาจากแบรนด์ นวัตกรรม และเทคโนโลยีที่แข็งแกร่ง ธุรกิจเทคโนโลยีกาวของเฮงเค็ล (Adhesive Technologies) เป็นผู้นำในตลาดกาวในทุกอุตสาหกรรมทั่วโลก ในธุรกิจผลิตภัณฑ์ซักล้างและผลิตภัณฑ์ในครัวเรือน และผลิตภัณฑ์บิวตี้แคร์ (Laundry & Home Care and Beauty Care businesses) เฮงเค็ล เป็นผู้นำในหลายตลาดและประเภทผลิตภัณฑ์ทั่วโลก เฮงเค็ล ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2419 และมีประวัติความสำเร็จอันยาวนานกว่า 140 ปี ในปีพ.ศ. 2561 เฮงเค็ล มียอดขายมากกว่า 2 หมื่นล้านยูโร และมีผลกำไรดำเนินงานที่ปรับปรุงแล้ว 3,500 ล้านยูโร เฮงเค็ล มีพนักงานมากกว่า 53,000 คนทั่วโลก ซึ่งมีความหลากหลายมีความมุ่งมั่น รวมกันเป็นหนึ่งเดียวด้วยวัฒนธรรมขององค์กรที่แข็งแกร่ง มีจุดมุ่งหมายร่วมกันในการสร้างคุณค่าที่ยั่งยืนและมีคุณค่าร่วมกัน ในฐานะผู้นำด้านความยั่งยืนซึ่งเป็นที่ยอมรับ เฮงเค็ล ได้รับการยกย่องจากดัชนีและการจัดอันดับระหว่างประเทศต่าง ๆ หุ้นบุริมสิทธิของเฮงเค็ลจดทะเบียนอยู่ในดัชนีหลักทรัพย์ DAX ของเยอรมนี ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาเข้าชมที่ www.henkel.com

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๔ พ.ค. C Rhyne Group ร่วมจัดงาน Asia Top Awards 2024 พร้อมรับรางวัล Business Awards
๒๔ พ.ค. FTI พบนักลงทุน Opportunity Day โชว์ผลงานไตรมาสแรก ปี 67
๒๔ พ.ค. ต้อนรับศูนย์อินเดียฯ สู่สถาบันเอเชียศึกษา พร้อมเปิดตัวหนังสือพุทธโคดม : บทวิเคราะห์เชิงรัฐศาสตร์ ว่าด้วยพุทธประวัติในบริบททางเศรษฐกิจ การเมือง
๒๔ พ.ค. Alibaba Cloud ประกาศเปิด Availability Zones ใหม่ และลงทุนทั่วโลกเพื่อขับเคลื่อนนวัตกรรมด้าน AI
๒๔ พ.ค. PwC ประเทศไทย แนะซีเอฟโอสร้างทัศนคติทางดิจิทัลเพื่อพลิกโฉมฝ่ายการเงิน
๒๔ พ.ค. เจแอนด์ที เอ็กซ์เพรส จับมือ กรมป่าไม้ จัดโครงการรักษาผืนป่า JT Forest สร้างการตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลสิ่งแวดล้อม
๒๔ พ.ค. 3 นวัตกรรมจุฬาฯ คว้ารางวัลเหรียญทอง และถ้วยรางวัลพิเศษ จากเวทีนวัตกรรมนานาชาติในงาน ITEX 2024 ที่มาเลเซีย
๒๔ พ.ค. ส่องไอเดียเยาวชนสร้างสรรค์! DekSDM SPU ออกแบบ Art Toy สุดน่ารัก หนึ่งในผลงาน โชว์บนเวที Thailand Toy Expo
๒๔ พ.ค. MAGURO เคาะราคาไอพีโอ 15.90 บาท จองซื้อ 28-30 พ.ค.นี้ ระดมทุนขยายธุรกิจ- หนุนการเติบโต และเสริมแกร่งการเงิน จ่อเทรด 5 มิ.ย.
๒๔ พ.ค. มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง สร้างอาชีพ สร้างชีวิต ร่วมกับกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว มอบอุปกรณ์ประกอบอาชีพให้กับสตรีที่ด้อยโอกาสในโครงการส่งเสริมอาชีพเพื่อสตรี ณ ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวรัตนาภา