NDR เปิดแผนธุรกิจปี 63 เดินหน้าขยายตลาดยางรถจักรยานยนต์ ลุยเจาะลูกค้าใหม่ในเวียดนาม-ฟิลิปปินส์

จันทร์ ๒๐ มกราคม ๒๐๒๐ ๑๑:๓๘
บิ๊กบอส "ชัยสิทธิ์ สัมฤทธิวณิชชา" บมจ.เอ็น.ดี.รับเบอร์ (NDR) เปิดกลยุทธ์ปี 2563 เดินหน้าขยายตลาดยางรถจักรยานยนต์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ปักหมุดเจาะตลาดใหม่ในเวียดนาม-ฟิลิปปินส์ คาดสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศอยู่ที่ 50% ของรายได้รวม ปักธงปีนี้เน้นการสร้างผลกำไร-รักษาฐานรายได้ พร้อมศึกษาและหาพาร์ทเนอร์ในต่างประเทศ เพื่อเพิ่มโอกาสในการเติบโตมากขึ้น
NDR เปิดแผนธุรกิจปี 63 เดินหน้าขยายตลาดยางรถจักรยานยนต์ ลุยเจาะลูกค้าใหม่ในเวียดนาม-ฟิลิปปินส์

นายชัยสิทธิ์ สัมฤทธิวณิชชา กรรมผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ดี.รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NDR ผู้ผลิตและจำหน่ายยางรถจักรยานยนต์รายใหญ่ของประเทศไทย เปิดเผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจในปี 2563 บริษัทฯจะรักษาฐานรายได้ให้ใกล้เคียงกับปีก่อน เพราะบริษัทฯยังมองว่าสภาพเศรษฐกิจโดยรวมยังคงชะลอตัวอยู่ จึงมุ่งเน้นที่จะรักษาฐานรายได้ ลดค่าใช้จ่ายและเน้นการสร้างผลกำไร จากฐานลูกค้าตลาดยางล้อรถจักรยานยนต์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยกลยุทธ์ในประเทศจะเน้นกิจกรรมการตลาดเพื่อช่วยตัวแทนจำหน่ายของบริษัทฯในการขายสินค้า และเพิ่มช่องทางการขายให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น รวมถึงศึกษาพฤติกรรมของผู้บริโภค เพื่อพัฒนาและผลิตสินค้าให้สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างแท้จริง

สำหรับแผนกลยุทธ์ในต่างประเทศจะมุ่งขยายไปยังตลาดใหม่ๆ เพิ่มเติมจากตลาดมาเลเซียซึ่งเป็นตลาดส่งออกหลัก โดยในปีที่ผ่านมาบริษัทฯสามารถขยายตลาดในประเทศลาวและกัมพูชาได้ตามเป้าหมาย สำหรับปีนี้บริษัทฯมีแผนจะเข้าไปเจาะตลาดในเวียดนามและฟิลิปปินส์เพิ่มขึ้น เนื่องจากมองว่าเป็นตลาดที่ยังมีศักยภาพในการเติบโตจากความต้องการใช้ยางรถจักรยานยนต์ ซึ่งตั้งเป้าสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศปีนี้อยู่ที่ 50% และในประเทศอยู่ที่ 50% นอกจากนี้ บริษัทฯยังศึกษาและหาพาร์ทเนอร์ในต่างประเทศ เพื่อเพิ่มโอกาสในการขยายตลาดในต่างประเทศเพิ่มขึ้น

"แผนการดำเนินงานในปีนี้เราจะมุ่งเน้นการเพิ่มขีดความสามารถในการทำกำไร จากแผนการขยายตลาดในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงการบริหารจัดการด้านต้นทุนภายในให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด ทั้งในส่วนของการบริหารต้นทุนวัตถุดิบ การผลิต และการปรับลดค่าใช้จ่ายงบลงทุนต่างๆ ที่ไม่จำเป็นลง" นายชัยสิทธิ์ กล่าว

ทั้งนี้ประเมินว่าแนวโน้มค่าเงินบาทในปีนี้น่าจะมีทิศทางดีขึ้น โดยคาดว่าจะไม่แข็งค่าเท่ากับปีที่ผ่านมา ซึ่งยอมรับว่าในปีก่อนบริษัทฯได้รับผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนพอสมควร โดยหากค่าเงินบาทอยู่ในระดับใกล้เคียงกับค่าเงินในภูมิภาค ก็จะมีผลดีต่อบริษัทฯ

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๐๗ ไทยพีบีเอสผนึกกำลัง สสส. ผลิต และเผยแพร่เนื้อหาส่งเสริมสุขภาวะเด็ก เยาวชน และครอบครัว
๑๗:๕๓ NPS ร่วมสืบสานประเพณีสงกรานต์ชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า ประจำปี 2567
๑๗:๐๕ แพทย์แผนไทย มทร.ธัญบุรี แนะฤดูร้อนควรทานพืชผักที่มีฤทธิ์เย็นช่วยลดความร้อนในร่างกาย
๑๗:๓๒ แพรนด้า จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2566
๑๗:๒๕ RBRU Herb Shot ขยายศักยภาพทางธุรกิจ รุกตลาดอินเดีย
๑๗:๔๘ ไฮเออร์ ประเทศไทย เดินเกมรุกไตรมาส 2 เปิดตัวตู้เย็นรุ่นใหม่ Multi-door HRF-MD679 ตั้งเป้าปี 67 ดันยอดขายตู้เย็นโต
๑๗:๐๕ เอ็น.ซี.ซี.ฯ ประกาศจัดงาน PET EXPO THAILAND 2024 ระดมสินค้า บริการ ลดหนักจัดเต็ม รับกระแส Petsumer ดันตลาดสัตว์เลี้ยงโตแรง
๑๗:๐๖ ธอส. ขานรับนโยบายรัฐบาล ลดอัตราดอกเบี้ย MRR 0.25% ต่อปี พร้อมส่งเสริมวินัยการออม ด้วย เงินฝากออมทรัพย์เก็บออม ดอกเบี้ยสูงถึง 1.95%
๑๗:๔๙ ManageEngine ลดความซับซ้อน ช่วยองค์กรจัดการต้นทุนบนคลาวด์ทั่วมัลติคลาวด์ได้ง่ายขึ้น พร้อมรองรับแพลตฟอร์ม Google Cloud
๑๗:๐๐ เปิดรับสมัครแล้ว HaadThip Fan Run 2024 แฟนรัน ฟันแลนด์ ดินแดนมหัศจรรย์ หาดสมิหลา จ.สงขลา