ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดคาดเศรษฐกิจไทยปี 63 ยังฟื้นตัวช้า ดอกเบี้ยนโยบายมีโอกาสปรับลดได้อีก

พุธ ๒๒ มกราคม ๒๐๒๐ ๑๗:๑๒
- โอกาสที่ประเทศไทยจะกลับไปเติบโตที่ระดับร้อยละ 4 อย่างที่เคยทำได้ในช่วงปี 2560-61 ยังไม่น่าจะเป็นไปได้ในช่วงนี้

- ค่าเงินบาทที่แข็งค่าไม่สอดคล้องกับเศรษฐกิจประเทศที่การเติบโตชะลอลง สร้างความกังวลให้กับธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นอย่างมาก

- เราคาดว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% ในไตรมาส 1 ของปีนี้ ทำให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายลดลงไปทำสถิติตำสุดใหม่ที่ 1%

ภาพรวมเศรษฐกิจไทยน่าจะเติบโตแบบชะลอตัว ยังไม่มีสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจน

ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) มองว่าโอกาสที่ประเทศไทยจะกลับไปเติบโตที่ระดับร้อยละ 4 อย่างที่เคยทำได้ในช่วงปี 2560-61 ยังไม่น่าจะเป็นไปได้ในช่วงนี้ เนื่องจากเศรษฐกิจในภาพรวมยังคงชะลอตัว การบริโภคภายในประเทศที่อ่อนกำลังลง ประกอบกับสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน ที่ส่งผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรม สะท้อนให้เห็นว่าโอกาสการฟื้นตัวในระยะสั้นนี้ยังไม่น่าเป็นไปได้ การชะลอตัวของเศรษฐกิจที่ยืดเยื้ออาจนำไปสู่ปัญหาหนี้ครัวเรือนเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากรายได้ฝืดเคืองทำให้คนต้องหันหาเงินกู้เพื่อดูแลค่าใช้จ่ายประจำวัน ยอดการนำเข้าที่ปรับลดลง สะท้อนให้เห็นถึงกิจกรรมทางเศรษฐกิจภายในประเทศที่อ่อนกำลังลง และแสดงให้เห็นว่าประเทศไทยยังไม่ได้ประโยชน์จากการย้ายฐานการลงทุนที่เคยคาดว่าจะเกิดขึ้นจากสงครามการค้า

"การบริโภค การลงทุนภายในประเทศ ไม่น่าจะปรับตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในปีนี้ นอกจากนี้ยังมีความไม่แน่นอนในเรื่องงบประมาณประจำปี และความเคลื่อนไหวทางการเมือง ซึ่งเป็นปัจจัยให้เรามองว่าเศรษฐกิจจะเติบโตช้า ในขณะที่ความเสี่ยงจากภายนอก ประกอบไปด้วยความขัดแย้งทางการค้าสหรัฐฯ-จีน และความตึงเครียดในตะวันออกกลาง" ดร. ทิม ลีฬหะพันธุ์ นักเศรษฐศาสตร์ ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) กล่าว

"ยังไม่เห็นภาพชัดเจนว่าประเทศไทยได้ประโยชน์จากการย้ายฐานการลงทุนอันเป็นผลมาจากสงครามการค้า หรือการเพิ่มขึ้นของการลงทุนจากต่างชาติ"

มองค่าเงินบาทยังคงแข็งค่าในระยะสั้น

ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดคาดค่าเงินบาทจะอยู่ที่ 29.25 ต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ในสิ้นไตรมาสหนึ่ง บัญชีเดินสะพัดเกินดุลของประเทศปรับเพิ่มขึ้นอีกในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ทั้งๆ ที่เงินบาทแข็งค่าขึ้น โดยปกติแล้ว ไตรมาส 1 มักเป็นไตรมาสที่ดีสำหรับบัญชีเดินสะพัดและค่าเงินบาท เนื่องจากเป็นฤดูกาลท่องเที่ยว ยิ่งไปกว่านั้น ความล่าช้าในการผ่านงบประมาณปี 2563 (ซึ่งเลื่อนมาจากเดือนตุลาคม 2562) น่าจะส่งผลให้การเบิกจ่ายล่าช้า ปัจจัยนี้น่าจะช่วยประคับประคองบัญชีเดินสะพัดในระยะสั้น เนื่องจากความล่าช้าในการเบิกจ่ายงบลงทุน อาจหมายถึงการลดการนำเข้าสินค้าทุน หรือการเกินดุลการค้าต่อเนื่อง แม้กระนั้น ความเสี่ยงสำคัญที่มีต่อมุมมองค่าเงินบาทแข็งในระยะสั้นของเราคือ โอกาสการใช้มาตรการใหม่ที่เข้มงวดขึ้น เพื่อจำกัดการแข็งค่าของเงินบาท

ดอกเบี้ยนโยบาย – แนวโน้มการปรับลดยังไม่จบ

อย่างน้อยตลอดไตรมาส 1 นี้ นโยบายการเงินจะยังคงเป็นเครื่องมือหลักในการดูแลเศรษฐกิจ ในระยะสั้นไม่น่าจะมีมาตรการกระตุ้นทางการคลังที่มีนัยสำคัญ เนื่องจากงบประมาณปี 2563 ยังอยู่ในกระบวนการประกาศใช้ แม้ว่าการเบิกจ่ายงบประมาณจะเริ่มขึ้น นโยบายการเงินที่เกื้อหนุน หรือดอกเบี้ยในระดับต่ำ ยังคงมีความจำเป็นในการช่วยส่งเสริมการใช้จ่ายทางการคลัง รัฐบาลดูเหมือนจะให้ความสำคัญกับการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น โดยมุ่งไปที่การบริโภค มากกว่าการลงทุน

"เราคาดว่าธนาคารแห่งประเทศไทยจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 0.25% ในไตรมาส 1 ทำให้ดอกเบี้ยนโยบายลดลงไปทำสถิติใหม่ที่ 1% มุมมองของเราอาจต่างจากตลาด ที่ยังมองว่าดอกเบี้ยนโยบายไม่น่าจะลดลงไปต่ำกว่าสถิติเดิมที่ 1.25%" ดร. ทิม กล่าว

"หลังไตรมาส 1 เรามองว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายยังคงเป็นไปได้อีก หากภาพรวมเศรษฐกิจยังคงชะลอตัว" ดร. ทิม กล่าวสรุป

เกี่ยวกับธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด

เราเป็นกลุ่มธนาคารสากลชั้นนำระดับโลกที่ดำเนินธุรกิจใน 60 ตลาดที่มีการปรับตัวอย่างรวดเร็ว และให้บริการลูกค้าในอีก 85 ตลาด โดยมีเป้าหมายเพื่อขับเคลื่อนการค้า การลงทุนและการสร้างความมั่งคั่ง หลักการที่สืบทอดมาและค่านิยมองค์กรของเราสะท้อนอยู่ในพันธกิจของสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดที่ว่า Here for good

ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดจำกัด มหาชน ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในลอนดอนและฮ่องกง นอกจากนี้ยังได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์บอมเบย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งชาติในประเทศอินเดียอีกด้วย

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม หรือต้องการอ่านบทความจากทีมนักเศรษฐศาสตร์ โปรดเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.sc.com และติดตามสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดได้ทาง Twitter, LinkedIn และ Facebook

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘:๓๓ COM7 เดินหน้าเต็มสปีด EV7 ส่งมอบแท็กซี่ไฟฟ้าล็อตแรก ดันเมกะเทรนด์ EV สู่หัวใจเมือง
๑๘:๓๖ GCAP ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ไฟเขียวผ่านฉลุยทุกวาระ พร้อมเดินหน้าแผนธุรกิจขยายสู่กลยุทธ์ Non Lending
๑๘:๔๔ PYLON จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผู้ถือหุ้นไฟเขียวจ่ายปันผล 0.04 บาท/หุ้น
๑๘:๓๙ LDC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 มุ่งเป็นคลินิกทันตกรรมพรีเมียม ในราคาที่เข้าถึงง่าย
๑๘:๑๒ ผู้ถือหุ้น TATG ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.07 บาท/หุ้น ลงทุนเครื่องจักรใหม่เสริมแกร่งสายการผลิต พิชิตเป้ารายได้ 3,000
๑๘:๕๗ ADVICE จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นรูปแบบ Hybrid ประจำปี 2568 ผถห.ไฟเขียวทุกวาระ เคาะแจกปันผล 0.175 บ./หุ้น
๑๘:๓๖ LE ร่วมงานสถาปนิก'68 โชว์นวัตกรรมแสงสว่างอัจฉริยะ เสริมภาพผู้นำ Lighting Solutions Provider
๑๘:๔๖ SELIC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ปี 2568 ผู้ถือหุ้นเห็นชอบทุกวาระ อนุมัติจ่ายปันผล 0.038 บาท/หุ้น เดินหน้า 3 ธุรกิจ
๑๘:๔๙ STA เปิดบ้านต้อนรับภาครัฐ โชว์มาตรฐานรับซื้อยางโปร่งใส เป็นธรรม หนุนรัฐต้านยางเถื่อน
๑๘:๓๕ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จับมือเอกชน ปั้นช่างเชื่อมโกอินเตอร์ รายได้ทะลุ 70,000 บาทต่อเดือน