พอถึงเวลาพระอาทิตย์เริ่มตกดินอากาศก็เริ่มเป็นใจให้พวกเราได้ชิลกัน เมื่อทุกคนจับจองที่นั่งกันจนเต็มพื้นที่แล้ว ศิลปินเบอร์แรกอย่าง ณัฐ ศักดาทร ก็พร้อมจับไมค์ออกสตาร์ทด้วยเสียงนุ่มๆ ที่ทำให้บรรยากาศดีขึ้นอีกเป็นกองกับเพลง คิดถึงดังดัง, ใจพังพัง และ ฉันเห็น ที่แฟนๆ ร้องตามกันได้ ก่อนจะลาไปด้วยเพลงฮิตอย่าง รักเธอคนเดียว ส่งต่อไปที่หนุ่มๆ มาดเซอร์อย่าง เดอะ พาร์คินสัน ที่มาสานต่อความชิลให้แฟนๆ ได้เพลินกันอย่างต่อเนื่อง กับเพลงช้าๆ สไตล์อาร์แอนด์บีที่ขนมาเพียบทั้ง คนชั่ว 2018, แค่นี้...พอ, เมื่อคืน และ เพื่อนรัก ไปต่อกันที่คู่หูดูโอ้อย่าง แว่นใหญ่ และสาว มน Monik ที่ควงคู่กันมาในเพลง รักตัวเอง และ ทำได้ไง แถมส่งสาวมนลงมาแจกปิ๊กกีตาร์ให้แฟนๆ ถึงข้างล่างเวทีในเพลง อย่าให้ฉันคิด อีกด้วย เรียกได้ว่าเอาใจกันแบบสุดๆ ด้านแว่นใหญ่ก็ขอโชว์เพลงที่เศร้าที่สุดที่เคยแต่งมาให้ได้ฟังกันอย่างเพลง บอกตัวเอง ยิ่งดึกเท่าไหร่ดูเหมือนบรรยากาศจะยิ่งสนุกมากขึ้นเท่านั้น ขยับจังหวะขึ้นมากับหนุ่มๆ วง ลิปตา ที่เตรียมเพลงมาให้ได้โยกย้ายกันหลายเพลง อย่าง ไปอยู่ที่ไหนมา, อยากมีแฟนแล้ว และ Good Luck ก่อนจะหักดิบให้คนแอบรักได้ช้ำใจตายกับเพลง ยัง ก่อนตบท้ายด้วยเพลงฮิตยุค90 ปลุกคนดูลุกขึ้นมาเต้นแบบยาวๆ ส่งต่อไปที่ว่าที่เจ้าบ่าวป้ายแดงอย่างหนุ่มเป้ที่มาพร้อมสมาชิกวง มายด์ ในลุคชุดขาวเหมือนกันทั้งวงจนนึกว่าบอยแบนด์ ที่มากับเซ็ทเพลงคุ้นหูและร้องตามกันได้อย่าง Sayonara, I'm missing you, ดีต่อใจ และ Unlovable ปิดท้ายกันแบบหล่อๆ คนสุดท้ายของคืนนี้อย่าง นนท์ ธนนท์ ที่เหล่าแฟนคลับกรูกันเข้ามาเต็มหน้าเวทีเพื่อเตรียมสนุกกับเพลง Play, เจ็บที่ยังรู้สึก, ฝืนตัวเองไม่เป็น และ มีผลต่อหัวใจ ทั้งร้องทั้งเต้นรับส่งกันจนลืมเหนื่อย
เต็มอิ่มกับเพลงและศิลปินแบบจุกๆ แถมยังได้สัมผัสบรรยากาศเย็นๆ ภายใต้อ้อมกอดของขุนเขาด้วยแล้ว ยิ่งทำให้ฟินกับงานนี้ถึงขีดสุดไปเลยติดตามความสนุกครั้งใหม่ได้ที่ อีเอฟเอ็ม 94 และ ชิล ออนไลน์ ทุกช่วงดีเจ หรือคลิ๊กที่ www.efm.fm และ www.chillfm.fm
