บลจ.กสิกรไทย ชวนลงทุน K-FIXEDPLUS ชูธีมหลบความผันผวนด้วยตราสารหนี้ในระยะยาว

อังคาร ๐๔ กุมภาพันธ์ ๒๐๒๐ ๑๓:๕๙
นายชัชชัย สฤษดิ์อภิรักษ์ Chief Investment Officer (รองกรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการลงทุน) บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยถึงภาพรวมเศรษฐกิจโลกที่ยังคงมีความเสี่ยงจากประเด็นทางการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน ประเด็น Brexit และความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างประเทศ (Geopolitical Risk) รวมถึงข่าวการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ล้วนส่งผลกดดันต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลก อย่างไรก็ดี นโยบายการเงินของประเทศแกนหลัก ยังคงผ่อนคลายทั้งด้านนโยบายดอกเบี้ย และการอัดฉีดสภาพคล่องผ่านการซื้อพันธบัตร เพื่อประคองการเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะสั้น ทำให้ส่งผลดีต่อราคาตราสารหนี้

นายชัชชัยกล่าวต่อไปว่า จากสถานการณ์ในช่วงนี้นับเป็นจังหวะให้ผู้ลงทุนได้ทยอยลงทุนในตราสารหนี้ โดยมองว่าการลงทุนตราสารหนี้ในระยะยาวยังคงให้ผลตอบแทนที่ดี และมีแนวโน้มได้รับประโยชน์จากนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายทั่วโลก จึงแนะนำให้กระจายการลงทุนเข้ามาใน กองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ พลัส (K-FIXEDPLUS) ที่มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ระยะกลาง-ยาวคุณภาพดีทั้งในและต่างประเทศ อาทิ พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย เงินฝากในประเทศ และเงินฝากต่างประเทศ เป็นต้น โดยมีสัดส่วนการลงทุนในต่างประเทศยืดหยุ่นตั้งแต่ 0-100% กระจายการลงทุนมากกว่า 70 ตราสารทั่วโลก ด้วยกลยุทธ์การบริหารพอร์ตแบบเชิงรุก (Active Investment Management) จากทีมผู้จัดการกองทุนที่บริหารความเสี่ยงครอบคลุมในทุกประเด็น อาทิ ความเสี่ยงด้านอัตราดอกเบี้ย ด้านความสามารถในการชำระหนี้ รวมถึงมีการติดตามข้อมูลรายวันเพื่อให้ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงได้ทันเหตุการณ์

"สำหรับมุมมองตลาดตราสารหนี้ไทยได้แรงหนุนจากนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายเพื่อกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ขยายตัวต่ำกว่าศักยภาพจากส่งออกและการลงทุนที่หดตัว คาดว่าอาจมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายไทยลงอีก 1 ครั้งในปีนี้ สอดคล้องกับธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่ยังคงดำเนินนโยบายผ่อนคลายทางการเงินเพื่อหนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และธนาคารกลางในเอเชียส่วนใหญ่ที่ต่างทยอยปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อพยุงการเติบโตทางเศรษฐกิจและการบริโภคภายในประเทศ อย่างไรก็ตาม ในปี 2563 อัตราผลตอบแทนระยะยาวมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปริมาณอุปทานตราสารหนี้ ไทยที่เพิ่มขึ้น เม็ดเงินลงทุนต่างชาติที่ไหลเข้ามาในไทยลดลง ทั้งนี้ สามารถทยอยสะสมลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ได้ เพราะผลตอบแทนจากการลงทุนในกองทุนตราสารหนี้จะยังดีกว่าเงินฝากในประเทศ " นายชัชชัยกล่าว

นายชัชชัยกล่าวเพิ่มเติมว่า การลงทุนตราสารหนี้ในระยะยาวจะช่วยกระจายความเสี่ยง และปกป้องพอร์ตจากภาวะตลาดผันผวนได้ กองทุน K-FIXEDPLUS จึงเหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่สามารถถือครองหน่วยลงทุนได้ตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป และมองหาโอกาสรับผลตอบแทนที่มากกว่าเงินฝาก และกองทุนตลาดเงิน นอกจากนี้ ยังเป็นทางเลือกให้กับผู้ลงทุนที่ต้องการสภาพคล่องที่สูงกว่ากองทุน Term Fund อายุโครงการ 1 ปีได้ ทั้งนี้ กองทุน K-FIXEDPLUS มีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 6 เดือน และ 1 ปี อยู่ที่ 1.84% และ 3.30% ต่อปี เอาชนะเกณฑ์มาตรฐานซึ่งอยู่ที่ 1.77% และ 3.10% ต่อปี ตามลำดับ (ข้อมูล ณ วันที่ 30 ธ.ค. 62)

สำหรับผู้ลงทุนที่สนใจกองทุน K-FIXEDPLUS สามารถเริ่มต้นลงทุนเพียง 500 บาท ได้ง่ายๆ ผ่าน App K PLUS, K-My Funds, ธนาคารกสิกรไทย หรือผู้สนับสนุนการขายและรับซื้อคืนหน่วยลงทุน ติดต่อขอรับหนังสือชี้ชวนได้ตามช่องทางดังกล่าว สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ KAsset Contact Center 0 2673 3888

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘:๓๓ COM7 เดินหน้าเต็มสปีด EV7 ส่งมอบแท็กซี่ไฟฟ้าล็อตแรก ดันเมกะเทรนด์ EV สู่หัวใจเมือง
๑๘:๓๖ GCAP ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ไฟเขียวผ่านฉลุยทุกวาระ พร้อมเดินหน้าแผนธุรกิจขยายสู่กลยุทธ์ Non Lending
๑๘:๔๔ PYLON จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผู้ถือหุ้นไฟเขียวจ่ายปันผล 0.04 บาท/หุ้น
๑๘:๓๙ LDC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 มุ่งเป็นคลินิกทันตกรรมพรีเมียม ในราคาที่เข้าถึงง่าย
๑๘:๑๒ ผู้ถือหุ้น TATG ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.07 บาท/หุ้น ลงทุนเครื่องจักรใหม่เสริมแกร่งสายการผลิต พิชิตเป้ารายได้ 3,000
๑๘:๕๗ ADVICE จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นรูปแบบ Hybrid ประจำปี 2568 ผถห.ไฟเขียวทุกวาระ เคาะแจกปันผล 0.175 บ./หุ้น
๑๘:๓๖ LE ร่วมงานสถาปนิก'68 โชว์นวัตกรรมแสงสว่างอัจฉริยะ เสริมภาพผู้นำ Lighting Solutions Provider
๑๘:๔๖ SELIC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ปี 2568 ผู้ถือหุ้นเห็นชอบทุกวาระ อนุมัติจ่ายปันผล 0.038 บาท/หุ้น เดินหน้า 3 ธุรกิจ
๑๘:๔๙ STA เปิดบ้านต้อนรับภาครัฐ โชว์มาตรฐานรับซื้อยางโปร่งใส เป็นธรรม หนุนรัฐต้านยางเถื่อน
๑๘:๓๕ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จับมือเอกชน ปั้นช่างเชื่อมโกอินเตอร์ รายได้ทะลุ 70,000 บาทต่อเดือน