นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้รับรายงานจากสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ(สคต.) ณ เมืองฮ่องกง ว่าผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าได้ส่งผลให้หน้ากากอนามัย และข้าวในซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านค้าปลีกบางแห่งขาดแคลน หลังจากพบว่ามีประชาชนกว้านซื้อเพื่อเก็บไว้บริโภค โดยเฉพาะข้าวหอมมะลิไทยที่พบว่ามีประชาชนจำนวนมากแย่งกันซื้อ ดังนั้นมั่นใจว่าสถานการณ์การส่งออกข้าวหอมมะลิไทยไปตลาดฮ่องกง ซึ่งเป็นแหล่งนำเข้าข้าวหอมมะลิไทยอันดับ 2 ของโลกรองจากสหรัฐ ยังคงสดใส เนื่องจากข้าวเป็นสินค้าบริโภคหลักที่มีความจำเป็นในการบริโภคในฮ่องกง
อย่างไรก็ตามสถานการณ์ข้าวในห้างซูเปอร์มาร์เก็ตในฮ่องนั้นรัฐบาลฮ่องกงได้รับการยืนยันจากสมาคมผู้ส่งออกและนำเข้าข้าวฮ่องกงรายใหญ่ 4 แห่งซึ่งพบว่าผู้ประกอบการได้มีการสั่งสินค้าและมีการสำรองที่เพียงพอและถูกเก็บไว้ตามกฎระเบียบ Registration as a Rice Stockholder ซึ่งข้าวส่วนหนึ่งก็จะเป็นข้าวหอมมะลิที่มาจากประเทศไทยด้วย
"ได้รับรายงานว่าในระยะหลังประชาชนจำนวนมากต่างแย่งกันซื้อข้าวบนชั้นวางสินค้าในร้านค้าปลีกบางแห่งมากขึ้น เนื่องจากมีความกังวลสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า และบางคนซื้อเพื่อกักตุนไว้ ยิ่งไปกว่านั้นในช่วงวันหยุดเทศกาลตรุษจีนที่ผ่านมาทางผู้ประกอบไม่สามารถขนส่งข้าวให้ร้านค้าปลีกได้ทัน แม้จะเป็นเหตุการณ์ชั่วคราว แต่ทางรัฐบาลของฮ่องกงได้ขอความร่วมมือจากประชาชนไม่ให้ตื่นตระหนกซื้อสินค้าไปกักตุนมากเกินไป"
ขณะเดียวกันนางCarrie Lam ผู้บริหารสูงสุดฮ่องกง ได้ออกมายืนยันว่าแล้วว่ามาตรการปิดด่านชายแดนเพิ่มเติมในฮ่องกงจะไม่ส่งผลกระทบต่อการขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภคที่จะส่งผลให้เกิดการขาดแคลนอาหารในฮ่องกงเนื่องจากการปิดด่านชายแดนดังกล่าวเป็นเพียงการควบคุมผู้โดยสารในการเข้าออกเท่านั้น โดยไม่มีผลต่อการขนส่งสินค้า พร้อมทั้งชี้แจงเพิ่มเติมว่าสาเหตุที่ชั้นวางสินค้าในซูเปอร์มาเก็ตและร้านค้าปลีกที่ว่างเปล่านั้นเป็นเพราะข้าวไม่ได้ถูกนำมาเติมในคลังสินค้าได้ทันต่อความต้องการของประชาชน และที่สำคัญรัฐบาลฮ่องกงได้มีการตรวจสอบการค้าปลีกต่อเนื่อง
"ปัญหาสินค้าบริโภคขาดตลาดนั้น ส่วนหนึ่งเกิดจากการหยุดงานในเทศกาลตรุษจีน นอกจากนั้นหลังจากที่นาง Carrie Lam ผู้บริหารสูงสุดฮ่องกงออกมาประกาศเมื่อวันที่ 25 ม.ค. 63 ให้หน่วยงานราชการทำงานจากที่บ้าน และสถาบันการศึกษาปิด การเรียนการสอน และขอความร่วมมือจากภาคบริษัทเอกชนให้พนักงานไม่ต้องไปทำงาน และลดชั่วโมงการทำงาน ทำให้ไปรษณีย์ และบริษัทเอกชนบางแห่ง ไม่เปิดให้บริการ ส่งผลให้สินค้าจำนวนมากตกค้าง และไม่สามารถนำไปขายได้ตามความต้องการ ทั้งนี้คาดว่าภาวะขาดตลาดดังกล่าวจะเป็นเพียงเหตุการณ์ชั่วคราวเท่านั้น อย่างไรก็ตามในส่วนของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศก็ได้ติดตามสถานการณ์เรื่องนี้อย่างใกล้ชิดและให้สคต. ณ เมืองฮ่องกง รายงานสถานการณ์อย่างต่อเนื่องเพื่อให้ประผู้ประกอบการได้รับทราบต่อไป"
ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองฮ่องกง หรือกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ www.ditp.go.th หรือสายตรงการค้าระหว่างประเทศ โทร 1169