กรุงศรีคาดเงินบาทซื้อขายในกรอบ 31.00-31.35 จับตาผลกระทบ COVID-19 สภาพัฒน์ฯ ลดเป้าจีดีพี

จันทร์ ๑๗ กุมภาพันธ์ ๒๐๒๐ ๑๔:๓๔
กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มีมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่า มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ31.00-31.35 ต่อดอลลาร์เทียบกับระดับปิดแข็งค่าที่ 31.16 ต่อดอลลาร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้น 3.0 พันล้านบาท แต่ซื้อพันธบัตรสุทธิ 2.0 พันล้านบาท ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรไทยยังคงทำสถิติแตะระดับต่ำสุดครั้งใหม่ ขณะที่เงินดอลลาร์แข็งค่าเทียบกับสกุลเงินสำคัญส่วนใหญ่ด้วยแรงหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ สะท้อนทิศทางที่สดใส และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ขยับสูงขึ้นเล็กน้อย อย่างไรก็ดี การอ่อนค่าของเงินเยนซึ่งเป็นแหล่งพักเงินที่ปลอดภัยเป็นไปอย่างจำกัดท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกจากการระบาดของ COVID-19

กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี มองว่าตลาดจะติดตามสถานการณ์ไวรัส COVID-19 รวมถึงการเปิดเผยบันทึกการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) นอกจากนี้ การอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องของเงินยูโรอยู่ในความสนใจของนักลงทุนเช่นกัน หลังจากเงินยูโรแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 2 ปีครึ่งหลังข้อมูลเศรษฐกิจยูโรโซนบ่งชี้แนวโน้มอ่อนแอต่อเนื่อง โดยในระยะนี้เงินบาทกลับมาเคลื่อนไหวตามค่าเงินหยวนและเงินยูโรเป็นหลัก

สำหรับปัจจัยในประเทศ สภาพัฒน์รายงานตัวเลขจีดีพีไตรมาส 4/2562 เติบโตเพียง 1.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ซึ่งต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้และเป็นอัตราการขยายตัวต่ำสุดในรอบกว่า 5 ปี โดยสภาพัฒน์ปรับลดประมาณการสำหรับอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจในปี 2563 เป็น 1.5-2.5% จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัว 2.7-3.7% ส่วนกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาประเมินผลกระทบจากไวรัสสายพันธุ์ใหม่จะทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติปี 2563 หายไป 5 ล้านคน และสูญเสียรายได้ 2.5 แสนล้านบาท ขณะที่ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มองว่าหากผลกระทบสูงถึงระดับดังกล่าวจะคิดเป็น 1.5%ของจีดีพี และเมื่อรวมปัจจัยภัยแล้งและงบประมาณที่ล่าช้าจะทำให้เศรษฐกิจปีนี้มีโอกาสโตต่ำกว่า 2% โดยไตรมาสแรกปีนี้อาจขยายตัวไม่ถึง 1% ซึ่งน่าจะเป็นไตรมาสที่จีดีพีโตต่ำสุดของปีนี้ ขณะที่การส่งออกปีนี้อาจติดลบจากเดิมที่ธปท.คาดว่าจะฟื้นตัวได้ 0.5% โดยการส่งออกไปจีนสะดุดลงตามห่วงโซ่การผลิต อนึ่ง ธปท.ระบุว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจที่สำคัญจะต้องมาจากงบประมาณ นอกจากนี้ ธปท.กล่าวถึงทิศทางของค่าเงินบาทว่าอ่อนค่าลงค่อนข้างเร็วจากการระบาดของไวรัส แต่ยังไม่สอดคล้องกับพื้นฐานเศรษฐกิจ และเงินบาทที่อ่อนค่าลงไม่ได้ช่วยเศรษฐกิจมากนัก ท่าทีเช่นนี้สะท้อนว่าแรงขับเคลื่อนเกือบทุกตัวของเศรษฐกิจไทยหยุดชะงักลงซึ่งบั่นทอนความเชื่อมั่นอย่างมีนัยสำคัญ และคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) อาจตัดสินใจลดดอกเบี้ยนโยบายลงอีกสู่ระดับ 0.75% เพื่อส่งสัญญาณว่าทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกัน

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๔ พ.ค. Siriraj Education Expo 2024 ก้าวสู่ยุคใหม่ไปกับศิริราช พร้อมยกระดับทางการแพทย์ให้ดีขึ้น เพื่อสุขภาวะที่ดีของคนไทยทุกคน
๐๓ พ.ค. ครั้งแรก! งานเทศกาลคอนเทนต์ LGBTQ ฉลองความเท่าเทียมทางเพศ THAILAND INTERNATIONAL LGBTQ FILM TV FESTIVAL 2024 ปักหมุดเตรียมพบกัน กันยายนนี้
๐๓ พ.ค. โน วัน เอลส์ ส่ง 3 เพลงรัก 3 สไตล์! ผ่านมิวสิกซี่รีย์ ที่จะทำให้คุณเข้าใจความรักมากขึ้น
๐๓ พ.ค. ทีซีเอ็มซีมอบรางวัลประกวดการออกแบบผลงานด้านผลิตภัณฑ์อคูสติกส์
๐๓ พ.ค. GT Auto ฉลองแชมป์ยอดขาย Volvo จัดงาน มหกรรม GT Auto Show ลดสูงสุด 1,000,000 บาท พร้อมชูบริการ GT Auto Exclusive Service
๐๓ พ.ค. กทม. เตรียมพร้อมให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเสี่ยงและนักเรียนในสังกัด
๐๓ พ.ค. กรมส่งเสริมการเกษตร ประชุมคณะทำงานความร่วมมือด้านการรับรองแหล่งผลิตพืชฯ (GAP พืช) ครั้งที่ 1/2567
๐๓ พ.ค. First Sale! realme 12 5G และ realme 12X 5G สัมผัสประสบการณ์ Portrait Master กับกล้องซูม 3X in sensor
๐๓ พ.ค. CRYSTALLIZING ใหม่! โดย SHISEIDO PROFESSIONAL อัปเกรดกลุ่มผลิตภัณฑ์ยืด-ดัดผม ชูเทคโนโลยีสุดล้ำ DUAL PERFORMANCE SYSTEM
๐๓ พ.ค. บัลเลต์ รีทรีต บนเกาะมัลดีฟส์ กลับมาอีกครั้ง ที่ อวานี พลัส แฟเรส โดย คาร์ริส สการ์เลต นักเต้นบัลเลต์ชื่อดัง