นายไพศาล อ่าวสถาพร รองกรรมการผู้จัดการ สายงานธุรกิจอาหาร บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริการจัดส่งอาหาร หรือฟู้ดเดลิเวอรี่ (Food Delivery) เป็นธุรกิจที่ยังคงมาแรงและมีแนวโน้มขยายตัวมากขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากแรงสนับสนุนของพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ ที่มีความคาดหวังในเรื่องของความสะดวกสบายและความรวดเร็วมากขึ้น ซึ่งนอกเหนือจากการพัฒนาช่องทางการสั่งซื้อออนไลน์ (เพิ่มเติมจากการสั่งซื้อผ่านทางโทร. 1773) ผ่านแพลตฟอร์มของตัวเอง ได้แก่ โออิชิเดลิเวอรี่ดอทคอม (www.oishidelivery.com) แล้ว 'โออิชิ’เรายังมีแนวทางในการประสานความร่วมมือทางธุรกิจกับผู้ให้บริการสั่งอาหารแบบออนดีมานด์บนแอปพลิเคชันชั้นนำของไทยเพิ่มเติมอีกด้วย
“ในส่วนของ “ชาบูชิ” (Shabushi By OISHI) เอง นอกเหนือจากการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และเมนูใหม่ ๆ การสร้างสรรค์แคมเปญการตลาดที่เหมาะสม โดนใจ และการขยายสาขาต่อเนื่อง ความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญล่าสุดนับตั้งแต่มี'ชาบูชิ’มา คือ ดำเนินการเร่งพัฒนาและยกระดับมาตรฐานบริการรับกระแสเดลิเวอรี่มาแรง (เข้ามาเสริมการขายหน้าร้าน) พร้อมเปิดตัวช่องทางและบริการใหม่ !!! “ชาบูชิ เดลิเวอรี่” (Shabushi Delivery) เป็นครั้งแรก ผ่านการผนึกกำลังร่วมกับแพล็ตฟอร์มระดับโลก “ฟู้ดแพนด้า” (foodpanda) เป็นรายแรก (ก่อนขยายความร่วมมือไปยังเครือข่ายผู้ให้บริการแอปฯ ฟู้ด เดลิเวอรี่ ชั้นนำรายอื่น ๆ ทั้งแกร็บฟู้ดและไลน์แมนในลำดับต่อไป) ทั้งนี้เพื่อเข้าถึงและขยายฐานกลุ่มผู้บริโภคให้มากยิ่งขึ้นนั่นเอง” นายไพศาล กล่าว
สำหรับบริการของ “ชาบูชิ เดลิเวอรี่” นั้นได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์ความสะดวก และความอร่อย ให้กับนักกิน และกลุ่มคนรักสบาย โดยคัดสรรเมนูที่ได้รับความนิยมสูงสุดของ ชาบูชิ ครบครันทั้งเนื้อหมู เนื้อวัว ซีฟู้ด มานำเสนอในรูปแบบของเมนูชุดชาบู-ชาบู ซึ่งมีให้เลือกตามความต้องการ ตั้งแต่ชุดเล็กไปจนถึงชุดใหญ่ ประกอบด้วย ชุดอิ่มสุดคุ้ม (สำหรับ 1 ท่าน) ราคาชุดละ 169 บาท ชุดอิ่มเป็นคู่ (สำหรับ 2 ท่าน) ราคาชุดละ 329 บาท และ ชุดอิ่มอร่อยยกแก๊ง (สำหรับ 3 – 4 ท่าน) ราคาเริ่มต้นชุดละ 499 บาท (สำหรับชุดรวมหมู และชุดรวมเนื้อวัวและหมู) พร้อมลำเลียงความอร่อยล้นสายพาน ส่งตรงจากร้านถึงหน้าประตูบ้าน โดยสามารถสั่งผ่านช่องทางออนไลน์ ทั้งเว็บ www.foopanda.co.th และแอปฯ foodpanda ได้แล้ววันนี้
อนึ่ง “ชาบูชิ” ถือเป็นแบรนด์ร้านอาหารญี่ปุ่นในเครือโออิชิ ที่ประสบความสำเร็จและได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังสามารถสร้างการเติบโตทั้งรายได้และกำไรได้อย่างน่าพอใจ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงแผนกลยุทธ์สำคัญ 3 แกนหลัก คือ (1) Driving Organic Growth : สร้างความแตกต่างผ่านคุณค่าของสินค้า/บริการเพื่อการเติบโตที่มั่นคงและยั่งยืน (2) Driving Operational Excellence : ปรับกระบวนการทางธุรกิจให้มีความยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพมากขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการและความพึงพอใจของลูกค้า และ (3) Store Expansion : ขยายพื้นที่ให้บริการและสาขาอย่างต่อเนื่องเพื่อครอบคลุมและเข้าถึงฐานลูกค้าใหม่ ๆ เพิ่มขึ้น
“เหนือสิ่งอื่นใด การพัฒนาต่อยอดรูปแบบการบริการให้ดีขึ้น ใหม่ขึ้น มีประโยชน์ขึ้น ถือเป็นยุทธ์ศาสตร์การดำเนินธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับการมุ่งสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ และความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้ามาโดยตลอด อันเป็นการตอกย้ำความสำเร็จของ ชาบูชิ ในฐานะผู้นำตลาดชาบู-ชาบู สุกี้หม้อไฟสไตล์ญี่ปุ่น ได้เป็นอย่างดี” นายไพศาล กล่าวทิ้งท้าย