พาณิชย์ สรุปผลการจับกุมผู้จำหน่ายหน้ากากอนามัยเพิ่มเป็น 176 ราย

พฤหัส ๑๙ มีนาคม ๒๐๒๐ ๑๓:๓๐
นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ รายงานผลการจับกุมดำเนินคดีผู้จำหน่ายหน้ากากอนามัยที่กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 ของ วันที่ 18 มีนาคม 2563 จำนวน 7 ราย ดังนี้
พาณิชย์ สรุปผลการจับกุมผู้จำหน่ายหน้ากากอนามัยเพิ่มเป็น 176 ราย

- กรุงเทพฯ จำนวน 2 ราย เป็นประเภทร้านค้าทั่วไป พบขายหน้ากากอนามัยแพ็ค 10 ชิ้น ในราคาแพ็คละ 160 บาท เฉลี่ยชิ้นละ 16 บาท 1 ราย จึงแจ้งข้อหากระทำความผิดขายหน้ากากอนามัยเกินราคาควบคุม และขายราคาเกินสมควร ส่วนอีก 1 ราย กระทำความผิดขายเจลล้างมือที่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนประกอบ โดยไม่ปิดป้ายแสดงราคา

- ต่างจังหวัด จำนวน 5 ราย ได้แก่ จังหวัดอุดรธานี 1 ราย เป็นประเภทร้านค้าทั่วไป กระทำความผิดข้อหาขายหน้ากากอนามัยเกินราคาควบคุม ในราคาชิ้นละ 18 บาท จังหวัดเชียงใหม่ 1 ราย เป็นโรงงานผลิตหน้ากากอนามัย พบความผิดไม่แจ้งข้อมูลปริมาณ สถานที่เก็บ ตามประกาศ กกร. จึงแจ้งข้อหา มาตรา 25(5) เป็นผู้ผลิตไม่แจ้งต้นทุนราคาซื้อราคาจำหน่ายปริมาณการผลิตปริมาณคงเหลือรายวัน จังหวัดปทุมธานี 2 รายเป็นการล่อซื้อหน้ากากอนามัย ในราคาชิ้นละ 20 บาท โดยทั้งสองรายพบการกระทำความผิดข้อหาไม่ปิดป้ายแสดงราคา ขายเกินราคาควบคุม และขายแพงเกินสมควร จังหวัดศรีสะเกษ 1 ราย พบขายหน้ากากอนามัยกล่องละ 50 ชิ้น ในราคา 1,000 บาท เฉลี่ยชิ้นละ 20 บาท แจ้งข้อหาไม่ปิดป้ายแสดงราคา และขายราคาเกินเกินสมควร

โดยสถิติการจับกุมดำเนินคดีผู้กระทำความผิดถึงวันที่ 18 มีนาคม 2563 มีการจับกุมดำเนินคดีไปแล้ว รวมทั้งสิ้น 176 ราย แบ่งเป็นการจับกุมในเขตกรุงเทพฯ จำนวน 99 ราย และในต่างจังหวัด 77 ราย นอกจากได้จับกุมคนขายหน้ากากอนามัยแพงอย่างต่อเนื่องทั่วประเทศแล้ว ที่ผ่านมากระทรวงฯ ยังได้ตรวจสอบจับกุมผู้กระทำความผิดขายเจลล้างมือที่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนประกอบซึ่งเป็นสินค้าควบคุม ในข้อหาไม่ปิดป้ายแสดงราคาและข้อหาขายแพงเกินสมควรอันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 ด้วย

ทั้งนี้ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ได้เน้นย้ำเรื่องการขายสินค้าที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ที่ไม่ได้เป็นสินค้าควบคุมหากพบขายแพงเกินสมควรก็มีความผิดในข้อหาขายสินค้าแพงเกินสมควรตามมาตรา 29 จึงขอให้ผู้ค้าสินค้าทั้งหลายห้ามฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าโดยเด็ดขาด

สำหรับโทษที่ผู้กระทำความผิดตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 ในข้อหาขายเกินราคาควบคุม จะได้รับโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท ข้อหาไม่ปิดป้ายแสดงราคาขาย มีอัตราโทษปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท ในข้อหาขายแพงเกินสมควรมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 1.4 แสนบาท และหากเป็นผู้นำเข้าหรือตัวแทนจำหน่ายก็ต้องแจ้งปริมาณการถือครองสินค้าต่อกรมการค้าภายใน หากฝ่าฝืนจะมีความผิดซึ่งมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท ด้วย

หากพบเห็นผู้กระทำผิด โปรดแจ้งร้องเรียน สายด่วน 1569 หรือเว็บไซต์กรมการค้าภายใน www.dit.go.th กระทรวงพาณิชย์

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๐๒ บิทูเมน มารีน บริษัทลูก TASCO ลงนามสัญญาต่อเรือขนส่งยางมะตอย เสริมศักยภาพกองเรือ
๑๗:๓๓ รมว.เกษตรฯ ลุยร้อยเอ็ด ผลักดันโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ 3 แห่ง
๑๗:๔๔ กูรูหุ้นเชียร์ซื้อ PSP เคาะเป้าราคาสูงสุด 8 บ./หุ้น ยอดขายพุ่ง-หนี้ลด ดันกำไรปี 67 ออลไทม์ไฮ ดีล MA สร้าง New S-Curve
๑๗:๔๒ ข้าวกล้อง-จักรีภัทร พร้อมเต็มร้อย! ประเดิม จูเนียร์จีพี สนามแรก ประเทศอิตาลี
๑๗:๑๕ กรมประมงขอเชิญร่วมแข่งขันตกปลาชะโด
๑๗:๑๕ เชลล์ดอน การ์ตูนดังร่วมสาดความสนุกในเทศกาลสงกรานต์
๑๗:๒๙ สปสช. ติดปีกเทคโนโลยีไอทีด้วยคลาวด์กลางภาครัฐ GDCC ยกระดับบริการบัตรทองรวดเร็วทันสมัย ดูแลสุขภาพคนไทยยุคดิจิทัล
๑๗:๑๐ GSK ร่วมงาน Re-imagining UK Aging Care Event ของสถานทูตอังกฤษ มุ่งสร้างเสริมภูมิคุ้มกันผู้สูงอายุ
๑๗:๔๓ เอส เอฟ จับมือ กปน. มอบสิทธิ์ดูฟรีรวม 1,000 ที่นั่ง เพียงใช้ MWA Point ที่ เอส เอฟ!!
๑๖:๓๖ เตรียมพร้อมนับถอยหลัง 12 ชั่วโมงสุดท้าย! ก่อนเริ่มประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ Bitcoin Halving ครั้งที่ 4