รองคณบดี สัตวแพทย์ จุฬาฯ แนะข่าว “โควิด-19 ในเสือโคร่ง” ควรตระหนัก แต่อย่าตระหนก ยังไม่พบหลักฐานการติดต่อจาก “สัตว์สู่คน”

พุธ ๐๘ เมษายน ๒๐๒๐ ๑๐:๓๘
จากรายงานข่าวที่มีการพบเชื้อโควิด-19 ในสัตว์หลายชนิดในต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็น สุนัข แมว และล่าสุด เสือโคร่ง จนก่อให้เกิดความตื่นตระหนกในกลุ่มผู้เลี้ยงสัตว์และปศุสัตว์ ศาสตราจารย์ พ.ญ.ดร. เกวลี ฉัตรดรงค์ รองคณบดีวิจัยและนวัตกรรม คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อดีตนายกสมาคมสัตวแพทย์ผู้ประกอบการบำบัดโรคสัตว์แห่งประเทศไทย ได้ออกมาอธิบายถึงปรากฏการณ์ดังกล่าวว่า ยังไม่มีหลักฐานยืนยันการติดต่อจาก 'สัตว์เลี้ยงสู่คน’ ดังนั้น ผู้ที่ใกล้ชิดกับสัตว์ สัตว์เลี้ยงและปศุสัตว์ จึงควร “ตระหนัก” ในการดูแลสัตว์เลี้ยงของตนให้ปลอดภัย แต่ไม่ควร “ตระหนก” กับข่าวที่เกิดขึ้น

“การตรวจพบเชื้อในเสือโคร่ง

ซึ่งเป็นสัตว์ตระกูลแมวที่แสดงอาการทางระบบหายใจในสวนสัตว์ที่เมืองนิวยอร์ค

สหรัฐอเมริกานั้น เป็นการติดเชื้อจากพนักงานดูแลสัตว์ ซึ่งให้ผลบวกต่อเชื้อโควิด-19 โดยไม่แสดงอาการ

ทำให้ยังคงปฏิบัติงานอยู่ แต่หลังจากผลทดสอบเป็นบวกแล้ว สวนสัตว์ได้ปิดทำการ

แล้วสัตว์กลุ่มนี้จึงแสดงอาการทางระบบหายใจในเวลาประมาณ 2

สัปดาห์ถัดมา การตรวจพบเชื้อโควิด-19 ในเสือโคร่ง

จึงอนุมานได้ว่าติดมาจากพนักงานดูแลสัตว์ที่ทำหน้าที่ให้อาหารและทำความสะอาดกรงเลี้ยงในช่วงเวลาก่อนหน้านี้” ดร. เกวลีอธิบายถึงที่มาที่ไปของข่าว

นอกจากนี้ ดร. เกวลี

ยังได้อธิบายเพิ่มเติมถึงที่มาของข่าวการเกิดโรคโควิด-19 ในสัตว์เลี้ยง

ที่สร้างความตื่นตระหนกในเวลานี้ว่า มาจากงานเขียนที่ถูกเผยแพร่ก่อนได้รับการพิจารณารับรองตามหลักวิชาการ

(อ้างอิง 1) และงานวิจัยเรื่องการติดต่อของเชื้อไวรัสก่อโรค

SARS ในแมวและตัวเฟอเร็ท

ที่ตีพิมพ์ตั้งแต่ปี 2003 (อ้างอิง 2) ซึ่งเป็นเพียงการศึกษาในห้องทดลองเท่านั้น

“ทางสมาคมสัตวแพทย์แห่งประเทศสหรัฐอเมริกา (The American Veterinary Medical

Association) ได้ออกมาสรุปว่างานเขียนชิ้นนี้

ทำให้เกิดความสับสนและเกิดความตระหนกเกินไปในกลุ่มเสี่ยง

ซึ่งอาจนำไปสู่การปล่อยสัตว์เลี้ยงทิ้งในที่สาธารณะ

จึงให้คำแนะนำว่าหากสัตว์เลี้ยงมีอาการทางระบบทางเดินหายใจร่วมกับระบบทางเดินอาหาร

ควรปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อขอคำแนะนำในการหาสาเหตุของโรค

และยังไม่มีความจำเป็นต้องตรวจหาเชื้อในสัตว์เลี้ยงทุกตัว”

“สำหรับคนทั่วไปก็ยังคงเลี้ยงสัตว์ได้ แต่ต้อง

'ตระหนัก’ และเฝ้าระวังอย่างมีสติ การปฏิบัติตามสุขอนามัยที่ดี ได้แก่

การล้างมือบ่อย ๆ ก่อนและหลังสัมผัสสัตว์เลี้ยง เป็นสิ่งที่พึงปฏิบัติอย่างยิ่งในเวลานี้ แต่สำหรับผู้ป่วยและคนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงนั้น

นอกจากจะต้องกักตัวและหลีกเลี่ยงการใกล้ชิดคนแล้ว

ยังควรต้องอยู่ห่างไกลจากสัตว์เลี้ยงซึ่งเปรียบเสมือนสมาชิกคนหนึ่งของครอบครัว

โดยเฉพาะสัตว์ตระกูลแมว” ดร. เกวลี กล่าว

ที่มาของข้อมูล:

1. SARS-CoV-2 in animals, including pets. American Veterinary Medical

Association (AVMA), https://www.avma.org/: updated on April 5, 2020.

2. Martina et al. 2003. SARS virus infection of cats and

ferrets. Nature

425, 915.

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘:๐๒ สมศักดิ์ ชูต้นแบบ NCDs Prevention Center 12 เขตสุขภาพ และโรงเรียนรักษ์ไต ล้านนา R1 พร้อมหนุน ผู้บริหารสาธารณสุขอำเภอระดับสูง รุ่นที่ 3 สานต่อนโยบายคนไทย ห่างไกล
๑๘:๒๘ ยามาฮ่า เปิดฉาก Yamaha Thailand Music Festival 2025 เดินหน้าปลุกพลังนักดนตรีรุ่นใหม่กว่า 5,000 คน ชิงถ้วยพระราชทานฯ และเงินรางวัลรวมกว่า 1.7
๑๘:๔๒ มหาดไทย ขับเคลื่อนจัดรูปที่ดินนราธิวาส สุไหงโก-ลก พลิกโฉมเมืองชายแดน สู่การเติบโตที่ยั่งยืน
๑๘:๑๐ ร้านอาหารเวฬาภิรมย์ ณ โรงแรม วิลล่า เทวา รีสอร์ท แอนด์ โฮเทล กรุงเทพฯ เปิดประสบการณ์การรับประทานอาหารอันยอดเยี่ยม
๑๗:๑๑ สวทช. จับมือมูลนิธิ SOS และ จ.ปทุมธานี สร้างชุมชนรักษ์อาหาร ดัน ปทุมธานีฟูดแบงก์โมเดล ต้นแบบการจัดการอาหารส่วนเกินระดับท้องถิ่น
๑๘:๑๓ บัตรเครดิต ทีทีบี ส่งโปรโมชัน ช้อปซูเปอร์คุ้ม รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 1,000 บาท
๑๗:๔๗ สุขภาพดีเริ่มต้นที่การป้องกัน! ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ฟรี สำหรับผู้ประกันตนโรงพยาบาลหัวเฉียว อายุ 50 ปีขึ้นไป
๑๗:๐๐ กลุ่มบริษัทยูนิไทย ร่วมฟื้นฟูระบบนิเวศป่าชายเลน เนื่องในวันคุ้มครองโลก เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
๑๗:๔๑ ผลิตภัณฑ์ Ax Tile EcoSoft(R) จาก Royal Thai แบรนด์ในเครือ TCM Corporation ได้รับรางวัล ASA Platform Selected Materials
๑๗:๔๐ ฉลองครบรอบ 87 ปี มอบสุขภาพดีด้วย. ชุดตรวจสุขภาพและวัคซีนป้องกันโรค