ทั้งธุรกิจรายย่อยที่ดำเนินมาตรการเฝ้าระวังอย่างเข้มข้น และหน่วยงานภาครัฐที่ได้ออกนโยบายเพื่อกำหนดควบคุมสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น ส่งผลให้ฮ่องกงยังคงขับเคลื่อนต่อไปข้างหน้า ไปพร้อมกับพลเมืองในฮ่องกงที่ได้ปฏิบัติตามมาตรการต่าง ๆ และคำนึงถึงส่วนรวมในช่วงสถานการณ์ไม่ปกติเช่นนี้
ปลอดภัยด้วยเทคโนโลยีทันสมัย
ฮ่องกงมีระบบขนส่งสาธารณะที่เรียกได้ว่ามีประสิทธิภาพที่สุดแห่งหนึ่งของโลก แม้กระทั่งในสถานการณ์ปัจจุบัน รถไฟ รถประจำทาง และแท็กซี่ ต่างยกระดับมาตรการด้านการทำความสะอาดและการให้บริการให้มีความเข้มข้นยิ่งขึ้น เพื่อสร้างความอุ่นใจให้กับผู้โดยสารที่มาใช้บริการ
โดยเฉพาะบริษัทผู้ให้บริการรถไฟฟ้าใต้ดินอย่าง MTR Corporation ที่ได้เริ่มใช้เทคโนโลยีหุ่นยนต์ Vapourised Hydrogen Peroxide (VHP) ทำการฆ่าเชื้อภายในขบวนรถไฟและบริเวณโดยรอบสถานี ในส่วนพื้นที่ให้บริการต่าง ๆ ของสถานี MTR เอง เช่น ตู้ขายตั๋วอัตโนมัติ ปุ่มกดลิฟต์ และราวจับบันได ที่มีผู้คนใช้งานเป็นจำนวนมากก็ได้มีการทำความสะอาดฆ่าเชื้อด้วยน้ำยาฟอกขาวทุก ๆ 2 ชั่วโมง รวมถึงล้างและเปลี่ยนฟิลเตอร์เครื่องปรับอากาศบนรถไฟอย่างสม่ำเสมอกว่าที่ผ่านมา
สนามบินนานาชาติฮ่องกง (Hong Kong International Airport: HKIA) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งศูนย์กลางการบินที่มีผู้คนมาใช้บริการมากที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชีย ก็ใช้หุ่นยนต์ Intelligent Sterilisation Robots (ISRs) เพื่อทำการฆ่าเชื้อโรคและเชื้อไวรัสด้วยการผสานเทคโนโลยีแสงยูวี หัวฉีดสเปรย์แบบ 360 องศา และฟิลเตอร์กรองอากาศเข้าด้วยกัน เทคโนโลยีเหล่านี้ได้รับการคิดค้นขึ้นในฮ่องกง แต่เมื่อก่อนถูกใช้เพียงในโรงพยาบาลเท่านั้น สนามบินนานาชาติฮ่องกงจึงถือเป็นสนามบินแห่งแรกของโลกที่นำหุ่นยนต์ ISR มาใช้นอกพื้นที่โรงพยาบาล
เดินทางอย่างอุ่นใจ
ปัจจุบัน คนขับแท็กซี่ในฮ่องกงส่วนใหญ่จะสวมใส่หน้ากากอนามัยเพื่อสร้างความอุ่นใจและปลอดภัยแก่ผู้โดยสาร และแท็กซี่หลายคันมีเจลล้างมือติดไว้บริเวณด้านหลังเบาะที่นั่งคนขับเพื่อให้ผู้โดยสารกดใช้ได้สะดวก ยิ่งไปกว่านั้น บริษัทรถบัสสองชั้นเจ้าถิ่นอย่าง KMB ยังได้ติดตั้งเครื่องจ่ายแอลกอฮอล์ล้างมืออัตโนมัติ (Hand Sanitiser Dispenser) บนรถและตามสถานีต่าง ๆ หลายแห่ง รถบัสของ KMB เองก็มีพรมเช็ดเท้าที่พ่นน้ำยาฟอกฆ่าเชื้อที่รองเท้าของผู้โดยสารทันทีที่ผู้โดยสารก้าวขึ้นรถบัสด้วย
ตัวเลือกสร้างสรรค์ในการชมงานศิลป์
แม้งานอีเว้นท์ต่าง ๆ ที่ฮ่องกงจะถูกยกเลิก แต่บรรดาผู้จัดงานหลายรายได้เตรียมแผนสำรองเพื่อให้ผู้เข้าชมได้สัมผัสประสบการณ์เสพงานศิลป์เหมือนไปเดินร่วมงานจริง ๆ โดยไม่ต้องกลัวเรื่องการรวมกลุ่มกันของคนจำนวนมาก
นิทรรศการศิลปะระดับโลกอย่าง งานอาร์ตบาเซิลฮ่องกง 2020 ได้ปรับโฉมรูปแบบการจัดงาน จากอีเว้นท์ในศูนย์การประชุมสู่ “ห้องชมงานศิลป์ออนไลน์” หรือ Online Viewing Rooms พร้อมขนทัพผลงานศิลปะกว่า 2,000 ชิ้นจาก 235 แกลอรี่ทั่วโลกมาให้ยลกันแบบจุใจ ซึ่งงานนี้ได้รับกระแสตอบรับอย่างงดงามด้วยจำนวนผู้ชมออนไลน์รวมทั้งสิ้นกว่า 250,000 คน ด้านงานอาร์ตเซ็นทรัล อีกหนึ่งเทศกาลศิลปะชื่อดังของฮ่องกง ก็ไม่ยอมน้อยหน้า กวาดยอดขายออนไลน์จากเว็บไซต์ของงาน ให้ผู้เข้าชมได้เลือกสรรชิ้นงานศิลปะที่อยากชมจากกว่า 500 ผลงานได้ง่าย ๆ ตามลิสต์ชื่อศิลปิน ผู้จัดงาน ขนาด ราคา และประเภทสื่อศิลปะ รวมถึงอีกหลากหลายนิทรรศการศิลปะ อาทิ K11 Art Foundation Sotheby’s Hong Kong และ M+ Collections Beta ที่ขอเอาใจบรรดาคนรักงานอาร์ตบนแพลตฟอร์มออนไลน์ พร้อมสร้างแรงบันดาลใจขับเคลื่อนแวดวงศิลปะให้เติบโต
เยียวยาหัวใจอย่างมีศิลปะ
Asia Society Hong Kong ประกาศจับมือกับ The Hong Kong Art Gallery Association จัดงานนิทรรศการ Sculpture Exhibition หนึ่งเดือนเต็ม ชูโรงด้วยผลงานศิลปะจากทั้งแกลอรี่ฮ่องกงและทั่วโลก พ่วงโปรแกรมเสวนาศิลปะ 1 วันที่จะไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊คของงาน ส่วนคอมมูนิตี้แพลตฟอร์มเจ้าถิ่นที่เพิ่งเปิดตัวปีนี้อย่าง ART Power HK ได้เติมช่องว่างที่ขาดหายของงานเทศกาลศิลปะประจำปีอันเป็นผลพวงจากการระบาดของโรคโควิด-19 ด้วยการร่วมกับหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง จัดอีเว้นท์และงานเสวนากระตุกต่อมคิดและไอเดียสร้างสรรค์แบบออนไลน์ (ตามไปชมกันได้ Artpoewerhk.com)
ขณะที่ศิลปินที่ยังคงความขี้เล่นสนุกสนานไว้ในไลฟ์สไตล์แบรนด์ท้องถิ่น G.O.D. (Goods of Desire) อย่างเหนียวแน่น Douglas Young ย้ำเตือนสังคมฮ่องกงให้มองโลกในแง่บวกเข้าไว้ แม้ในยามสถานการณ์โควิด-19 ระบาด ด้วยการออกไลน์หน้ากากผ้าสีสันสดใสพร้อมลวดลายที่สะดุดตาไม่เหมือนใคร โดยกล่าวว่า “มันเป็นแค่หน้ากากแฟชั่น แต่ผมอยากเติมอารมณ์ขันลงไปในนั้นด้วยเพื่อให้คนรู้สึกคลายเครียดในช่วงเวลาแบบนี้ ผมจะออกแบบให้มันใช้งานได้หลากหลายกว่านี้และดีไซน์เจ๋งกว่านี้เพราะอยากให้ผู้คนมองโลกในแง่ดีอยู่เสมอ”
หน้ากากผ้าที่สามารถซักและนำมาใช้ซ้ำได้นี้ ได้รับแรงบันดาลใจจากวัฒนธรรมที่สดใสมีชีวิตชีวาของฮ่องกงและผลิตขึ้นที่โรงงานเวิร์คช็อปของแบรนด์ G.O.D. ซึ่งไม่เพียงช่วยแก้ปัญหาเรื่องหน้ากากขาดแคลนทั่วโลก แต่ยังช่วยให้ช่างฝีมือของแบรนด์ได้มีงานทำต่อไป หน้ากากนี้นับเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่ดีต่อสิ่งแวดล้อม สามารถนำมาใช้ได้ทุกวัน และออกแบบให้มีกระเป๋าเล็ก ๆ ไว้ใส่ฟิลเตอร์กรองอากาศด้วย
ความรู้คือพลัง
ในส่วนของการดูแลป้องกันสุขภาพ ศูนย์ป้องกันโรคของฮ่องกงได้จัดทำรายงานติดตามเคสผู้ติดเชื้อในฮ่องกงบนเว็บไซต์ของศูนย์ฯ chp-dashboard.geodata.gov.hk/covid-19/en.html อย่างละเอียดและครอบคลุม เพื่อให้คนที่อยู่ในพื้นที่ได้รับทราบข้อมูลข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับสถานการณ์โควิด-19 ทั่วเมือง
พร้อมก้าวผ่านไปด้วยกัน
ด้วยหลากหลายกลยุทธ์ที่ทันสมัยและแนวทางมาตรการเชิงรุก ฮ่องกงจึงสามารถเดินหน้าต่อไปอย่างช้า ๆ ทว่ามั่นคงและสร้างผลกระทบน้อยที่สุดท่ามกลางสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 แม้อนาคตข้างหน้าจะยังไม่แน่นอน แต่สิ่งที่สำคัญกว่าก็คือ การที่คนฮ่องกงได้แสดงให้เห็นถึงพลังการสร้างสรรค์และพลังชุมชนในการร่วมแรงร่วมใจเพื่อผ่านพ้นช่วงเวลาแห่งความยากลำบากไปด้วยกัน
