ไตรมาสแรกกรุงไทยมีกำไรสุทธิ 6,082 ล้านบาท

พุธ ๒๒ เมษายน ๒๐๒๐ ๑๖:๒๓
ไตรมาสที่ 1/2563 ธนาคารกรุงไทยมีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของธนาคาร 6,082 ล้านบาท สาเหตุหลักจากการเติบโตของสินเชื่อ การบริหารจัดการต้นทุนทางการเงิน และการควบคุมค่าใช้จ่ายที่ดี ซึ่งมีผลให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ (cost to income ratio) ลดลง ในขณะที่มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย เพื่อช่วยเหลือลูกค้าสินเชื่อที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 และการตั้งสำรองเพิ่มขึ้น โดยพิจารณาถึงปัจจัยต่างๆ อย่างรอบคอบ เพื่อรองรับความไม่แน่นอนของภาวะเศรษฐกิจ
ไตรมาสแรกกรุงไทยมีกำไรสุทธิ 6,082 ล้านบาท

นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย เปิดเผย ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2563 ธนาคารมีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของธนาคาร (งบการเงินก่อนสอบทาน) เท่ากับ 6,082 ล้านบาท ลดลง 16.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีสาเหตุหลักมาจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่ลดลง แม้ว่าสินเชื่อเติบโต 1.9% จากสิ้นปี หรือ 4.7% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนและมีการบริหารจัดการต้นทุนทางการเงินที่ดี ประกอบกับการได้รับประโยชน์จากการปรับลดเงินสมทบกองทุนฟื้นฟู ซึ่งช่วยลดผลกระทบจากการปรับลด อัตราดอกเบี้ยนโยบายถึง 4 ครั้ง และอัตราดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อทั้ง MLR MOR และ MRR เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับลูกค้าจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ประกอบกับการที่ไม่มีรายได้ดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อจากการได้รับเงินบางส่วนในการขายทอดตลาดทรัพย์สินหลักประกันจำนองจำนวน 3,899 ล้านบาทในไตรมาส 1 ของปีที่ผ่านมา โดย NIM อยู่ที่ระดับ 3.17%

ทั้งนี้ ธนาคารมีค่าใช้จ่ายลดลง 16.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีค่าใช้จ่ายจากการขาดทุนของการด้อยค่าของทรัพย์สินรอการขาย ส่งผลให้ธนาคารมี Cost to Income ratio ที่ 44.2% ลดลงจาก 48.2% ในช่วงเดียวกันของปี 2562

ในไตรมาสนี้ ถึงแม้สินเชื่อด้อยคุณภาพต่อสินเชื่อรวม (NPLs Ratio- Gross) เท่ากับ 4.36% อยู่ในระดับใกล้เคียงกับสิ้นปี 2562 อย่างไรก็ตาม ธนาคารพิจารณาถึงปัจจัยต่างๆ อย่างรอบคอบ ในการประมาณการถึงภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงและมีความไม่แน่นอน ที่อาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพสินเชื่อ จึงได้ตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจำนวน 8,524 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีอัตราส่วน Coverage Ratio ณ 31 มีนาคม 2563 ที่ 126.5% นอกจากนี้ ฐานะทางการเงินของธนาคารยังคงแข็งแกร่ง โดยมีอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 และอัตราส่วนเงินกองทุนทั้งสิ้นต่อสินทรัพย์ถ่วงน้ำหนักตามความเสี่ยง (งบการเงินเฉพาะธนาคาร) เท่ากับ 14.39% และ 18.16% ตามลำดับ

นายผยง ศรีวณิช กล่าวเพิ่มเติมว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่องไปทั่วโลกของ COVID-19 ตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา ส่งผลกระทบในวงกว้างต่อการดำเนินธุรกิจและทำให้เศรษฐกิจไทยชะลอตัวลง รัฐบาล กระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย ได้มีมาตรการช่วยเหลือภาคธุรกิจและประชาชนในทุกภาคส่วนที่ได้รับผลกระทบอย่างเร่งด่วน โดยธนาคารได้ตระหนักถึงภารกิจสำคัญในการช่วยพยุงเศรษฐกิจของประเทศ และเป็นกลไกของภาครัฐ โดยได้ออกหลากหลายมาตรการในการช่วยเหลือลูกค้าทุกกลุ่มที่ได้รับผลกระทบอย่างทั่วถึง ทั้งการลดอัตราดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อ การให้สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำเพื่อเพิ่มสภาพคล่อง การพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยนาน 6 เดือน และดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิดเพื่อให้ลูกค้าสามารถผ่านพ้นวิกฤติในครั้งนี้

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๕:๑๙ โชเฮ โอตานิ เซ็นสัญญาความร่วมมือระดับโลกกับ โออิ โอฉะ แบรนด์ชาเขียวจากอิโต เอ็น
๑๔:๔๐ แสนสิริเปิดตัวแบรนด์ใหม่ ELSE (เอลซ์) เจาะกลุ่มลูกค้าใหม่ เอ็กซ์คลูซีฟ เรสซิเดนซ์ จำนวนยูนิตน้อย Private สูง บน 5 ทำเลศักยภาพหายาก มูลค่ารวม 835
๑๔:๕๓ ผู้บริหารบางจากฯ แบ่งปันประสบการณ์เส้นทางการดำเนินธุรกิจตามแนวทาง BCG
๑๓:๓๑ เอส เอฟ และ พรีเมี่ยมโกลด์ เยาวราช แจกจริง Big Bonus ตั๋วหนังทองคำ ครั้งแรกในไทย
๑๓:๕๔ TOA แถลงนโยบาย GREEN MISSION เดินหน้าพันธกิจ พิชิต Net Zero พร้อมคว้าฉลากลดโลกร้อน (CFR) มากที่สุดในสีอาคาร
๑๓:๔๓ โซเด็กซ์โซ่ ประเทศไทย มอบรางวัล Sodexo Long Service Awards เพื่อแสดงความยินดีและขอบคุณพนักงานที่ทุ่มเททำงานมาอย่างยาวนาน
๑๓:๒๓ พด. ส่งเสริมพัฒนาที่ดินในพื้นที่เกษตรแปลงใหญ่ ลดต้นทุน เพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตร
๑๓:๕๘ บสส. SAM ขนอสังหาริมทรัพย์ทำเลดี ราคาพิเศษทั่วชลบุรีและภาคตะวันออก จัดงาน มหกรรมทรัพย์มือสองต้อง SAM วันที่ 1-30 พ.ค. 67 นี้ ณ เซ็นทรัล
๑๓:๒๐ เตรียมพบกับงานอสังหาฯ มือสองที่ครบที่สุด รวมดีลดี โปรแรง!! กับงานมหกรรมบ้านธนาคาร 67 ครั้งที่ 1 จ.ภูเก็ต
๑๓:๕๓ กรมพัฒน์ ส่งมอบความสุขวันแรงงาน จัด 3 หลักสูตรดิจิทัลแบบออนไลน์ Upskill แรงงานไทย สมัครฟรี 1 เดือนเต็ม