“สอวช. ร่วมกับ มูลนิธิสถาบันอนาคตไทยศึกษา ฉายภาพประเทศไทย 4 หลังเผชิญวิกฤตการณ์โควิด"

จันทร์ ๒๗ เมษายน ๒๐๒๐ ๐๙:๔๕
สอวช. ร่วมกับ มูลนิธิสถาบันอนาคตไทยศึกษา ฉายภาพประเทศไทย 4 ระยะหลังเผชิญวิกฤตการณ์โควิด 19 พร้อมร่างประเด็นเชิงยุทธศาสตร์เพื่อขับเคลื่อนประเทศหลังสถานการณ์คลี่คลาย

กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดย สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา

วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) ร่วมกับ มูลนิธิสถาบันอนาคตไทยศึกษา

จัดทำข้อมูลภาพประเทศไทย 4 ระยะภายหลังโควิด 19

พร้อมเสนอร่างประเด็นเชิงยุทธศาสตร์เพื่อขับเคลื่อนประเทศหลังสถานการณ์คลี่คลาย

สอวช. ร่วมกับ มูลนิธิสถาบันอนาคตไทยศึกษา

จัดทำข้อมูลภาพประเทศไทย 4 ระยะภายหลังโควิด 19 โดยแบ่งออกเป็น ระยะที่ 1 หรือ Restriction (เดือนที่ 1-6)

ระยะพยายามควบคุมการแพร่ระบาดของโลก ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยอยู่ในระยะนี้

และกำลังจะเข้าสู่ระยะที่ 2 หรือ Reopening (เดือนที่ 7-12) ระยะผ่อนคลายการควบคุมและเริ่มกลับสู่การประกอบกิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคม

ระยะที่ 3 หรือ Recovery (เดือนที่ 13-18) ระยะการฟื้นตัวและปรับตัวภายหลังจากสถานการณ์คลี่คลาย

และระยะที่ 4 หรือ Restructuring (เดือนที่

19-อนาคต 5 ปีข้างหน้า)

ดร. กิติพงค์ พร้อมวงค์ ผู้อำนวยการ สอวช. เปิดเผยว่า จากการหารือกับผู้ทรงคุณวุฒิทุกสัปดาห์เพื่อเตรียมความพร้อมในการฟื้นฟูประเทศหลังวิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของโควิด

19 สอวช.

และมูลนิธิสถาบันอนาคตไทยศึกษา จึงได้รวบรวมข้อมูลและข้อเสนอแนะต่าง ๆ เพื่อร่างประเด็นเชิงยุทธศาสตร์เพื่อสร้างความเข้มแข็งอย่างยั่งยืนให้กับประเทศในการฟื้นฟูและรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต

ซึ่งประกอบด้วย 5 ยุทธศาสตร์ คือ 1. Put

Human Security First: ปรับเปลี่ยนจาก “เศรษฐกิจ” เป็นตัวตั้งไปสู่

“ความมั่นคงมนุษย์” เป็นตัวตั้ง ผ่านการสร้างความมั่นคง 4 ด้าน

คือ ความมั่นคงทางด้านอาหาร รับประกันการเข้าถึงอาหารที่เพียงพอ

กระจายอย่างทั่วถึง และราคาที่เหมาะสมตั้งแต่ระดับครัวเรือนชุมชนถึงระดับประเทศ

ความมั่นคงทางสุขภาพ

ยกระดับและเพิ่มศักยภาพของระบบสาธารณสุขและอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้มีอย่างเพียงพอ

พร้อมทั้งส่งเสริมทักษะสุขภาพให้กับประชาชน ความมั่นคงทางพลังงาน

จัดหาพลังงานให้มีอย่างเพียงพอ มุ่งเพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนที่ยั่งยืน

และเพิ่มประสิทธิภาพการบริโภคพลังงาน และความมั่นคงทางอาชีพ

เสริมสร้างทักษะให้คนวัยทำงาน ลงทุนสร้างตำแหน่งงานใหม่รองรับอนาคต

และออกแบบระบบตาข่ายทางสังคมใหม่ให้รองรับแรงงานอิสระและนอกระบบ 2. Moving Beyond GDP: ปรับเปลี่ยนจากมุ่งเน้นการเติบโตของ

“GDP” ไปสู่ “Balanced Growth”กล่าวคือ

สร้างและพัฒนาชุดตัวชี้วัดใหม่ให้กับประเทศที่คำนึงถึงการเติบโตอย่างสมดุลและยั่งยืน

เช่น SDGs ตลอดจนผลักดัน การขับเคลื่อนนโยบาย BCG

Economy (Bio-Circular-Green

Economy)

พัฒนาระบบนิเวศเพื่อเข้าสู่การค้าทางดิจิทัลและสังคมไร้เงินสด

ในด้านอุตสาหกรรมมุ่งเน้นเรื่อง High Value, High Production, Job Creation

และ Smart & Appropriate Technology มุ่งเน้นสร้างความเข้มแข็งให้เศรษฐกิจท้องถิ่น

และพัฒนาเครื่องยนต์ที่จะมาใช้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจอนาคต 3. Reinventing

in Education and Human Capital : ยกระดับคุณภาพการศึกษาและทุนมนุษย์

โดยการเพิ่มคุณภาพการศึกษา กระจายทั่วถึง ปรับโมเดลการเรียนรู้รองรับอนาคต

สร้างความเข้มแข็งให้มหาวิทยาลัย การเรียนการสอนผสมออนไลน์ ออฟไลน์และฝึกงาน

การวิจัยและพัฒนา และการพัฒนาปัญญาให้ประเทศและชุมชน มุ่งให้เกิดการลงทุน Reskill,

Upskill วัยทำงานให้ตอบโจทย์อนาคต

รวมถึงขับเคลื่อนการเรียนรู้ตลอดชีวิต 4. Leaving No

One Behind : แก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำทุกมิติ ทั้งเรื่องการแก้ไขความยากจนรายบุคคล

สร้างศักยภาพให้คนยากจน เปลี่ยนคนด้อยโอกาสเป็นคนได้โอกาส

ปรับระบบสวัสดิการใหม่ให้ครอบคลุม ใช้ Big Data ปรับใช้ UBI

(Universal Basic Income) และ Targeting

Welfare ตามความเหมาะสม โดยบัตรประชาชนใบเดียวควรตรวจสอบได้ทุกสิทธิ

ตลอดจนมีการพัฒนาระบบช่วยเหลือประชาชนในสถานการณ์ฉุกเฉิน และ 5. Create Open & Resilient Society : สร้างสังคมเปิดและยืดหยุ่นต่อการเปลี่ยนแปลง

ผ่านการมีระบบข้อมูลเปิดและรัฐบาลที่โปร่งใส

เปิดโอกาสให้ใช้พลังภูมิปัญญาทั้งสังคมพัฒนาชาติผ่าน Open Collaboration

Platform สร้างความเข้มแข็งให้ PPP รวมถึง Social

enterprise, Civil Society, จิตอาสา

รวมถึงเตรียมระบบบริหารจัดการวิกฤตที่มีประสิทธิภาพ

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘:๓๓ COM7 เดินหน้าเต็มสปีด EV7 ส่งมอบแท็กซี่ไฟฟ้าล็อตแรก ดันเมกะเทรนด์ EV สู่หัวใจเมือง
๑๘:๓๖ GCAP ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ไฟเขียวผ่านฉลุยทุกวาระ พร้อมเดินหน้าแผนธุรกิจขยายสู่กลยุทธ์ Non Lending
๑๘:๔๔ PYLON จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผู้ถือหุ้นไฟเขียวจ่ายปันผล 0.04 บาท/หุ้น
๑๘:๓๙ LDC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 มุ่งเป็นคลินิกทันตกรรมพรีเมียม ในราคาที่เข้าถึงง่าย
๑๘:๑๒ ผู้ถือหุ้น TATG ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.07 บาท/หุ้น ลงทุนเครื่องจักรใหม่เสริมแกร่งสายการผลิต พิชิตเป้ารายได้ 3,000
๑๘:๕๗ ADVICE จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นรูปแบบ Hybrid ประจำปี 2568 ผถห.ไฟเขียวทุกวาระ เคาะแจกปันผล 0.175 บ./หุ้น
๑๘:๓๖ LE ร่วมงานสถาปนิก'68 โชว์นวัตกรรมแสงสว่างอัจฉริยะ เสริมภาพผู้นำ Lighting Solutions Provider
๑๘:๔๖ SELIC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ปี 2568 ผู้ถือหุ้นเห็นชอบทุกวาระ อนุมัติจ่ายปันผล 0.038 บาท/หุ้น เดินหน้า 3 ธุรกิจ
๑๘:๔๙ STA เปิดบ้านต้อนรับภาครัฐ โชว์มาตรฐานรับซื้อยางโปร่งใส เป็นธรรม หนุนรัฐต้านยางเถื่อน
๑๘:๓๕ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จับมือเอกชน ปั้นช่างเชื่อมโกอินเตอร์ รายได้ทะลุ 70,000 บาทต่อเดือน