ในครั้งนี้ คราฟ ไฮนซ์ ได้บริจาคซอสหอยนางรมไฮนซ์และซอสมะเขือเทศไฮนซ์จำนวนกว่า 30,000 ขวด พร้อมด้วยแพ็คอาหารที่ประกอบไปด้วยสิ่งจำเป็น เช่น ข้าวสาร น้ำมัน เกลือ และน้ำตาลแก่ผู้ที่ต้องการ โดยทางสภากาชาดไทยจะนำไปแจกจ่ายให้แก่แม่และแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน โดยจะดำเนินการแจกจ่ายในบริเวณกรุงเทพฯ ปริมณฑล และจังหวัดใกล้เคียง
มร. โจอาว เลเตา กรรมการผู้จัดการ หน่วยธุรกิจอาเซียน อินเดีย ฮ่องกง และเอแพค เอ็กซ์ปอร์ตส บริษัท ไฮนซ์ ไทยแลนด์ ลิมิเต็ด กล่าวว่า “ในขณะที่เราต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 อยู่นั้น เราทราบดีว่ามีคนกลุ่มนี้กำลังต่อสู้อย่างหนักทุก ๆ วัน เพราะพวกเขาไม่เพียงแต่ทำงานหาเงินมาเลี้ยงครอบครัว แต่ยังต้องเลี้ยงดูลูก ๆ ของพวกเขาไปพร้อม ๆ กัน ซึ่งทำให้มีความยากลำบากขึ้นไปอีก ด้วยเหตุนี้ เราจึงตัดสินใจที่จะร่วมมือกับสภากาชาดไทย เนื่องจากเราเชื่อว่าโครงการนี้เป็นโครงการที่มีความหมายและสามารถทำให้เราเข้าไปช่วยเหลือแม่และแม่เลี้ยงเดี่ยวในชุมชนของเรา ซึ่งเราถือเป็นภารกิจเพื่อสังคมของเราในฐานะที่เราเป็นบริษัทด้านอาหารที่คอยส่งมอบอาหารให้แก่ทุกบ้านเสมอ”
นายขรรค์ ประจวบเหมาะ ผู้อำนวยการสำนักงานจัดหารายได้ สภากาชาดไทย กล่าวว่า “เรารู้สึกซาบซึ้งในน้ำใจของ บริษัท ไฮนซ์ ไทยแลนด์ ลิมิเต็ด เป็นอย่างยิ่ง เพราะอาหารจะถือว่ามีความสำคัญมากยิ่งขึ้นไปอีกในช่วงเวลาวิกฤตที่ไม่คาดคิดเช่นนี้ ด้วยโรคระบาดที่เกิดขึ้น การที่เราแจกจ่ายชุดธารน้ำใจ ฝ่าวิกฤต COVID-19 ให้แก่แม่และเด็กในกลุ่มเปราะบางเหล่านี้จะมีประโยชน์ต่อพวกเขาอย่างแน่นอน”
การบริจาคนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของพันธกิจระดับโลกของคราฟ ไฮนซ์ ที่ตั้งมั่นว่าจะบริจาคเงินจำนวน 12 ล้านเหรียญสหรัฐ ในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก เพื่อที่จะทำให้มั่นใจว่าประชาชนจะได้รับอาหารตามที่พวกเขาต้องการในช่วงเวลาที่ท้าทายเช่นนี้ นอกจากนั้น คราฟ ไฮนซ์ ยังร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ด้านอาหารที่มีความหลากหลายในประเทศต่าง ๆ จากทั่วทุกมุมโลก ซึ่งรวมถึงประเทศสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร เนเธอร์แลนด์ ฝรั่งเศส อิตาลี สเปน รัสเซีย โปแลนด์ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ บราซิล คอสตาริกา และเอเชีย
