เอฟดับบลิวดี จับมือโรงพยาบาล 55 แห่ง ให้บริการ Telemedicine สำหรับลูกค้าป่วยด้วยโรคเรื้อรัง โดยกรมธรรม์ครอบคลุมค่ายา และค่าจัดส่งยาถึงบ้าน

พุธ ๑๓ พฤษภาคม ๒๐๒๐ ๑๔:๐๓
นายอภิรักษ์ จิตรานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานเทคโนโลยีและปฎิบัติการ บริษัท เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19) ส่งผลให้ลูกค้าที่เป็นผู้ป่วยไม่สะดวกในการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล บริษัทฯจึงได้ร่วมกับโรงพยาบาลชั้นนำ จำนวน 55 แห่งทั่วประเทศ ในการเพิ่มบริการ Telemedicine สำหรับลูกค้าเอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต โดยเป็นผู้ป่วยที่ต้องรับการรักษาอย่างต่อเนื่องจากการเป็นผู้ป่วยใน หรือผู้ป่วยที่มีโรคเรื้อรัง โรคประจำตัว ที่จำเป็นต้องติดตามการรักษา และจะต้องได้รับยาอย่างต่อเนื่อง เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคมะเร็ง โรคทางสมอง หรือโรคไทรอยด์ เป็นต้นทั้งนี้ผู้ป่วยรายนั้นจะต้องมีเอกสารการนัดติดตามการรักษาจากแพทย์และเคยได้รับการอนุมัติสินไหมค่ารักษาพยาบาลของโรคดังกล่าวจากบริษัทมาก่อนแล้ว

สำหรับการให้บริการ Telemedicine นี้ เป็นการบริการให้คำปรึกษาจากแพทย์ทางออนไลน์ และการจัดส่งยาถึงบ้านลูกค้า โดยครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลตามวงเงินค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอก (OPD) ของลูกค้า ได้แก่ ค่ายาและเวชภัณฑ์ (ตามเงื่อนไขกรมธรรม์) ค่าตรวจทางห้องปฏิบัติการ เฉพาะการตรวจเลือดเพื่อดูปริมาณน้ำตาล การทำงานของไต, ตับ, ตับอ่อน และหัวใจ ค่าแพทย์ รวมทั้งค่าจัดส่งยาถึงบ้าน ทั้งนี้โรงพยาบาลที่ให้บริการ Telemedicine แก่ลูกค้าเอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต เป็นโรงพยาบาลชั้นนำทั่วประเทศ เช่น เครือโรงพยาบาลกรุงเทพ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ เครือโรงพยาบาลพญาไท เครือโรงพยาบาลสมิติเวช เครือโรงพยาบาลบางปะกอก เครือโรงพยาบาลเปาโล เครือโรงพยาบาลจุฬารัตน์ เครือโรงพยาบาลมหาชัย โรงพยาบาลตรังรวมแพทย์ โรงพยาบาลศรีสวรรค์ เป็นต้น โดยให้บริการ Telemedicine ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม - 30 มิถุนายน 2563 นี้

นายอภิรักษ์ กล่าววว่า “บริษัทฯตระหนักถึงความปลอดภัยของลูกค้าเป็นหลัก เราจึงได้ร่วมกับโรงพยาบาลชั้นนำทั่วประเทศในการเพิ่มบริการ Telemedicine เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าของเรา ว่าเขาจะได้รับการดูแลรักษาอย่างต่อเนื่อง แม้เราจะอยู่ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 นี้ ”

ทั้งนี้หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อ ศูนย์บริการลูกค้า เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต ได้ที่ 1351 หรือตรวจเช็ครายชื่อโรงพยาบาลที่เข้าร่วมได้ที่ www.fwd.co.th

เกี่ยวกับบริษัทเอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)

บริษัท เอฟดับบลิวดีประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทประกันชีวิตชั้นนำของไทยที่ให้ความคุ้มครองชีวิตและบริการวางแผนทางการเงิน โดยให้ความสำคัญในการสร้างประสบการณ์ที่แปลกใหม่ให้ลูกค้าด้วยผลิตภัณฑ์ที่เข้าใจง่าย และให้บริการผ่านเทคโนโลยีดิจิตอลที่ยึดถือลูกค้าเป็นศูนย์กลาง โดยมุ่งหวังที่จะเป็นบริษัทประกันชีวิตชั้นนำในเอเชียที่เปลี่ยนมุมมองที่ผู้คนมีต่อการประกันชีวิต

เอฟดับบลิวดีก่อตั้งในประเทศไทยเมื่อปีพ.ศ.2556 โดยเป็นบริษัทในเครือของกลุ่มลงทุนแปซิฟิค เซ็นจูรี่ กรุ๊ป ที่ให้บริการคลอบคลุมในประเทศฮ่องกงและมาเก๊า ไทย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ เวียดนาม ญี่ปุ่น และมาเลเซีย โดยให้บริการประกันชีวิต ประกันสุขภาพ ประกันวินาศภัย ผลิตภัณฑ์สวัสดิการพนักงาน ผลิตภัณฑ์ที่สอดคล้องกับหลักศาสนาอิสลามหรือชารีอะห์ และกรมธรรม์ตะกาฟุล ในหลายประเทศ

ดูข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ www.fwd.co.th หรือ www.facebook.com/FWD Thailand

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘:๓๓ COM7 เดินหน้าเต็มสปีด EV7 ส่งมอบแท็กซี่ไฟฟ้าล็อตแรก ดันเมกะเทรนด์ EV สู่หัวใจเมือง
๑๘:๓๖ GCAP ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ไฟเขียวผ่านฉลุยทุกวาระ พร้อมเดินหน้าแผนธุรกิจขยายสู่กลยุทธ์ Non Lending
๑๘:๔๔ PYLON จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผู้ถือหุ้นไฟเขียวจ่ายปันผล 0.04 บาท/หุ้น
๑๘:๓๙ LDC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 มุ่งเป็นคลินิกทันตกรรมพรีเมียม ในราคาที่เข้าถึงง่าย
๑๘:๑๒ ผู้ถือหุ้น TATG ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.07 บาท/หุ้น ลงทุนเครื่องจักรใหม่เสริมแกร่งสายการผลิต พิชิตเป้ารายได้ 3,000
๑๘:๕๗ ADVICE จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นรูปแบบ Hybrid ประจำปี 2568 ผถห.ไฟเขียวทุกวาระ เคาะแจกปันผล 0.175 บ./หุ้น
๑๘:๓๖ LE ร่วมงานสถาปนิก'68 โชว์นวัตกรรมแสงสว่างอัจฉริยะ เสริมภาพผู้นำ Lighting Solutions Provider
๑๘:๔๖ SELIC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ปี 2568 ผู้ถือหุ้นเห็นชอบทุกวาระ อนุมัติจ่ายปันผล 0.038 บาท/หุ้น เดินหน้า 3 ธุรกิจ
๑๘:๔๙ STA เปิดบ้านต้อนรับภาครัฐ โชว์มาตรฐานรับซื้อยางโปร่งใส เป็นธรรม หนุนรัฐต้านยางเถื่อน
๑๘:๓๕ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จับมือเอกชน ปั้นช่างเชื่อมโกอินเตอร์ รายได้ทะลุ 70,000 บาทต่อเดือน