นายเสริมคุณ คุณาวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีเอ็มโอ จำกัด (มหาชน) หรือ CMO ผู้นำธุรกิจสื่อสารการตลาดแบบครบวงจรแห่งอาเซียน ครอบคลุมธุรกิจด้านอีเว้นท์,ด้านเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ และธุรกิจไลฟ์สไตล์ เปิดเผยว่า วิกฤติโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจและการใช้ชีวิตประจำวัน หลังจากนี้พฤติกรรมของคนจะเปลี่ยนไป ทำให้บริษัทฯ คิดพัฒนาธุรกิจเปิดตัว “PM Live Studio” สตูดิโอสตรีมมิ่งครบวงจร ทั้งระบบภาพแสงเสียง ตลอดจนระบบการถ่ายทอดสดออนไลน์ เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ในการจัดงานอีเว้นท์, งานประชุมออนไลน์, งานสัมมนา และปาร์ตี้คอนเสิร์ต โดยทุกคนสามารถเข้าร่วมงานจากที่บ้านได้ ตอบโจทย์กับสถานการณ์ปัจจุบันได้เป็นอย่างดี
“วิกฤติโควิด-19 ทำให้ธุรกิจบันเทิง รวมไปถึงกลุ่มงานคอนเสิร์ต ได้รับผลกระทับหนักในฐานะที่กลุ่มบริษัทฯ เรามี บริษัท พีเอ็ม เซ็นเตอร์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้นำด้านระบบภาพแสงเสียงชั้นนำของประเทศ ซัพพลายอุปกรณ์ในงานคอนเสิร์ตทั้งไทยและคอนเสิร์ตต่างประเทศมามากมาย รวมถึงเป็นพันธมิตรที่ดีกับค่ายเพลงต่างๆ บวกกับเรามีสตูดิโอของเราเองรองรับการจัดงานให้กับลูกค้า ทำให้มองเห็นไอเดียที่จะเข้ามาช่วยธุรกิจบันเทิง จึงเปิดสตูดิโอสตรีมมิ่งครบวงจรขึ้น ซึ่งรองรับการจัดงานรูปแบบออนไลน์ได้หลายประเภท อาทิเช่น งานแสดงคอนเสิร์ต, การแสดงสดของวงดนตรี, งานสัมมนาดีลเลอร์ งานแถลงข่าวออนไลน์ และงานเปิดตัวสินค้า เป็นต้น ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทเรามีความพร้อมทั้งด้านการจัดงาน มีความสะดวกสบายในเรื่องของสถานที่ มีทีมเชี่ยวชาญด้านอุปกรณ์ภาพแสงเสียง และยังมีทีม Varp Event by CM Digital ที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องให้บริการ Digital Solutions และ Data Management นำเทคโนโลยีดิจิทัล มาช่วยสร้างมิติใหม่ในการจัดงานอีเว้นท์ทุกประเภทอยู่แล้ว ซึ่งจะช่วยทำให้การจัดงานผ่านเทคโนโลยีออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น” นายเสริมคุณ กล่าว
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CMO กล่าวอีกว่า ในอนาคตการจัดงานอีเว้นท์ออนไลน์ จะได้รับความนิยมมากขึ้น ในทุกอุตสาหกรรม เนื่องจากหลายๆ คน เริ่มปรับตัวและใช้ชีวิตแบบมีระยะห่างกันได้แล้ว โดยปัจจุบันในช่วงที่ผ่านมาตั้งแต่เดือนมีนาคม บริษัทฯ จัดงานประเภทอีเว้นท์ออนไลน์ไปแล้วกว่า 10 งาน และยังอยู่ระหว่างพัฒนางานให้ลูกอีกเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ ในส่วนของผลประกอบการไตรมาสแรกของปี 2563 (มกราคม-มีนาคม 2563) บริษัทฯ มีรายได้รวม 164.15 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 37.40 ล้านบาท เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังมีงานที่มีความต่อเนื่องในช่วงไตรมาส 3-4 รวมมูลค่ากว่า 650 ล้านบาท แต่ทั้งนี้ ก็ต้องขึ้นกับภาพรวมของเศรษฐกิจด้วย ซึ่งคงต้องใช้เวลาในการฟื้นฟู ทำให้บริษัทฯ ปรับเป้ารายได้ปีนี้ลดลง อยู่ที่ประมาณ 1,000 ล้านบาท
