ล้างสูตรสำเร็จเดิม เสริมทัพสินค้าหลังคา ทรานสฟอร์มสู่ SCG Roof Renovation

พฤหัส ๒๘ พฤษภาคม ๒๐๒๐ ๑๓:๒๓
เมื่อสูตรสำเร็จการทำธุรกิจแบบเดิม ไม่อาจการันตีการคว้าชัยให้กับผลิตภัณฑ์ใด ๆ ได้ ในยุคที่โลกและตลาดเปลี่ยนไป เช่นเดียวกับธุรกิจหลังคา ในเครือเอสซีจี ที่ต้องเร่งพลิกโฉม เพื่อฝ่าความท้าทายไปคว้าโอกาสใหม่ในน่านน้ำ “สีคราม”
ล้างสูตรสำเร็จเดิม เสริมทัพสินค้าหลังคา ทรานสฟอร์มสู่ SCG Roof Renovation

คุณฎายิน เกียรติกวานกุล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด กลุ่มธุรกิจหลังคา ในธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เอสซีจี เผยถึงการพลิกเกมรบครั้งสำคัญตั้งแต่ 2 ปีที่ผ่านมา เพื่อหาอนาคตใหม่ให้กับธุรกิจหลังคาว่า ขณะที่ตลาดการสร้างบ้านใหม่ลดลงต่อเนื่อง แต่ตลาดการปรับปรุงบ้านเก่ามีจำนวนสูง กว่า 23.4 ล้านหลังคาเรือน จึงเป็นสัญญาณที่ทำให้ธุรกิจต้องปรับตัว เพราะเมื่อตลาดและความต้องการของลูกค้าเปลี่ยนไป การขายเพียงหลังคาแบบเดิมจึงไม่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคอีกต่อไป

“จากการที่ประเทศไทยเริ่มเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย ประกอบกับสภาพเศรษฐกิจโดยรวม จึงมีบ้านใหม่สร้างน้อยลง หากคิดและทำเช่นเดิมธุรกิจอาจจะไม่เติบโต จึงต้องหาโอกาสใหม่ ๆ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคให้ดียิ่งขึ้น”

จับ Pain Point เป็นโอกาส สู่บริการ “SCG Roof Renovation”

จุดพลิกที่ทำให้ธุรกิจหลังคาปรับรูปแบบธุรกิจจากการเป็นผู้ผลิตสินค้า มาสู่การเป็นผู้ให้บริการ (Service and Solution Provider) คือการที่เอสซีจีได้เข้าไปศึกษาและทำความเข้าใจความต้องการเชิงลึก (Insight) ของลูกค้าแล้วพบว่า ลูกค้าส่วนใหญ่ต้องการปรับปรุงบ้านเก่ามากกว่าสร้างบ้านใหม่ แต่ต้องประสบปัญหาต่าง ๆ มากมาย อาทิ การไม่รู้ว่าจะหาช่างที่มีความเชี่ยวชาญ รู้จริงเรื่องปัญหาหลังคา และมั่นใจว่าจะซ่อมแซมได้ตรงจุดจากที่ใด และต้องใช้งบประมาณเท่าไหร่ ซึ่งปัญหาเหล่านี้เป็นเรื่องยุ่งยากสำหรับผู้บริโภค ธุรกิจ “หลังคา” จึงมองปัญหาเหล่านี้เป็น “โอกาส” ที่ท้าทาย จนนำไปสู่การพัฒนาธุรกิจบริการซ่อมแซม-ปรับปรุงหลังคาเก่าในชื่อ “SCG Roof Renovation”

“ผู้มาใช้บริการกว่าร้อยละ 70-80 บอกว่ามีปัญหาเกี่ยวกับหลังคารั่วซ้ำซาก หาช่างที่น่าเชื่อถือไม่ได้ และมีปัญหาการก่อสร้างที่ยืดเยื้อ ทำให้สูญเสียทั้งเงินและเวลามาก่อน”

แนวทางการ “ปลดล็อค” ปัญหาให้ลูกค้าของ “SCG Roof Renovation” จึงเป็นการตั้งเป้าหมาย 2 ข้อ ได้แก่ 1.) หาวิธีตอบโจทย์ให้ตรงความต้องการของลูกค้า และ 2.) การบริการจะต้องไม่กระทบกับชีวิตความเป็นอยู่ของเจ้าของบ้าน

“เราต้องคำนึงถึงสภาพแวดล้อมการอยู่อาศัยของลูกค้าอย่างรอบคอบ คือ ต้องเข้าใจข้อจำกัดการใช้ชีวิตของลูกค้า เพื่อวางแผนให้สามารถทำงานได้อย่างสะดวกและปลอดภัย อีกทั้งในสถานการณ์ไม่ปกติ เช่นในภาวะการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 กลุ่มธุรกิจหลังคาได้กำหนด 5 มาตรการในการทำงานของช่างซ่อมแซม-ปรับปรุงหลังคา โดย 1.) ก่อนเริ่มงาน ช่างจะต้องตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายทุกวัน 2.) ช่างทุกคนจะต้องสวมหน้ากากอนามัยก่อนเข้าหน้างาน 3.) ป้องกันการแพร่เชื้อในระยะใกล้ชิด โดยเว้นระยะขณะที่พูดคุยกับลูกค้าอย่างน้อย 2 เมตร 4.) แยกภาชนะส่วนตัวของช่างแต่ละคน เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อภายในทีมงาน และ 5.) ดูแลความสะอาดหลังจบงานทุกวันเพื่อไม่เป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค ทั้งนี้ เพื่อให้เจ้าของบ้านใช้บริการได้อย่างสบายใจ ปลอดภัย ห่างไกลโรค”

ที่สำคัญ คือ การนำกระบวนการวางแผนการทำงาน กับองค์ความรู้ซึ่งเป็นจุดแข็งจากการสั่งสมประสบการณ์จากการติดตั้งหลังคาตลอดระยะเวลากว่า 10 ปี มาช่วยยกระดับการบริการ

“เรารู้ว่าจุดไหนต้องระวัง จุดไหนต้องดูแล จุดไหนติดตั้งได้หรือไม่ได้ ผู้บริโภคจึงมั่นใจได้ว่าจะสามารถอยู่อาศัยในบ้านได้อย่างปลอดภัย โดยสามารถซ่อมแซม-ปรับปรุงหลังคาได้โดยที่ลูกค้ายังอยู่ในบ้าน หรือฝนตกก็ไม่เป็นไรด้วย”

ปรับกองทัพทรานสฟอร์มสู่ Roof Renovation

หลังจากเปิดให้บริการใหม่มากว่า 2 ปี ธุรกิจก็เติบโตเกินกว่า 100% คุณฎายิน เล่าถึงเบื้องหลังความสำเร็จในการ “เปลี่ยนผ่าน (Transform)” สู่การบริการ “Roof Renovation” นี้ว่า ต้องยอมถอดโมเดลธุรกิจแบบเดิม และพัฒนากระบวนการทำงานใน 3 ด้าน คือ 1.) ปรับทักษะของคนทำงาน จาก “ช่างเทคนิค” เป็น “ช่างบริการ” ที่ต้องดูแล ตลอดจนส่งมอบการติดตั้งสินค้าและการบริการให้ลูกค้า ซึ่งสิ่งสำคัญอยู่ที่การปรับความคิด (Mindset) ให้พร้อมรับความท้าทายใหม่ ๆ 2.) พัฒนากระบวนการทำงานตลอดห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) จากการเป็นเพียงผู้ส่งมอบสินค้า มาสู่การดูแลตลอดกระบวนการ โดยให้ความสำคัญกับความพึงพอใจของลูกค้าเป็นสำคัญ และ 3.) นำเทคโนโลยีมาช่วยอำนวยความสะดวก เพื่อให้เข้าถึงลูกค้า ด้วยกลยุทธ์การสื่อสารหลากหลายช่องทาง (Omni-Channel) ที่เชื่อมโลกออนไลน์กับออฟไลน์ (O2O) ทำให้รู้ความต้องการของลูกค้าผ่านเส้นทางการค้นหาข้อมูลของลูกค้า (Customer Journey) รวมถึงการนำเทคโนโลยีโดรน (Drone) มาใช้ในการสำรวจหน้างาน เพื่อยกระดับการบริการให้ดีขึ้น

“การนำโดรนบินสำรวจหน้างานมาช่วย ทำให้ลูกค้าได้เห็นสภาพปัญหาหลังคาจริงได้อย่างชัดเจน ตลอดจนช่วยลดเวลาทำงาน เพราะช่างสามารถเช็คสภาพปัญหาได้โดยไม่ต้องปีนขึ้นหลังคา นอกจากนี้ เอสซีจียังได้พัฒนาต่อยอดเทคโนโลยีโดรนให้สามารถประเมินราคาได้แม่นยำและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ทำให้ลูกค้าได้ทราบราคาเร็วขึ้น และยังสามารถวางแผนการผลิตและขนส่งได้แม่นยำขึ้นอีกด้วย”

3 ปัจจัยความท้าทายสู่น่านน้ำใหม่

ผู้บริหารธุรกิจหลังคาของเอสซีจียอมรับว่า เส้นทางการทรานสฟอร์มองค์กรขนาดใหญ่นั้นไม่สามารถสำเร็จได้แบบข้ามวัน แต่มีความท้าทายถึง 3 ปัจจัยที่ต้องก้าวข้ามไปให้ได้ ตั้งแต่เรื่อง 1.) คน ที่ต้องยอมทิ้งสูตรสำเร็จในการทำธุรกิจแบบเดิม เพื่อปรับตัวเองไปสู่รูปแบบใหม่ในการทำธุรกิจ 2.) ความเข้าใจลูกค้าเชิงลึก โดยต้องเข้าถึงความต้องการที่แท้จริงของลูกค้าปลายทางเพื่อนำมาเป็นแนวทางให้องค์กรปรับตัว และ 3.) ปรับโมเดลธุรกิจ ด้วยการบริหารกระบวนการทำงานให้ตอบโจทย์ลูกค้าในทิศทางที่ถูกต้อง

“เรื่องแรกที่สำคัญ คือ การเตรียมคนให้มีความพร้อม เพราะวันนี้เรากำลังเดินไปหาโอกาสใหม่ ทิศทางใหม่ สิ่งเดิมที่เคยทำมาใช้ไม่ได้แล้ว ต้องทำให้พันคน หมื่นคน เดินไปก้าวแรกพร้อม ๆ กัน ขณะเดียวกัน เมื่อตลาดเปลี่ยน โอกาสก็เปลี่ยน หากเรายังโฟกัสความต้องการของลูกค้าในนิยามของตลาดแบบเดิม โลกของเราก็จะแคบ เราก็จะไม่รู้ถึงความต้องการลูกค้าปลายทางจริง ๆ ว่าคืออะไร”

สูตรรอดรับมือโลกธุรกิจดิจิทัล

คุณฎายิน เปรียบเทียบถึงกระบวนการเปลี่ยนแปลงองค์กรเพื่อรองรับกับธุรกิจยุคใหม่ว่า ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมอาจจะทำได้ดีกว่าบริษัทขนาดใหญ่ เพราะความเล็กขององค์กร ไม่มีลำดับชั้นสูงมาก ทำให้เกิดความคล่องตัว ตัดสินใจได้รวดเร็ว ซึ่งถือเป็นจุดแข็งสำหรับสภาพตลาดในยุคปัจจุบัน

“หากเราไม่ปรับตัว จะเป็นโอกาสให้อุตสาหกรรมอื่นเข้ามาแย่งชิงบทบาทข้ามธุรกิจได้ (Disruption) เราจึงต้องมีความเร็ว ปรับตัว และตื่นตัวตลอดเวลา พยายามมองหาโอกาสธุรกิจใหม่ พร้อมเปลี่ยนแปลงทีมงานและกระบวนการทำงานให้เท่าทันโลก”

คุณฎายิน ย้ำทิ้งท้ายถึงวิธีการเอาตัวรอดในบริบทของสังคมที่เปลี่ยนไป เพื่อตอบโจทย์ให้ตรงความต้องการของลูกค้าได้ คือ ต้องเข้าใจจุดแข็งและความพร้อมขององค์กร เพื่อนำไปสู่การต่อยอดซึ่งจะเป็นการสร้างโอกาสของธุรกิจในอนาคตได้ต่อไป

สรุปหัวใจของการเดินหน้าธุรกิจสั้น ๆ คือ เข้าใจการเปลี่ยนแปลง เข้าใจองค์กร และรู้จักการต่อยอดธุรกิจ นั่นเอง

สำหรับผู้สนใจบริการ SCG Roof Renovation สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมและนัดหมายปรึกษาผู้เชี่ยวชาญได้ฟรีที่เว็บไซต์ https://roofexpert.scgbuildingmaterials.com/service/renovate หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ SCG HOME Contact Center โทร.02-586-2222 และสามารถติดตามข่าวสารอื่น ๆ ของเอสซีจีที่น่าสนใจได้ที่ https://scgnewschannel.com / Facebook: scgnewschannel / Twitter: @scgnewschannel หรือ Line@: @scgnewschannel

ล้างสูตรสำเร็จเดิม เสริมทัพสินค้าหลังคา ทรานสฟอร์มสู่ SCG Roof Renovation ล้างสูตรสำเร็จเดิม เสริมทัพสินค้าหลังคา ทรานสฟอร์มสู่ SCG Roof Renovation ล้างสูตรสำเร็จเดิม เสริมทัพสินค้าหลังคา ทรานสฟอร์มสู่ SCG Roof Renovation

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๗ เม.ย. อแมนด้า ชาร์ลีน ออบดัม VICHY LIFTACTIV BRAND PARTNER ตัวแทนประเทศไทย ร่วมงาน 'V.I.C VICHY INTEGRATIVE CENTER' อีเว้นท์สุดยิ่งใหญ่ในรอบ 5 ปี ของแบรนด์ VICHY (วิชี่) อวดลุคเซ็กซี่สุดฮอต สวย ปัง
๒๖ เม.ย. ไทยพีบีเอสผนึกกำลัง สสส. ผลิต และเผยแพร่เนื้อหาส่งเสริมสุขภาวะเด็ก เยาวชน และครอบครัว
๒๖ เม.ย. NPS ร่วมสืบสานประเพณีสงกรานต์ชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า ประจำปี 2567
๒๖ เม.ย. แพทย์แผนไทย มทร.ธัญบุรี แนะฤดูร้อนควรทานพืชผักที่มีฤทธิ์เย็นช่วยลดความร้อนในร่างกาย
๒๖ เม.ย. แพรนด้า จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2566
๒๖ เม.ย. RBRU Herb Shot ขยายศักยภาพทางธุรกิจ รุกตลาดอินเดีย
๒๖ เม.ย. ไฮเออร์ ประเทศไทย เดินเกมรุกไตรมาส 2 เปิดตัวตู้เย็นรุ่นใหม่ Multi-door HRF-MD679 ตั้งเป้าปี 67 ดันยอดขายตู้เย็นโต
๒๖ เม.ย. เอ็น.ซี.ซี.ฯ ประกาศจัดงาน PET EXPO THAILAND 2024 ระดมสินค้า บริการ ลดหนักจัดเต็ม รับกระแส Petsumer ดันตลาดสัตว์เลี้ยงโตแรง
๒๖ เม.ย. ธอส. ขานรับนโยบายรัฐบาล ลดอัตราดอกเบี้ย MRR 0.25% ต่อปี พร้อมส่งเสริมวินัยการออม ด้วย เงินฝากออมทรัพย์เก็บออม ดอกเบี้ยสูงถึง 1.95%
๒๖ เม.ย. ManageEngine ลดความซับซ้อน ช่วยองค์กรจัดการต้นทุนบนคลาวด์ทั่วมัลติคลาวด์ได้ง่ายขึ้น พร้อมรองรับแพลตฟอร์ม Google Cloud