ซีพีเอฟ ใส่ใจสมดุลสิ่งแวดล้อม ตามแนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียน

พฤหัส ๐๔ มิถุนายน ๒๐๒๐ ๑๓:๒๔
บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เดินหน้าสู่เป้าหมาย“ครัวของโลก” เน้นกระบวนการผลิตอาหารใส่ใจสมดุลธรรมชาติ ใช้ทรัพยากรเกิดประสิทธิภาพอย่างคุ้มค่า ควบคู่ไปกับการลดการสูญเสียตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Ecoomy) เพิ่มสัดส่วนใช้พลังงานทดแทน การจัดการบรรจุภัณฑ์พลาสติก สนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ
ซีพีเอฟ ใส่ใจสมดุลสิ่งแวดล้อม ตามแนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียน

นายวุฒิชัย สิทธิปรีดานันท์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซีพีเอฟ กล่าวว่า ในภาวะที่โลกเผชิญวิกฤตการแพร่ระบาดของเชื้อโรคโควิด 19 เป็นช่วงเวลาที่ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้รับการฟื้นฟูจากการหยุดหลากหลายกิจกรรมทั่วโลก โดยเฉพาะการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ทั้งจากกิจกรรมของมนุษย์ ระบบขนส่งและภาคอุตสาหกรรม ส่งผลให้มลพิษลดลง ความหลากหลายทางชีวภาพกลับคืนมา เราไม่สามารถจะมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีอย่างยั่งยืนได้ หากยังใช้ทรัพยากรอย่างสิ้นเปลือง และสร้างผลกระทบต่างๆ นำไปสู่การเสื่อมโทรมอย่างรวดเร็วของสิ่งแวดล้อมโลก

ไม่ว่าโรคระบาดโควิด 19 จะสิ้นสุดลงเมื่อไรก็ตาม การปกป้องและดูแลสมดุลสิ่งแวดล้อม ยังเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญต่อไป ซึ่งเป็นหนึ่งในเป้าหมายสำคัญในการดำเนินธุรกิจและการเติบโตอย่างยั่งยืนของซีพีเอฟ ภายใต้ วิสัยทัศน์ “ครัวของโลก” เพื่อส่งมอบอาหารคุณภาพ สะอาด และปลอดภัยสู่ผู้บริโภค โดยนำหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) บริหารทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประสิทธิภาพคุ้มค่า ทั้งเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน เพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานหมุนเวียน การนำน้ำกลับมาใช้ใหม่ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ลดการใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติกที่ไม่จำเป็นและส่งเสริมการใช้วัสดุสำหรับผลิตบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และลดการสูญเสียในกระบวนการผลิตอาหาร เพื่อสร้างคุณค่าต่อเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม รวมทั้งสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (SDGs)

“ในโอกาสวันสิ่งแวดล้อมโลก 5 มิถุนายน ของทุกปี ซีพีเอฟ ในฐานะบริษัทผู้ผลิตอาหารชั้นนำระดับโลก เราให้ความสำคัญกับอาหารทุกคำที่บริโภคต้องปลอดภัย และมาจากกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพราะเราตระหนักดีว่าสมดุลของชีวิตมาจากสมดุลของธรรมชาติที่ทุกคนต้องออกมาช่วยปกป้องและรักษาให้เหมือนกับที่ทุกคนดูแลตัวเองในทุกๆวัน ” นายวุฒิชัย กล่าว

ซีพีเอฟ ใช้ทรัพยากรน้ำตลอดกระบวนการผลิตบนพื้นฐานแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน อาทิ ในฟาร์มเลี้ยงกุ้งบางสระเก้าและฟาร์มร้อยเพชร นำระบบไบโอฟลอค(Bio-Floc)ซึ่งเป็นกลุ่มจุลินทรีย์ที่สามารถบำบัดสารละลายไนโตรเจนที่เกิดจากของเสียที่ขับถ่ายจากกุ้ง ลดการเปลี่ยนถ่ายน้ำในระหว่างการเลี้ยง ทำให้การใช้น้ำลด 70 % เทียบกับการเลี้ยงกุ้งโดยทั่วไป และนำเทคโนโลยี Ultra Filtration (UF) กรองน้ำที่ผ่านการบำบัดแล้ว หมุนเวียนกลับมาใช้เลี้ยงกุ้งมากกว่า 90 % เป็นต้น

นอกจากนี้ บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการลดปริมาณขยะพลาสติก โดยในปี 2563บรรจุภัณฑ์พลาสติกที่นำมาใช้บรรจุอาหารในประเทศไทยสามารถนำกลับมาใช้ซ้ำ (reusable)หรือ นำกลับมาใช้ใหม่ (recycle)แล้ว 100% และในปีนี้ ยังได้ดำเนินการเพื่อลดการสูญเสียอาหารและการจัดการขยะอาหารในกระบวนการและห่วงโซ่อุปทานการผลิตอาหาร โดยเริ่มโครงการนำร่องในธุรกิจไก่เนื้อ ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีปริมาณการส่งออกสูงสุดเพื่อเป็นต้นแบบของการดำเนินงาน และจะขยายผลไปยังกลุ่มธุรกิจอื่นๆ ต่อไป

นายวุฒิชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯมุ่งมั่นมีส่วนร่วมลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ผ่านการส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียนและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน โดยปัจจุบันสัดส่วนการใช้พลังงานหมุนเวียนอยู่ที่ 26 % ของพลังงานที่ใช้ทั้งหมด ผ่านการดำเนินโครงการต่างๆ อาทิ โครงการพลังงานจากชีวมวล ซึ่งโรงงานอาหารสัตว์บกและสัตว์น้ำนำวัสดุเหลือทิ้ง เช่น เศษไม้ ขี้เลื่อย ซังข้าวโพด มาใช้เป็นเชื้อเพลิงทดแทนถ่านหินในหม้อไอน้ำ โดยตั้งเป้ายกเลิกการใช้ถ่านหินภายในปี 2565 โครงการพลังงานจากก๊าซชีวภาพ ฟาร์มสุกรของซีพีเอฟทั้งหมด นำน้ำเสียและมูลสัตว์ นำมาบำบัดผ่านระบบบำบัดน้ำเสีย ได้ก๊าซชีวภาพสามารถนำไปผลิตไฟฟ้ากลับมาใช้ภายในสถานประกอบการ

โครงการพลังงานแสงอาทิตย์ โดยโรงงานอาหารสัตว์ ฟาร์มเลี้ยงสัตว์ โรงงานอาหารแปรรูป โรงงานอาหารสำเร็จรูป และศูนย์กระจายสินค้า รวม 24 แห่ง ติดตั้งแผง Solar PV บนหลังคา (โซลาร์รูฟท็อป) เพื่อผลิตไฟฟ้าใช้ภายในกระบวนการผลิต โดยมีกำลังการผลิตทั้งหมด 15 เมกะวัตต์ และคาดว่าจะดำเนินการผลิตไฟฟ้าได้เต็มประสิทธิภาพภายในปี 2563 ทั้งนี้ ผลจากการปรับเปลี่ยนมาใช้พลังงานหมุนเวียนตลอดกระบวนการผลิตมากขึ้น ทำให้ในปี 2562 สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 425,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี

ในด้านสังคม บริษัทฯ ดำเนินโครงการ “ซีพีเอฟ รักษ์นิเวศ ลุ่มน้ำป่าสัก เขาพระยาเดินธง ” อนุรักษ์และฟื้นฟูป่าในพื้นที่เขาพระยาเดินธง ต.พัฒนานิคม อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี 5,971 ไร่ (ปี 2559-2563) ปริมาณการกักเก็บคาร์บอนจากการอนุรักษ์ ปกป้อง และฟื้นฟูป่าไม้ 39,690 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี สิ่งที่ซีพีเอฟดำเนินโครงการต่างๆเหล่านี้ เป็นความมุ่งมั่นมีส่วนร่วมดูแลสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งเป็นต้นทางในการผลิตอาหาร เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหารของมนุษยชาติอย่างยั่งยืน

ซีพีเอฟ ใส่ใจสมดุลสิ่งแวดล้อม ตามแนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียน ซีพีเอฟ ใส่ใจสมดุลสิ่งแวดล้อม ตามแนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียน

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๔ พ.ค. Siriraj Education Expo 2024 ก้าวสู่ยุคใหม่ไปกับศิริราช พร้อมยกระดับทางการแพทย์ให้ดีขึ้น เพื่อสุขภาวะที่ดีของคนไทยทุกคน
๐๓ พ.ค. ครั้งแรก! งานเทศกาลคอนเทนต์ LGBTQ ฉลองความเท่าเทียมทางเพศ THAILAND INTERNATIONAL LGBTQ FILM TV FESTIVAL 2024 ปักหมุดเตรียมพบกัน กันยายนนี้
๐๓ พ.ค. โน วัน เอลส์ ส่ง 3 เพลงรัก 3 สไตล์! ผ่านมิวสิกซี่รีย์ ที่จะทำให้คุณเข้าใจความรักมากขึ้น
๐๓ พ.ค. ทีซีเอ็มซีมอบรางวัลประกวดการออกแบบผลงานด้านผลิตภัณฑ์อคูสติกส์
๐๓ พ.ค. GT Auto ฉลองแชมป์ยอดขาย Volvo จัดงาน มหกรรม GT Auto Show ลดสูงสุด 1,000,000 บาท พร้อมชูบริการ GT Auto Exclusive Service
๐๓ พ.ค. กทม. เตรียมพร้อมให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเสี่ยงและนักเรียนในสังกัด
๐๓ พ.ค. กรมส่งเสริมการเกษตร ประชุมคณะทำงานความร่วมมือด้านการรับรองแหล่งผลิตพืชฯ (GAP พืช) ครั้งที่ 1/2567
๐๓ พ.ค. First Sale! realme 12 5G และ realme 12X 5G สัมผัสประสบการณ์ Portrait Master กับกล้องซูม 3X in sensor
๐๓ พ.ค. CRYSTALLIZING ใหม่! โดย SHISEIDO PROFESSIONAL อัปเกรดกลุ่มผลิตภัณฑ์ยืด-ดัดผม ชูเทคโนโลยีสุดล้ำ DUAL PERFORMANCE SYSTEM
๐๓ พ.ค. บัลเลต์ รีทรีต บนเกาะมัลดีฟส์ กลับมาอีกครั้ง ที่ อวานี พลัส แฟเรส โดย คาร์ริส สการ์เลต นักเต้นบัลเลต์ชื่อดัง