เมย์แบงก์ กิมเอ็ง คาด 3 กลุ่มธุรกิจผสมผสานจุดเด่นของไทย “ท่องเที่ยว การแพทย์ อาหาร” เพิ่มโอกาสการลงทุน

จันทร์ ๑๕ มิถุนายน ๒๐๒๐ ๑๕:๑๙
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุน บมจ.หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) คาดท่ามกลางภาวะการแข่งขันของตลาดโลกที่สูงขึ้น ทำให้บริษัทที่จะเติบโตได้ดี จำเป็นจะต้องใช้จุดแข็งที่โดดเด่นกว่าคู่แข่ง ซึ่งสำหรับไทย เราเชื่อว่ายังมีหลายอุตสาหกรรมที่มีข้อได้เปรียบกว่าประเทศอื่นทั่วโลก เช่น การท่องเที่ยว, การแพทย์ และด้านอาหาร-เครื่องดื่ม ดังนั้นการดึงจุดได้เปรียบออกมาเพื่อแข่งขันในตลาดโลกก็เป็นกลยุทธ์ในการแข่งขันที่ดี อีกทั้งหากนำจุดเด่นมาผสมผสานกัน ก็จะเป็นการต่อยอดธุรกิจเพิ่มเติม นอกจากนี้หากนำเอาเทคโนโลยีมาเพิ่มเติมจะช่วยเสริมช่องทางในการขยายธุรกิจมากยิ่งขึ้น ดังนั้นในฐานะนักลงทุนจึงควรพิจารณานำเอาข้อได้เปรียบของไทยมาช่วยกำหนดกลยุทธ์การลงทุนที่เหมาะสมในระยะกลาง-ยาว ทั้งหมดจึงนำมาสู่บทวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์การลงทุน “Thailand : Core Competencies Combination”

โดยทั้ง 3 จุดเด่นของไทยได้แก่ ท่องเที่ยว การแพทย์ และอาหาร ประเทศไทยถือว่ามีศักยภาพในการแข่งขันในตลาดโลกในหลากหลายแง่มุม จากทั้งองค์ความรู้ ความสามารถของบุคลากร และสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม ซึ่งอุตสาหกรรมที่เห็นได้ชัดเจนจากข้อดีดังกล่าวคือ ภาคท่องที่ยว, การแพทย์ และธุรกิจอาหาร ดังนั้นกลุ่มเหล่านี้ถือว่าได้เปรียบคู่แข่งในประเทศต่างๆค่อนข้างมาก และมีโอกาสในการเติบโตที่สูงตามทิศทางเศรษฐกิจทั่วโลกที่จะขยายตัวมากยิ่งขึ้นในช่วงถัดไป การนำจุดแข็งในหลายๆด้านมาผสมผสานกัน จะเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยเสริมความแข็งแกร่งในด้านโครงสร้างรายได้ที่มากยิ่งขึ้น ซึ่งหากธุรกิจต่างๆได้นำข้อได้เปรียบของประเทศไทยมาผสมเข้ากับธุรกิจที่โดดเด่นของตนเองแล้ว คาดจะยิ่งเป็นช่องทางในการขับเคลื่อนรายได้ให้เติบโตยิ่งขึ้น พร้อมกับการต่อยอดเทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น โซเชียลเน็ตเวิร์ก, ออนไลน์ ถือเป็นการขยายช่องทางการทำธุรกิจที่เข้ากับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไปเช่นในปัจจุบัน ดังนั้นหากบริษัทสามารถผสมผสานจุดแข็ง พร้อมกับนำเอาเทคโนโลยีดังกล่าวเข้ามาใช้ คาดจะทำให้อัตราการทำกำไรสูงขึ้น และเร่งผลการดำเนินงานให้เติบโตได้ดียิ่งขึ้น

แนะนำทยอยสะสมหุ้นเด่นที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนในระยะกลางที่มีการผสมผสานจุดเด่นของประเทศไทย ดังนี้ 1.การแพทย์+ท่องเที่ยว ก็คือการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Medical Tourism) แนะนำ BDMS ด้วยสาขาที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ ซึ่งรวมถึงจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ, SPA การนวดและบำบัด ถือเป็นจุดเด่นที่สำคัญของไทย ที่นักท่องเที่ยวต่างชาตินิยมใช้บริการ 2.ท่องเที่ยว+อาหารและเครื่องดื่ม คือเน้นไปที่การบริโภคของนักท่องเที่ยว แนะนำ MINTเจ้าของแบรนด์ธุรกิจโรงแรมและร้านอาหารชั้นนำ ทั้งสำหรับคนไทยและต่างชาติ, CPALL มีสาขาครอบคลุมทั่วประเทศ ง่ายต่อการเข้าถึงผู้บริโภคและนักท่องเที่ยว 3.อาหารและเครื่องดื่ม+การแพทย์ คืออาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ (Healthy F&B) แนะนำ CPF ธุรกิจอาหารครบวงจรขานรับการเป็นครัวโลกที่จะขยายการเติบโตไปได้อย่างยั่งยืน, RBF เน้นพัฒนาและวิจัยนวัตกรรมด้านอาหารแบบครบวงจร ช่วยต่อยอดธุรกิจเติบโตอย่างมั่นคง

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘:๓๓ COM7 เดินหน้าเต็มสปีด EV7 ส่งมอบแท็กซี่ไฟฟ้าล็อตแรก ดันเมกะเทรนด์ EV สู่หัวใจเมือง
๑๘:๓๖ GCAP ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ไฟเขียวผ่านฉลุยทุกวาระ พร้อมเดินหน้าแผนธุรกิจขยายสู่กลยุทธ์ Non Lending
๑๘:๔๔ PYLON จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผู้ถือหุ้นไฟเขียวจ่ายปันผล 0.04 บาท/หุ้น
๑๘:๓๙ LDC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 มุ่งเป็นคลินิกทันตกรรมพรีเมียม ในราคาที่เข้าถึงง่าย
๑๘:๑๒ ผู้ถือหุ้น TATG ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.07 บาท/หุ้น ลงทุนเครื่องจักรใหม่เสริมแกร่งสายการผลิต พิชิตเป้ารายได้ 3,000
๑๘:๕๗ ADVICE จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นรูปแบบ Hybrid ประจำปี 2568 ผถห.ไฟเขียวทุกวาระ เคาะแจกปันผล 0.175 บ./หุ้น
๑๘:๓๖ LE ร่วมงานสถาปนิก'68 โชว์นวัตกรรมแสงสว่างอัจฉริยะ เสริมภาพผู้นำ Lighting Solutions Provider
๑๘:๔๖ SELIC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ปี 2568 ผู้ถือหุ้นเห็นชอบทุกวาระ อนุมัติจ่ายปันผล 0.038 บาท/หุ้น เดินหน้า 3 ธุรกิจ
๑๘:๔๙ STA เปิดบ้านต้อนรับภาครัฐ โชว์มาตรฐานรับซื้อยางโปร่งใส เป็นธรรม หนุนรัฐต้านยางเถื่อน
๑๘:๓๕ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จับมือเอกชน ปั้นช่างเชื่อมโกอินเตอร์ รายได้ทะลุ 70,000 บาทต่อเดือน