เลขาธิการ สศก. ร่วมทีมรองนายกฯ ประวิตร ดัน สุราษฎร์โมเดล ต้นแบบแก้ไขปัญหาปาล์ม ย้ำ ผู้ว่า 5 จังหวัดหัวหน้าทีม ต้องเร่งขับเคลื่อน-รายงานผลทุกเดือน

ศุกร์ ๑๙ มิถุนายน ๒๐๒๐ ๑๔:๐๐
นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กปน.) พร้อมด้วยนางอัญชนา ตราโช รองเลขาธิการ สศก. ถึงการร่วมลงพื้นที่ตรวจราชการของรองนายกรัฐมนตรี พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธานคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มแห่งชาติ เพื่อติดตามสถานการณ์ และตรวจเยี่ยมการแก้ไขปัญหาปาล์มน้ำมัน ณ จังหวัดสุราษฎร์ธานีว่าในปีนี้ สศก. คาดว่าผลผลิตปาล์มน้ำมันจะเพิ่มขึ้นเป็น 17 ล้านตัน โดยปัจจุบันแหล่งผลิตปาล์ม 5 จังหวัดภาคใต้ คือ ชุมพร นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี กระบี่ และพังงา นับว่ามีพื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมันคิดเป็นร้อยละ 75 จาก 5.6 ล้านไร่ทั้งประเทศ

สำหรับจังหวัดสุราษฎร์ธานี ถือได้ว่าเป็นแหล่งผลิตปาล์มน้ำมันอันดับ 1 ของประเทศ มีแนวทางการของคณะกรรมการขับเคลื่อนปาล์มน้ำมันคุณภาพจังหวัดสุราษฎร์ธานีอย่างยั่งยืน หรือ สุราษฎร์โมเดล อาทิ เกษตรกรชาวสวนปาล์มและผู้เก็บเกี่ยว จะต้องมีการจัดการสวนปาล์มโดยเก็บเกี่ยวปาล์มสุกเท่านั้น (ลูกร่วง 3-5 ลูก) และผู้เก็บเกี่ยวโดยเฉพาะผู้เก็บเกี่ยวอิสระจะต้องขึ้นทะเบียนและต้องผ่านการประชุมหรืออบรมมีใบรับรองการเก็บเกี่ยวปาล์มที่ถูกต้อง กลุ่มลานเท ให้มีการขึ้นทะเบียนลานเทเพื่อควบคุมลานเทที่รับซื้อปาล์ม และการกำหนดข้อบังคับ เช่น ห้ามแยกลูกร่วง ห้ามรดน้ำ ห้ามมีตะแกรงร่อน และไม่บ่มปาล์ม รวมถึงให้ลานเทมีสิทธิ์คัดและยึดปาล์มดิบ และ กลุ่มโรงงาน โดยโรงงานจะต้องซื้อตามเกณฑ์ที่กำหนดในอัตราน้ำมันขั้นต่ำ 18% ทั้งนี้ ทุกฝ่ายจะต้องดำเนินการตามข้อกำหนดซึ่งหากฝ่าฝืนจะมีมาตรการและบทลงโทษที่เคร่งครัด

โอกาสนี้ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้มอบนโยบายแก่ผู้แทนหน่วยงานส่วนกลางและคณะทำงานขับเคลื่อนฯ ระดับจังหวัด ณ ห้องประชุมธูปเตมีย์ บน.7 อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อเป็นแนวทางการดำเนินงานร่วมกัน ซึ่งล่าสุดในคราวประชุม กนป. เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2563 กนป. ได้เห็นชอบแต่งตั้งคณะอนุกรรมการและคณะทำงานเพื่อใช้เป็นกลไกในการขับเคลื่อนระดับจังหวัดเพื่อการแก้ไขปัญหาปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มในพื้นที่ 5 จังหวัดภาคใต้ โดยมี ผู้ว่าราชการจังหวัดแต่ละจังหวัดเป็นประธานคณะทำงาน เพื่อบูรณาการกำกับควบคุมคุณภาพผลผลิต กำกับราคาปาล์มน้ำมันที่เป็นธรรมแก่เกษตรกร และมีพล.ต.อ.ธรรมศักดิ์ วิชชารยะ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ประธานอนุกรรมการ เป็นศูนย์กลางในการขับเคลื่อนทั้งในส่วนกลางและระดับจังหวัด และใช้แนวทางของสุราษฎร์โมเดลเป็นต้นแบบ ขับเคลื่อนผ่านชุดปฏิบัติงานรับผิดชอบงานแต่ละด้านให้สอดคล้องกับสภาพการณ์ในแต่ละท้องที่ซึ่งเน้นย้ำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะหัวหน้าทีมจังหวัด จะต้องสรุปผลการปฏิบัติงานทุกสัปดาห์ให้ประธานอนุกรรมการ และรายงานความก้าวหน้าในการดำเนินงาน พร้อมข้อเสนอแนะให้ทราบเป็นประจำทุกเดือน โดยยึดหลักการดำเนินการ 5 ด้าน ดังนี้

1) ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นหัวหน้าทีม Single Command บูรณาการสั่งการด้วยตนเอง 2) ให้มีการสร้างการรับรู้แก่เกษตรกรชาวสวนปาล์ม ปลูกฝังการตัดปาล์มที่สุกเต็มที่ 3) กวดขันกำกับให้มีการรับซื้อผลปาล์มที่ได้เกณฑ์มาตรฐานสินค้าเกษตร ทะลายปาล์มน้ำมัน ตามราคาที่เป็นไปตามโครงสร้างราคาที่กรมการค้าภายในจัดทำขึ้น 4) กำกับให้โรงงานสกัดปาล์มน้ำมันในพื้นที่ดำเนินการให้เป็นไปตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม อัตราน้ำมัน 18 เปอร์เซนต์ และ 5) กวดขันไม่ให้มีการลักลอบนำเข้าน้ำมันปาล์มโดยผิดกฎหมาย

หลังจากนั้น เลขาธิการ สศก. ได้ร่วมเดินทางกับทีมรองนายกรัฐมนตรี ไปยังสหกรณ์สุราษฎร์ธานี จำกัด (โค-อ๊อป) เพื่อพบปะเกษตรกรและมอบถุงยังชีพแก่เกษตรกรชาวสวนปาล์ม 2,000 ชุด หลังจากนั้นได้เดินทางไปยังแปลงปาล์มน้ำมัน ณ สวนปาล์มนายโสฬส เดชมณี อ.พุนพิน และเดินทางไปยังโรงงานปาล์มน้ำมัน บริษัทนิวไบโอดีเซล จำกัด อ.ท่าฉาง จังหวัดสุราษฎร์ธานีตามลำดับ

ทั้งนี้ จากสถานการณ์ราคาปาล์มปี 2562 ที่ผ่านมา พบว่าราคาเฉลี่ยอยู่ที่กิโลละ 3.11 บาท โดยต้นทุนเฉลี่ยอยู่ที่ 9,000 บาท/ไร่ ให้ผลผลิตไร่ละ 3 ตัน อย่างไรก็ตาม ระยะ 2 เดือนที่ผ่านมา ราคาปาล์มน้ำมันเฉลี่ยที่กิโลกรัมละ 3.09 - 3.22 ในขณะที่มีปาล์มออกสู่ตลาดมากกว่า 1.9 ล้านตันในเดือนเมษายน และ 1.6 ล้านตันในเดือนพฤษภาคมตามลำดับ ซึ่งมติ กนป. ในคราวประชุมเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2563 ได้เห็นชอบให้กระทรวงพลังงาน โดยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เร่งรัดการจัดซื้อน้ำมันปาล์มดิบส่วนที่เหลือ จำนวน 37,550 ตัน ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว รวมทั้งเร่งดำเนินการส่งเสริมการใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี10 ให้เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนด ตลอดจนการรณรงค์เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี10 ให้กับผู้บริโภค ผู้ประกอบการค่ายรถยนต์ และสถานีบริการ เพื่อให้ปริมาณความต้องการใช้น้ำมันปาล์มดิบสามารถรองรับปริมาณผลปาล์มน้ำมันที่เพิ่มขึ้นได้ ซึ่งเชื่อมั่นว่าราคาปาล์มจะสูงขึ้นและไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 4 บาท

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา กนป. ได้ออกนโยบายและมาตรการ วางแผนให้เกิดการปฏิรูปและพัฒนาอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มทั้งระบบ ซึ่งแนวทางทั้งหมดจะไม่ได้ผล หากไม่ได้รับความร่วมมือร่วมใจจาก พี่น้องชาวสวนปาล์มน้ำมัน ผู้ประกอบการลานเท โรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม สภาเกษตรกร และเจ้าหน้าที่หน่วยเกี่ยวข้องทุกฝ่ายทุกภาคส่วนเพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาให้พี่น้องชาวเกษตรกรสวนปาล์ม โดยยึดหลัก “ปาล์มคุณภาพ ราคาที่เป็นธรรม ผลักดันไบโอดีเซล ลดมลภาวะ” ในการแก้ไขปัญหาและขับเคลื่อนการดำเนินงานร่วมกัน

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๐ เม.ย. COM7 เดินหน้าเต็มสปีด EV7 ส่งมอบแท็กซี่ไฟฟ้าล็อตแรก ดันเมกะเทรนด์ EV สู่หัวใจเมือง
๓๐ เม.ย. GCAP ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ไฟเขียวผ่านฉลุยทุกวาระ พร้อมเดินหน้าแผนธุรกิจขยายสู่กลยุทธ์ Non Lending
๓๐ เม.ย. PYLON จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผู้ถือหุ้นไฟเขียวจ่ายปันผล 0.04 บาท/หุ้น
๓๐ เม.ย. LDC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 มุ่งเป็นคลินิกทันตกรรมพรีเมียม ในราคาที่เข้าถึงง่าย
๓๐ เม.ย. ผู้ถือหุ้น TATG ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.07 บาท/หุ้น ลงทุนเครื่องจักรใหม่เสริมแกร่งสายการผลิต พิชิตเป้ารายได้ 3,000
๓๐ เม.ย. ADVICE จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นรูปแบบ Hybrid ประจำปี 2568 ผถห.ไฟเขียวทุกวาระ เคาะแจกปันผล 0.175 บ./หุ้น
๓๐ เม.ย. LE ร่วมงานสถาปนิก'68 โชว์นวัตกรรมแสงสว่างอัจฉริยะ เสริมภาพผู้นำ Lighting Solutions Provider
๓๐ เม.ย. SELIC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ปี 2568 ผู้ถือหุ้นเห็นชอบทุกวาระ อนุมัติจ่ายปันผล 0.038 บาท/หุ้น เดินหน้า 3 ธุรกิจ
๓๐ เม.ย. STA เปิดบ้านต้อนรับภาครัฐ โชว์มาตรฐานรับซื้อยางโปร่งใส เป็นธรรม หนุนรัฐต้านยางเถื่อน
๓๐ เม.ย. กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จับมือเอกชน ปั้นช่างเชื่อมโกอินเตอร์ รายได้ทะลุ 70,000 บาทต่อเดือน