IBM ผนึกความร่วมมือ วิศวะมหิดล นำเทคโนโลยี HPC และแพลตฟอร์ม AI สนับสนุนการวิจัย-พัฒนาอุตสาหกรรมและกำลังคนในยุคนิวนอร์มอล

อังคาร ๓๐ มิถุนายน ๒๐๒๐ ๑๑:๐๗
ไอบีเอ็ม ผนึกความร่วมมือคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ในการนำเทคโนโลยีการประมวลผลสมรรถนะสูง (HPC) และ AI Vision ของไอบีเอ็ม มาใช้สนับสนุนงานวิจัยและการพัฒนาทักษะที่สำคัญต่างๆ ในประเทศไทย ซึ่งความร่วมมือนี้สอดคล้องตามแผนยุทธศาสตร์ของประเทศในการพัฒนาไปสู่เศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Economy) และการเร่งขับเคลื่อนไปสู่อุตสาหกรรม 4.0 รองรับอุตสาหกรรมแห่งอนาคต S-Curve และ New S-Curve ตลอดจนการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC)

นางสิริกร บุญเสริมสุวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจดิจิทัลเซลและคอมเมอร์เชียล บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า “ความร่วมมือนี้นับว่าเป็นก้าวย่างสำคัญสำหรับไอบีเอ็มและมหาวิทยาลัยมหิดลในการขับเคลื่อนการพัฒนาไปสู่สังคมดิจิทัลและการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศ โดยไอบีเอ็มได้สนับสนุนฮาร์ดแวร์ IBM Power Systems หรือ HPC เทคโนโลยีประมวลผลสมรรถนะสูง (High-Performance Computing ) ซึ่งอยู่เบื้องหลังซูเปอร์คอมพิวเตอร์ มีความปลอดภัยได้รับมาตรฐานโลก มีการออกแบบเพื่อรองรับการวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูงและการใช้งานปัญญาประดิษฐ์ (AI) และสนับสนุนระบบ IBM Visual Insights แพลตฟอร์ม AI ที่ก้าวล้ำช่วยให้สามารถใช้ AI ในการวิเคราะห์ไฟล์ภาพหรือวิดีโอ (AI Vision) ได้ในเวลาอันรวดเร็ว ทั้งนี้ดิสรัปชันอันเป็นผลมาจากสถานการณ์โควิด-19 ได้กระตุ้นให้ธุรกิจอุตสาหกรรมต่างๆของไทย ต้องปรับตัวและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ตอกย้ำให้เห็นถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการพัฒนาทักษะที่สำคัญให้แก่บุคลากรเพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน สถานการณ์การแพร่ระบาดได้ส่งผลกระทบต่อพวกเราทุกคน และองค์กรที่สามารถปรับตัวและฟื้นตัวได้เร็วที่สุดเท่านั้นที่จะสามารถเดินหน้าต่อไปได้ การใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีก้าวล้ำและความร่วมมือกับกลุ่มพันธมิตรด้านวิชาการ จะช่วยให้เราสามารถสร้างทักษะที่จะเป็นที่ต้องการในอนาคต เพื่อสนับสนุนการพัฒนาทางเศรษฐกิจ และช่วยให้เราเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งยิ่งขึ้นในยุคนิวนอร์มัล”

รศ.ดร.จักรกฤษณ์ ศุทธากรณ์ คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า “จากวิสัยทัศน์ของคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้มุ่งสู่การก้าวเป็น วิศวกรรมศาสตร์ระดับโลก และในปี 2563 ยังมีแผนพัฒนาการศึกษา New Normal Engineering และดำเนินงานวิจัยพัฒนาระดับโลกมารองรับวิถีใหม่ สร้างเสริมการพัฒนาศักยภาพกำลังคนของประเทศให้สามารถเพิ่มผลิตภาพในองค์กรและสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์โลกในอนาคตได้ ทั้งนี้ COVID-19 ดิสรัพชั่น เป็นตัวเร่งให้เกิดการเปลี่ยนผ่านของดิจิทัลเทคโนโลยีเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งในการก้าวสู่ Industry 4.0 และเศรษฐกิจดิจิทัลนั้น การพัฒนากำลังคนในภาคอุตสาหกรรมทั้งการ Reskill – Upskill เพื่อพัฒนาทักษะความสามารถของคนไทยและการประยุกต์ใช้ระบบอัตโนมัติและปัญญาประดิษฐ์ (AI) จึงเป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อพัฒนาทักษะเดิมด้วยองค์ความรู้ใหม่ที่จำเป็นให้รองรับกับงานใหม่หรืองานในอนาคตมากขึ้น ส่วน จะช่วยเสริมสร้างทักษะใหม่ที่สอดคล้องกับธุรกิจอุตสาหกรรมอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความคิดสร้างสรรค์ กล้าแสดงออก ทักษะทางด้านดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์ รวมถึงการทำงานกับข้อมูลมหาศาลหรือ Big Data เป็นต้น

ดังนั้นเพื่อตอบรับงานวิจัยในวิถีใหม่นิวนอร์มอล คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล จะขับเคลื่อนงานวิจัยเชิงรุก 3 ด้าน ได้แก่

งานวิจัยอุตสาหกรรมทางการแพทย์ เสริมสร้างประเทศไทยเป็น Health & Wellness Hub ที่ก้าวหน้ายั่งยืน โดยมุ่งเน้นการนำปัญญาประดิษฐ์ AI Vision มาเพื่อเสริมศักยภาพให้งานวิจัย อาทิเช่น การวิเคราะห์ภาพถ่ายทางการแพทย์ (Medical Imaging) เวชสารสนเทศ (Medical Informatics) เป็นต้น โดยจะร่วมมือกับโรงพยาบาลในเครือของมหาวิทยาลัยมหิดลการพัฒนาด้านการศึกษา ซึ่งจะมุ่งเน้นทำหลักสูตร Reskill / Upskill เพื่อพัฒนากำลังคนในภาคอุตสาหกรรมเป้าหมาย และเตรียมความพร้อมบุคลากรรองรับ Digital Transformation ของภาคอุตสาหกรรมไทยในยุค New Normal คาดว่าจะเริ่มความร่วมมือกับนิคมอุตสาหกรรมในระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) และอื่นๆ ที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศงานวิจัยพัฒนาความก้าวหน้าในอุตสาหกรรมอื่นๆ โดยนำแพลตฟอร์ม AI มาสร้างโมเดล Machine Learning และ Deep Learning เพื่อการวิเคราะห์และติดตามตรวจสอบประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องจักร รวมถึงการตรวจจับชิ้นส่วนที่มีตำหนิในโรงงานผลิต”

จากข้อมูลการศึกษาวิจัยโดยสถาบันการศึกษาคุณค่าทางธุรกิจของไอบีเอ็ม (IBV) พบว่าในอีกสองปีข้างหน้า บุคลากรมากถึง 120 ล้านคนในประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดของโลก 12 ประเทศ อาจจำเป็นต้องได้รับการฝึกฝนทักษะใหม่ๆ และพัฒนาทักษะเดิมเพิ่มเติม อันเป็นผลมาจากการเข้ามามีบทบาทของ AI และ Automation อัจฉริยะ นอกจากนี้ มีซีอีโอของบริษัทต่างๆ ที่อยู่ในการสำรวจเพียงร้อยละ 41 เท่านั้นที่ระบุว่าบริษัทของตนมีบุคลากร ทักษะ และทรัพยากรที่จำเป็นสำหรับการดำเนินงานตามกลยุทธ์ทางธุรกิจของบริษัท โดยการศึกษาวิจัยที่ได้มีการเก็บข้อมูลจากผู้บริหารทั่วโลกกว่า 5,670 คนใน 48 ประเทศ ชี้ให้เห็นถึงความท้าทายที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งต้องอาศัยการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการจัดการปัญหาด้านความต้องการแรงงานในทุกระดับชั้นขององค์กร

ในฐานะองค์กรด้านเทคโนโลยีระดับโลก ทางไอบีเอ็มมองว่าตลาดแรงงานกำลังเปลี่ยนแปลงไปสู่การบริการแบบ Value-Added มากขึ้น และการร่วมมือกับมหาวิทยาลัยมหิดลในครั้งนี้สอดคล้องกับกลยุทธ์ในระยะยาวของไอบีเอ็ม ในแง่การช่วยสร้างทักษะที่จำเป็นเพื่อรองรับการนำเทคโนโลยีล่าสุดเข้ามาใช้ในการปฏิบัติงานจริงในประเทศไทย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘:๓๓ COM7 เดินหน้าเต็มสปีด EV7 ส่งมอบแท็กซี่ไฟฟ้าล็อตแรก ดันเมกะเทรนด์ EV สู่หัวใจเมือง
๑๘:๓๖ GCAP ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ไฟเขียวผ่านฉลุยทุกวาระ พร้อมเดินหน้าแผนธุรกิจขยายสู่กลยุทธ์ Non Lending
๑๘:๔๔ PYLON จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผู้ถือหุ้นไฟเขียวจ่ายปันผล 0.04 บาท/หุ้น
๑๘:๓๙ LDC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 มุ่งเป็นคลินิกทันตกรรมพรีเมียม ในราคาที่เข้าถึงง่าย
๑๘:๑๒ ผู้ถือหุ้น TATG ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.07 บาท/หุ้น ลงทุนเครื่องจักรใหม่เสริมแกร่งสายการผลิต พิชิตเป้ารายได้ 3,000
๑๘:๕๗ ADVICE จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นรูปแบบ Hybrid ประจำปี 2568 ผถห.ไฟเขียวทุกวาระ เคาะแจกปันผล 0.175 บ./หุ้น
๑๘:๓๖ LE ร่วมงานสถาปนิก'68 โชว์นวัตกรรมแสงสว่างอัจฉริยะ เสริมภาพผู้นำ Lighting Solutions Provider
๑๘:๔๖ SELIC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ปี 2568 ผู้ถือหุ้นเห็นชอบทุกวาระ อนุมัติจ่ายปันผล 0.038 บาท/หุ้น เดินหน้า 3 ธุรกิจ
๑๘:๔๙ STA เปิดบ้านต้อนรับภาครัฐ โชว์มาตรฐานรับซื้อยางโปร่งใส เป็นธรรม หนุนรัฐต้านยางเถื่อน
๑๘:๓๕ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จับมือเอกชน ปั้นช่างเชื่อมโกอินเตอร์ รายได้ทะลุ 70,000 บาทต่อเดือน