ครม.เห็นชอบ ลดเงินนำส่งเข้ากองทุนสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ 0.125% ต่อปี

พุธ ๐๑ กรกฎาคม ๒๐๒๐ ๐๘:๑๘
คณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบตามที่ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ นำเสนอผ่านกระทรวงการคลังให้สถาบันการเงินเฉพาะกิจ ลดเงินนำส่งเข้ากองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจ จากเดิมนำส่ง 0.25% ต่อปี ลดลงเหลือ 0.125% ต่อปี ของยอดเงินฝากที่ได้รับจากประชาชนเป็นระยะเวลา 2 ปี ในปี 2563 และ 2564 เพื่อให้สถาบันการเงินของรัฐมีต้นทุนที่ลดลง และนำไปบรรเทาความเดือดร้อนให้ลูกค้าประชาชนได้เพิ่มมากขึ้น หลังจากก่อนหน้านี้ธนาคารแห่งประเทศไทยผ่อนปรนให้ธนาคารพาณิชย์ลด เงินนำส่งเข้ากองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน จาก 0.46% ต่อปี เหลือ 0.23% ต่อปี
ครม.เห็นชอบ ลดเงินนำส่งเข้ากองทุนสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ 0.125% ต่อปี

นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) วันนี้ (30 มิถุนายน 2563) มีมติเห็นชอบตามที่ ธนาคารอาคารสงเคราะห์นำเสนอผ่านกระทรวงการคลัง ให้สถาบันการเงินเฉพาะกิจ ลดเงินนำส่งเข้ากองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจ จากเดิมนำส่ง 0.25% ต่อปี ลดลงเหลือ 0.125% ต่อปี ของยอดเงินฝากที่ได้รับจากประชาชน เป็นระยะเวลา 2 ปี ในปี 2563 และ 2564 เพื่อให้สถาบันการเงินเฉพาะกิจลดต้นทุนทางการเงิน เพิ่มบทบาทในการสนับสนุนภาคธุรกิจและภาคประชาชน ให้มีต้นทุนทางการเงินหรือภาระดอกเบี้ยเงินกู้ที่ลดลง เช่นเดียวกับก่อนหน้านี้ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้ผ่อนปรนให้ธนาคารพาณิชย์ลดเงินนำส่งเข้ากองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (FIDF) จาก 0.46% ต่อปี ลดลงเหลือ 0.23% ต่อปี เป็นระยะเวลา 2 ปี เพื่อลดต้นทุนให้กับธนาคารพาณิชย์ในการนำไปลดอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงให้กับประชาชนและภาคธุรกิจ และหลังจากนี้หากประกาศกระทรวงการคลังในเรื่องดังกล่าวได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาให้มีผลบังคับใช้แล้ว ธอส. ในฐานะสถาบันการเงินเฉพาะกิจที่มีพันธกิจทำให้คนไทยมีบ้าน และเป็นธนาคารบ้านของคนไทย พร้อมที่จะพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลง ในไตรมาสที่ 3 เพื่อช่วยให้ลูกค้าปัจจุบันของธนาคารสามารถลดภาระหนี้เงินต้นคงเหลือได้เร็วขึ้น ส่วนผู้กู้รายใหม่ ก็จะมีโอกาสได้รับวงเงินกู้ที่สูงขึ้นด้วยรายได้สุทธิจำนวนเท่าเดิม

สำหรับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ของ ธอส. ปัจจุบันประกอบด้วย อัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) อยู่ที่ 6.150% ต่อปี อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายใหญ่ชั้นดีประเภทเงินกู้แบบมีระยะเวลา (MLR) อยู่ที่ 5.750% ต่อปี และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายใหญ่ชั้นดีประเภทเงินกู้เบิกเกินบัญชี (MOR) อยู่ที่ 5.900% ต่อปี

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๕:๓๕ อัปเดตล่าสุด กฎหมายแรงงานต่างด้าวฉบับใหม่ต้องรู้ 2567
๑๕:๑๐ อมาโด้ (amado) ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดคอลลาเจน คว้า 2 รางวัล จากเวทีธุรกิจ 2024 Thailand's Most Admired Brand (ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4) และรางวัล Brand Maker Award
๑๕:๒๒ ไฟ-ฟ้า โดย ทีทีบี เติมฝันเด็กไฟ-ฟ้า ผ่านโชว์ Cover Dance คว้า 2 รางวัล จุดประกายศักยภาพและสร้างแรงบันดาลใจมุ่งมั่นสู่เป้าหมายที่สำคัญ
๑๕:๑๒ วว. / สสว. นำ วทน. พัฒนาขีดความสามารถการแข่งขัน SMEs จัดอบรมพัฒนาสร้างมูลค่าเพิ่มผลิตภัณฑ์ด้วยบรรจุภัณฑ์ ฟรี
๑๓:๕๐ เถ้าแก่น้อย ครองใจผู้บริโภคคว้า 'แบรนด์ที่ผู้บริโภคชื่นชอบที่สุด' จากผลสำรวจ Thailand's Most Admired Brand
๑๓:๓๘ Bose-Backed สมาร์ทวอทช์แบรนด์ Noise เปิดตัวในไทยบน Shopee และ Lazada
๑๒:๑๗ TIDLOR ปลื้ม! หุ้นกู้ 3 ชุดใหม่ มูลค่า 4,000 ลบ. ขายหมดเกลี้ยง ขอบคุณนักลงทุนที่ร่วมสร้างผลตอบแทน พร้อมกับสร้างการเติบโตให้ธุรกิจไปด้วยกัน
๑๒:๔๗ แอล.พี.เอ็น. เปิดโมเดลซัพพอร์ทคนอยากมีบ้าน เจาะกลุ่มเรียลดีมานด์ที่อยู่อาศัย ไม่เกิน 3 ล้าน ผุดแคมเปญ 'LPN ดูแลให้' และ 'LPN
๑๒:๓๗ สิทธิพิเศษสำหรับลูกค้า 'Redmi Note 13 Series' ให้คุณกดบัตรคอนเสิร์ต '2023-2024 BamBam THE 1ST WORLD TOUR ENCORE [AREA 52] in BANGKOK Presented by Xiaomi' รอบ
๑๒:๐๘ กรมโยธาฯ ใช้มาตรการเด็ดขาด ยกเลิกสัญญาจ้างงานที่ล่าช้าสร้างความเดือดร้อนประชาชน