นายชาตรี วัฒนเขจร ผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม กทม. กล่าวตามที่สื่อมวลชนเสนอข่าว กทม.เลื่อนเก็บค่าธรรมเนียมขยะอัตราใหม่ 80 บาท/เดือน ออกไปอีก 1 ปี จากเดิมวันที่ 1 ต.ค. 63 เป็นวันที่ 1 ต.ค. 64 โดยมีผู้แสดงความคิดเห็น ระบุค่าธรรมเนียมที่จัดเก็บเพิ่มขึ้นดังกล่าว กทม. ควรนำไปใช้พัฒนาการบริหารจัดการขยะว่า ที่ผ่านมากรุงเทพมหานครได้สร้างความเข้าใจการจัดเก็บค่าธรรมเนียมเก็บขนมูลฝอยอัตราใหม่มาอย่างต่อเนื่อง ด้วยการจัดเจ้าหน้าที่แจกแผ่นพับ การติดป้ายประชาสัมพันธ์ การชี้แจงผ่านช่องทางสื่อต่าง ๆ เช่น โทรทัศน์และสื่อออนไลน์ โดยมุ่งเน้นให้ประชาชนเข้าใจถึงข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง ค่าธรรมเนียมการให้บริการในการจัดการสิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอยตามกฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุข พ.ศ.2562 ที่ได้ปรับเพิ่มอัตราค่าธรรมเนียมเก็บขน จาก 20 บาท/เดือน เป็น 40 บาท/เดือน และกำหนดค่ากำจัด 40 บาท/เดือน รวมเป็น 80 บาท/เดือน คิดเป็นร้อยละ 35 ของค่าใช้จ่าย ซึ่งยังไม่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายที่แท้จริงและต่ำกว่าอัตราค่าธรรมเนียมตามที่กฎหมายการสาธารณสุขกำหนด และเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 กรุงเทพมหานครจึงได้ออกข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง ค่าธรรมเนียมฯ (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2563 เพื่อขยายการจัดเก็บค่าธรรมเนียมในอัตราเดิม 20 บาท/เดือน จนถึงวันที่ 30 ก.ย. 64 ขณะเดียวกันกรุงเทพมหานครได้รณรงค์ขอความร่วมมือประชาชนให้ลดและคัดแยกมูลฝอย แบ่งเป็น 4 ประเภท ได้แก่ มูลฝอยเศษอาหาร มูลฝอยรีไซเคิล มูลฝอยอันตรายจากชุมชน และมูลฝอยทั่วไป ก่อนนำไปทิ้งในพื้นที่ที่กำหนด ขณะเดียวกันได้ออกแบบรถเก็บขนมูลฝอยให้มีช่องสำหรับรองรับมูลฝอยแยกประเภท บริเวณช่องว่างหลังคนขับเป็น 2 ส่วน ได้แก่ ช่องสีเหลืองสำหรับรองรับมูลฝอยรีไซเคิล และช่องสีส้มสำหรับรองรับมูลฝอยอันตรายจากชุมชน สำหรับด้านบริเวณท้ายรถ ซึ่งเป็นระบบอัดจะใช้สำหรับรองรับมูลฝอยทั่วไป ส่วนมูลฝอยอินทรีย์ เช่น เศษอาหาร กิ่งไม้ใบไม้ ได้รณรงค์ให้ประชาชนแปรรูปเป็นปุ๋ยหมักหรือน้ำหมักชีวภาพ เพื่อใช้ในครัวเรือน สำหรับมูลฝอยกลุ่มพิเศษ ได้แก่ มูลฝอยชิ้นใหญ่ เช่น เฟอร์นิเจอร์ เครื่องเรือนเก่า ได้กำหนดให้บริการจัดเก็บขยะจากประชาชนในวันเสาร์หรือวันอาทิตย์ตามประกาศสำนักงานเขต โดยแจ้งให้ประชาชนในพื้นที่รับทราบล่วงหน้า แล้วรวบรวมนำมาทิ้งในสถานที่ตามวันเวลาที่กำหนด ป้องกันการลักลอบทิ้งมูลฝอยในที่สาธารณะและป้องกันการทิ้งลงแหล่งน้ำ ซึ่งจะทำให้ทางระบายน้ำอุดตัน กีดขวางทางน้ำไหลและก่อให้เกิดปัญหาน้ำท่วม รวมถึงเพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการลดและคัดแยกมูลฝอยที่ต้นทาง ตลอดจนส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า