เกษตรฯ สั่ง Fruit Board ประชุมเยียวยาชาวสวนลำไย ปี’63 เสนอ ครม.วงเงินกว่า 3 พันล้านบาท

ศุกร์ ๑๔ สิงหาคม ๒๐๒๐ ๑๔:๕๘
นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ (Fruit Board) ครั้งที่ 6/2563 (วันที่ 13 สิงหาคม 2563) ณ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ว่า ได้รับมอบหมายจาก ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งมีความเป็นห่วงจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และสถานการณ์ผลผลิตลำไยภาคเหนือและภาคตะวันออกในปีนี้มีการเก็บเกี่ยวในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน เนื่องมาจากสภาพอากาศที่ร้อนผิดปกติอุณหภูมิสูงอย่างต่อเนื่องสลับกับอากาศที่หนาวเย็นฉับพลันในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ได้ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรชาวสวนลำไยหลายประการ ประกอบด้วย 1) ธุรกิจการนำเข้าลำไยไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีนชะลอตัวลง จากนโยบายของรัฐบาลที่ส่งเสริมการปลูกลำไยในประเทศมากขึ้นจากเดิม 2 ล้านไร่เป็น 10 ล้านไร่ในปัจจุบัน และยังมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง 2) การขาดแคลนแรงงานต่างด้าวที่เป็นแรงงานฝีมือเฉพาะในการเก็บเกี่ยว คัดแยก บรรจุหีบห่อ ทำให้เกษตรกรต้องจ้างแรงงานในประเทศมาทดแทนซึ่งมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง 3) การคมนาคมขนส่งทางบกหรือทางน้ำในเส้นทางปกติยังมีค่าใช้จ่ายเท่าเดิม และใช้เวลาในการขนส่งนานเพราะด่านการค้าชายแดนเพิ่งเริ่มผ่อนคลาย ในขณะที่ลำไยเริ่มสุกแก่เต็มที่ เกษตรกรต้องเร่งระบายผลผลิต และ 4) ผู้ประกอบการชาวจีนซึ่งเป็นตลาดรับซื้อลำไยอันดับ 1 ยังไม่สามารถเดินทางมาซื้อขายลำไยได้โดยสะดวก หรือมีการค้าล่วงหน้าเพื่อประกันความเสี่ยงให้แก่เกษตรกรได้เหมือนอย่างเช่นฤดูกาลผลิตที่ผ่านมา เห็นได้ว่าลำไยเป็นไม้ผลที่ลักษณะการบริหารจัดการแบบจำเพาะแตกต่างจากไม้ผลชนิดอื่น
เกษตรฯ สั่ง Fruit Board ประชุมเยียวยาชาวสวนลำไย ปี63 เสนอ ครม.วงเงินกว่า 3 พันล้านบาท

จากสถานการณ์ดังกล่าว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ (Fruit Board) ได้พิจารณาและมีมติเห็นชอบโครงการเยียวยาเกษตรกรชาวสวนลำไย ปี 2563 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนลำไยให้สามารถฟื้นฟูการผลิตลำไยที่ได้รับผลกระทบทั้งด้านการผลิตและการตลาด รวมทั้งส่งเสริมและสนับสนุนให้เกษตรกรมีแนวทางปฏิบัติต่อสวนลำไยเพื่อประกอบอาชีพชาวสวนลำไยได้อย่างยั่งยืน ซึ่งมีเป้าหมายช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนลำไย ปี 2562/2563 ที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรกับกรมส่งเสริมการเกษตรทุกครัวเรือน โดยให้ความช่วยเหลือในอัตราไร่ละ 2,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 25 ไร่ และเป็นพื้นที่ลำไยที่ให้ผลผลิตแล้ว (อายุต้นลำไยตั้งแต่ 5 ปี ขึ้นไป)

ด้านนายทวี มาสขาว รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า เบื้องต้นกรมส่งเสริมการเกษตรได้สำรวจข้อมูลเกษตรกรชาวสวนลำไย ปี 2562/2563 โดยใช้ฐานข้อมูลทะเบียนเกษตรกรชาวสวนลำไยทั้งหมด ณ วันที่ 30 เมษายน 2563 พบว่า มีครัวเรือนเกษตรกรชาวสวนลำไยทั้งประเทศทั้งสิ้นประมาณ 128,099 ครัวเรือน เนื้อที่ปลูก 871,716 ไร่ ทั้งนี้ มีเกษตรกรมาขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรกับกรมส่งเสริมการเกษตรแล้วประมาณร้อยละ 80 ยังเหลืออีกร้อยละ 20 ซึ่งจะเร่งสำรวจข้อมูลให้เป็นปัจจุบันพร้อมทั้งดำเนินการสรุปและส่งข้อมูลเกษตรกรชาวสวนลำไย ปี 2562/63 ที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรกับกรมส่งเสริมการเกษตรทุกครัวเรือน ส่งให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สำนักงานใหญ่ เพื่อดำเนินการจ่ายเงินให้เกษตรกร ซึ่งกรมส่งเสริมการเกษตร ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงมหาดไทย บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะประชาสัมพันธ์โครงการ รวมทั้งชี้แจงให้เกษตรกรทราบ โดยผู้มีสิทธิ์ต้องเป็นเกษตรกรชาวสวนลำไยที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรปี 2562/63 กับกรมส่งเสริมการเกษตรภายในวันที่ 15 กันยายน 2563 ระยะเวลาดำเนินการตั้งแต่เดือนสิงหาคมถึงเดือนธันวาคม 2563 คาดว่าจะใช้งบประมาณทั้งสิ้นเป็นเงิน 3,440,049,726 บาท ก่อนเตรียมเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีต่อไป

สำหรับสถานการณ์การผลิตด้านปริมาณ (ข้อมูล ณ วันที่ 9 มิ.ย. - 11 ส.ค. 2563) ข้อมูลประมาณการผลผลิตลำไยในฤดูทั้งหมด 386,065 ตัน แบ่งเป็น ลำไยสดช่อ จำนวน 99,890 ตัน ลำไยรูดร่วง จำนวน 286,175 ตัน เก็บเกี่ยวผลผลิตลำไยในฤดูแล้ว (ข้อมูล ณ วันที่ 11 ส.ค. 2563) จำนวน 238,393.55 ตัน คิดเป็นร้อยละ 61.75 แบ่งเป็น ลำไยสดช่อ 75,713.75 ตัน หรือร้อยละ 31.76 และลำไยรูดร่วง 162,679.80 ตัน หรือร้อยละ 68.24 โดยราคาลำไยสดช่อ เกรด AA อยู่ที่ 31 บาท/กิโลกรัม เกรด A ราคา 24.88 บาท/กิโลกรัม เกรด B ราคา 20.77 บาท/กิโลกรัม เกรด C ราคา 7.94 บาท/กิโลกรัม และเกรด AA+A เกรดคละรวมอยู่ที่ 26.89 และ 18.15 บาท/กิโลกรัม ส่วนราคาลำไยรูดร่วง เกรด AA อยู่ที่ 17.72 บาท/กิโลกรัม เกรด A ราคา 10.69 บาท/กิโลกรัม เกรด B ราคา 4.78 บาท/กิโลกรัม และเกรด C ราคา 1 บาท/กิโลกรัม ทั้งนี้ จากผลการสำรวจข้อมูลเกษตรกรผู้ปลูกลำไยทั้งหมดที่ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตร เมื่อปี 2562 พบว่า ขนาดพื้นที่ปลูกลำไยน้อยกว่าหรือเท่ากับ 5 ไร่ มีจำนวน 121,475.71 ครัวเรือน (ร้อยละ 61.77) พื้นที่ปลูกมากกว่า 5 – 10 ไร่ จำนวน 41,236.47 ครัวเรือน (ร้อยละ 20.97) พื้นที่ปลูกมากกว่า 10 – 15 ไร่ จำนวน 15,252.01 ครัวเรือน (ร้อยละ 7.76) พื้นที่ปลูกมากกว่า 15 – 20 ไร่ จำนวน 7,640.59 ครัวเรือน (ร้อยละ 3.89) พื้นที่ปลูกมากกว่า 20 – 25 ไร่ จำนวน 3,682.90 ครัวเรือน (ร้อยละ 1.87) และพื้นที่ปลูกมากกว่า 25 ไร่ จำนวน 7,367.33 ครัวเรือน (ร้อยละ 3.75)

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๔ พ.ค. Siriraj Education Expo 2024 ก้าวสู่ยุคใหม่ไปกับศิริราช พร้อมยกระดับทางการแพทย์ให้ดีขึ้น เพื่อสุขภาวะที่ดีของคนไทยทุกคน
๐๓ พ.ค. ครั้งแรก! งานเทศกาลคอนเทนต์ LGBTQ ฉลองความเท่าเทียมทางเพศ THAILAND INTERNATIONAL LGBTQ FILM TV FESTIVAL 2024 ปักหมุดเตรียมพบกัน กันยายนนี้
๐๓ พ.ค. โน วัน เอลส์ ส่ง 3 เพลงรัก 3 สไตล์! ผ่านมิวสิกซี่รีย์ ที่จะทำให้คุณเข้าใจความรักมากขึ้น
๐๓ พ.ค. ทีซีเอ็มซีมอบรางวัลประกวดการออกแบบผลงานด้านผลิตภัณฑ์อคูสติกส์
๐๓ พ.ค. GT Auto ฉลองแชมป์ยอดขาย Volvo จัดงาน มหกรรม GT Auto Show ลดสูงสุด 1,000,000 บาท พร้อมชูบริการ GT Auto Exclusive Service
๐๓ พ.ค. กทม. เตรียมพร้อมให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเสี่ยงและนักเรียนในสังกัด
๐๓ พ.ค. กรมส่งเสริมการเกษตร ประชุมคณะทำงานความร่วมมือด้านการรับรองแหล่งผลิตพืชฯ (GAP พืช) ครั้งที่ 1/2567
๐๓ พ.ค. First Sale! realme 12 5G และ realme 12X 5G สัมผัสประสบการณ์ Portrait Master กับกล้องซูม 3X in sensor
๐๓ พ.ค. CRYSTALLIZING ใหม่! โดย SHISEIDO PROFESSIONAL อัปเกรดกลุ่มผลิตภัณฑ์ยืด-ดัดผม ชูเทคโนโลยีสุดล้ำ DUAL PERFORMANCE SYSTEM
๐๓ พ.ค. บัลเลต์ รีทรีต บนเกาะมัลดีฟส์ กลับมาอีกครั้ง ที่ อวานี พลัส แฟเรส โดย คาร์ริส สการ์เลต นักเต้นบัลเลต์ชื่อดัง