"สำหรับปัญหาใต้ตาคล้ำ ก็ต้องแบ่งสาเหตุเป็น 3 อย่างครับ คือ 1. ใต้ตาคล้ำจากมีเม็ดสีเพิ่มขึ้น ซึ่งมักจะเจอในท่านที่เป็นภูมิแพ้ ขยี้ตาบ่อย ๆ 2. ใต้ตาคล้ำจากเส้นเลือดรอบ ๆ ตาที่ขยายตัวเยอะ จะเห็นเป็นสีม่วง ๆ อมชมพู มักเจอในคนที่อดนอน นอนดึก และ 3. คือใต้ตาคล้ำจากการที่ไขมันบริเวณใต้ตาหายไปในอายุที่เพิ่มขึ้น หรือบางคนก็เป็นจากเบ้าตา จากรูปกระดูกตามกรรมพันธ์ครับ"
แล้วจะแยกได้ยังไงคะว่าของเราเป็นแบบไหน "การให้แพทย์ตรวจก็น่าจะดีที่สุดครับ แต่เบื้องต้นสำหรับท่านที่อยู่ทางบ้านก็อาจจะใช้วิธีตรวจตัวเองง่าย ๆ โดยใช้ไฟฉายส่องดูก็ได้ครับ ถ้าเอาไฟฉายส่องที่ใต้ตาตรง ๆ แล้วรอยคล้ำดีขึ้น ก็แสดงว่าน่าจะเป็นจากกรณีที่สาม นั่นคือมีร่องใต้ตาจากรูปกระดูกหรือไขมันที่หายครับ กรณีนี้ สามารถใช้ฟิลเลอร์หรือสารเติมเต็ม ฉีดเพื่อให้ร่องดีขึ้น เวลาแสงสาดจากด้านบนก็จะไม่เกิดร่องดำ ๆ ครับ"
"ส่วนในท่านที่ส่องไฟแล้วก็ดูใต้ตาคล้ำเหมือนเดิม ก็ต้องแก้ที่สาเหตุง่ายๆก่อนครับ เช่นการลดอาหารเค็มที่ทำให้ตาบวม เลี่ยงการขยี้ตา รักษาอาการภูมิแพ้ และอาจจะปรึกษาแพทย์ เพื่อใช้ยา หรือเลเซอร์ในการช่วยรักษาครับ ซึ่งก็จะช่วยให้รอยจากลงได้ แต่ก็ต้องบอกว่ารักษาค่อนข้างยาก เมื่อเทียบกับกรณีที่สามครับ"
เมื่อถามถึงอันตรายจากฟิลเลอร์ คุณหมอนัยก็ให้ความเห็นดังนี้ค่ะ " จริง ๆ แล้วตัวยาฟิลเลอร์นั้นปลอดภัยมาก เป็นยาที่เลียนแบบสารในผิวเรา สามารถย่อยสลายได้เองโดยไม่ตกค้าง แต่ก็ต้องเป็นฟิลเลอร์แท้ที่ผ่าน อย.นะครับ ถ้าจากข่าวที่เห็นว่าฉีดฟิลเลอร์แล้วมีปัญหา ก็มักจะเกิดจากการใช้ยาที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือฉีดในตำแหน่งที่มีความเสี่ยงต่อเส้นเลือดมาก ๆ เช่น จมูก หรือบริเวณขมวดคิ้ว สำหรับบริเวณใต้ตา ต้องบอกว่าความเสี่ยงน้อย ถ้าฉีดโดยแพทย์ที่เชี่ยวชาญครับ"
"ฟิลเลอร์ที่ใช้ฉีดใต้ตา จะมีทั้งชนิดแข็งและนิ่มครับ ระยะเวลาอยู่ได้นานตั้งแต่ 6 เดือน - 1ปีครึ่ง เลยครับ ส่วนจะใช้แบบไหนก็ขึ้นกับปัญหาของคนไข้ครับ"
แล้วถ้าให้คุณหมอเทียบระหว่างฟิลเลอร์ กับการใช้ครีมแพง ๆ ทาใต้ตาล่ะคะ
"ครีมดี ๆ แพง ๆ หมอก็เคยลองเหมือนกันครับ (หัวเราะ) แต่ต้องบอกเลยว่า ครีมช่วยได้น้อยมาก ในกรณีที่ปัญหาเกิดจากร่องกระดูก จากอายุที่เพิ่มขึ้น การฉีดฟิลเลอร์มันก็แก้ที่ต้นเหตุ ทำแล้วเห็นผลเลย บวมนิดหน่อยแค่ 4-5 วัน ซึ่งครีมไหน ๆ ก็ทำให้ไม่ได้แน่นอนครับ"
"ปัญหาใต้ตาคล้ำ หลาย ๆ ท่านแก้ด้วยฟิลเลอร์แล้วก็ให้ผลลัพธ์ที่ดีมากครับ สำคัญที่สุดคือการเลือกใช้ยาที่ดี มี อย. และแพทย์ที่ฉีดต้องมีความเชี่ยวชาญครับ"
สำหรับท่านใดที่อ่านบทความแล้วยังมีข้อสงสัยอยู่ คุณหมอยินดีให้คำปรึกษาเลยค่ะ โดยติดต่อไปที่ Line : @p9clinic หรือ Facebook : P9 Clinic ได้เลยค่ะ