กูรูทิสโก้ชี้ ความไม่แน่นอนเลือกตั้งสหรัฐฯ กดดันตลาดหุ้นทั่วโลกในช่วง 2-3 เดือนข้างหน้า

จันทร์ ๒๔ สิงหาคม ๒๐๒๐ ๑๕:๓๖
ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ชี้ ความไม่แน่นอนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะกดดันหุ้นสหรัฐฯ และทั่วโลกช่วง 2-3 เดือนข้างหน้า แม้คะแนนนายไบเดนจะนำทรัมป์อยู่มาก แต่อาจพลิกโผได้ พร้อมคาดหากพรรคใดกุมอำนาจเบ็ดเสร็จได้ทั้งทำเนียบขาว และสภาฯ ตลาดหุ้นอาจปรับตัวลง
กูรูทิสโก้ชี้ ความไม่แน่นอนเลือกตั้งสหรัฐฯ กดดันตลาดหุ้นทั่วโลกในช่วง 2-3 เดือนข้างหน้า

นายคมศร ประกอบผล หัวหน้าศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ (Mr.Komsorn Prakobphol, Head of Economic Strategy Unit, TISCO Economic Strategy Unit : TISCO ESU) เปิดเผยว่า ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้คาดว่า ในช่วง 2-3 เดือนข้างหน้าตลาดหุ้นสหรัฐฯ (S&P 500) น่าจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบรับข่าวความไม่แน่นอนจากการเลือกตั้งสหรัฐฯ ที่จะมีขึ้นในวันที่ 3 พฤศจิกายน 2563 นี้ เพราะจากการเก็บสถิติตั้งแต่ปี 2495 พบว่า ในช่วง 2-3 เดือนก่อนวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ มักจะซื้อขายด้วยความระมัดระวังและเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบมาโดยตลอด

สำหรับสถานการณ์การเลือกตั้งสหรัฐฯ ในปัจจุบันนั้น พบว่าปัจจุบันคะแนนความนิยมของนายโจ ไบเดน ผู้ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครตขึ้นนำนายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกันที่ประมาณ 7 จุด โดยในช่วงเดือนมิถุนายน 2563 คะแนนความนิยมของนายโจ ไบเดน เคยนำนายโดนัลด์ ทรัมป์ ขึ้นไปทำจุดสูงที่สุดประมาณ 10 จุด ท่ามกลางกระแสการประท้วงต่อต้านการเหยียดสีผิวและความล้มเหลวในการควบคุมการระบาดของโรค COVID-19 ของรัฐบาล

อย่างไรก็ตาม แม้คะแนนนายโจ ไบเดนจะนำนายโดนัลด์ ทรัมป์อยู่ค่อนข้างห่าง แต่ก็ยังไม่สามารถฟันธงหรือไว้วางใจได้ว่านายโจ ไบเดนจะสามารถชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีในครั้งนี้ เพราะในการเลือกตั้งครั้งก่อนที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2559 นางฮิลลารี คลินตัน ก็มีคะแนนนำประธานาธิบดีโดนัล ทรัมป์ที่ระดับนี้เช่นกัน แต่กลับแพ้การเลือกตั้งไปในท้ายที่สุด ซึ่งทำให้ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้มองว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ และตลาดหุ้นทั่วโลกจะผันผวนไปจนกว่าผลการเลือกตั้งจะมีความชัดเจนมากกว่านี้

นายคมศรกล่าวอีกว่า จากการเก็บสถิติยังพบว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะให้ผลตอบแทนต่ำอย่างชัดเจน หากพรรคใดพรรคหนึ่งกุมอำนาจเบ็ดเสร็จโดยได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดี และได้รับเสียงข้างมากในรัฐสภา (Congress) ซึ่งนักวิเคราะห์บางส่วนให้เหตุผลว่าการที่ประธานาธิบดีมีอำนาจในการควบคุมรัฐสภา ทำให้ขาดกลไกในการคานอำนาจ และทำให้กฎหมายผ่านรัฐสภาโดยไม่มีการกลั่นกรองอย่างเพียงพอ จึงทำให้ตลาดให้ผลตอบแทนต่ำกว่าในกรณีที่ประธานาธิบดีมาจากพรรคเสียงข้างน้อยในรัฐสภาใดสภาหนึ่งอย่างเห็นได้ชัด

ดังนั้น หากนายโจ ไบเดนได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง พร้อมกับพรรคเดโมแครตสามารถแย่งชิงเสียงข้างมากในรัฐสภาได้สำเร็จ ตลาดหุ้นก็อาจตอบรับในเชิงลบ เพราะนายโจ ไบเดน อาจจะเดินหน้านโยบายสนับสนุนให้ขึ้นภาษีนิติบุคคล เป็น 28% จากปัจจุบันที่ 21% นอกจากนี้ ยังมีนโยบายเพิ่มภาษีจากกำไรจากการลงทุน (Capital Gains Tax) และสนับสนุนนโยบายป้องกันการผูกขาดของบริษัท เช่น เสนอให้กำหนดภาษีขั้นต่ำกับบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่อย่างเช่น Amazon อีกด้วย ซึ่งจะเป็นแรงกดดันต่อตลาดหุ้นและสร้างผลลบต่อกำไรของบริษัทจดทะเบียนต่างๆ

แต่ในทางกลับกันความขัดแย้งด้านการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนอาจลดความตึงเครียดลง เนื่องจากนายโจ ไบเดน มีท่าทีสนับสนุนความร่วมมือทางการค้าระหว่างประเทศ และน่าจะหลีกเลี่ยงการใช้วิธีที่รุนแรงอย่างการขึ้นภาษีนำเข้า (Tariffs) และนโยบายกีดกันทางการค้าเหมือนที่ผ่านมา ก็น่าจะส่งผลบวกต่อตลาดหุ้นจีนและเอเชียโดยรวมเช่นกัน

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๐ เม.ย. มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ตอกย้ำปณิธาน สร้างชีวิต มอบเครื่องเล่นสนาม อุปกรณ์ครุภัณฑ์ พร้อมเครื่องอุปโภคบริโภคแก่เด็กนักเรียนในส่วนภูมิภาค ณ โรงเรียนวัดนาร่อง อ.เมือง
๓๐ เม.ย. เฮงลิสซิ่ง จับมือ วิริยะประกันภัย เสนอ ประกันภัยอุ่นใจ ทางเลือกใหม่สำหรับประกันภัยคุ้มครองบ้าน
๓๐ เม.ย. ม.วลัยลักษณ์-สมาคมกีฬาตะกร้ออาวุโส-สมาคมกีฬา จ.นครศรีฯ เอ็มโอยูเตรียมระเบิดศึกตะกร้อเยาวชนฮอนด้า ยูเนี่ยน
๓๐ เม.ย. หลักสูตรการประยุกต์ใช้ NODE-RED ในงานอุตสาหกรรม เชื่อมต่อ CLOUD PLATFORM NEXIIOT
๓๐ เม.ย. ม.วลัยลักษณ์ คว้า 2 รางวัลระดับโลก 3G Award 2024
๓๐ เม.ย. YouTrip เปิดอินไซต์ช่วงหยุดยาวคนไทยแห่เที่ยว ญี่ปุ่น-จีน ยอดใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 150%
๓๐ เม.ย. คณะการท่องเที่ยวฯ DPU ให้ความสำคัญต่องานบริการ จัด HT Makeup Competition 2024 เพิ่มทักษะแต่งหน้าให้กับ นศ.
๓๐ เม.ย. กิจกรรมดี ๆ สำหรับเยาวชนหญิงที่หลงใหลศิลปะการทำอาหาร ในโครงการ Women for Women (WFM) Internship Program ร่วมฝึกงานในร้านอาหารโพทง
๓๐ เม.ย. ผู้ถือหุ้น CIVIL โหวตอนุมัติ จ่ายปันผล 0.012 บาท/หุ้น ทิศทางธุรกิจปี 67 เติบโตต่อเนื่อง
๓๐ เม.ย. PRM จัดประชุม E-AGM ปี 67 อนุมัติจ่ายปันผล 0.26บ./หุ้น