สศก.สร้างความร่วมมือ FAO ประยุกต์ข้อมูลสภาพภูมิอากาศสร้างภูมิคุ้มกันภาคเกษตรและความมั่นคงอาหารของไทย

จันทร์ ๓๑ สิงหาคม ๒๐๒๐ ๑๓:๓๐
นางสาวทัศนีย์ เมืองแก้ว รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงการประชุมเชิงปฏิบัติการเรื่อง “Strengthening inter-agency collaborative climate services for resilient agri-food systems in Thailand” หรือ การสร้างความเข้มแข็งในการดำเนินงานระหว่างหน่วยงานเรื่องการให้บริการด้านภูมิอากาศ อันเป็นการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่าง FAO และรัฐบาลไทยในการประยุกต์ใช้ข้อมูลทางด้านสภาพภูมิอากาศกับภาคเกษตรและความมั่นคงอาหาร รวมทั้งสร้างภูมิคุ้มกันต่อระบบเกษตรและความมั่นคงอาหารของไทย ซึ่งจัดโดยกรมอุตุนิยมวิทยาและองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (Food and Agriculture Organization of the United Nations: FAO) เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2563 ณ กรมอุตุนิยมวิทยา ซึ่ง สศก. ได้เข้าร่วมการประชุมดังกล่าว ร่วมกับสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ

ที่ประชุมมีการแลกเปลี่ยนการดำเนินงานด้านภูมิอากาศจากหน่วยที่เกี่ยวข้อง อาทิ การนำข้อมูลทางด้านสภาพภูมิอากาศมาประยุกต์ใช้เพื่อการเกษตรที่ยั่งยืน การจัดทำระบบเตือนภัยล่วงหน้าด้านการเกษตร การพยากรณ์ทางการเกษตร การจัดระบบโซนนิ่งและแบบจำลองทางเกษตรหรือ Modeling System for Agricultural Impacts of Climate Change (MOSAICC) การให้บริการข้อมูลสภาพภูมิอากาศทางด้านการเกษตร หรือ อุตุนิยมวิทยาเพื่อการเกษตร รวมทั้งการพยากรณ์อากาศเพื่อพืชและสัตว์เศรษฐกิจและสถานการณ์ภัยแล้ง การใช้ดาวเทียมในการติดตามภัยพิบัติทางธรรมชาติอันเกิดจากสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงสาเหตุหลักของภัยพิบัติด้านการเกษตรของประเทศไทย เช่น น้ำท่วมและภัยแล้ง และการนำเสนอแนวทางการวางแผนและบริหารจัดการน้ำเพื่อการเกษตร การให้บริการข้อมูลสถานการณ์น้ำเพื่อใช้ในการเกษตร รวมทั้ง ในกรณีที่เกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติอันเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

โอกาสนี้ สศก. ได้นำเสนอการดำเนินงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เพื่อรับมือจากผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ในการเตรียมความพร้อม การรับมือและการช่วยเหลือเกษตรกรจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ อันเกิดจากสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลง เช่น การจ่ายเงินชดเชยความเสียหายจากภัยพิบัติ การจัดเตรียมเสบียงสัตว์และอพยพสัตว์ ซึ่งเป็นการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการด้านการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศภาคเกษตร นอกจากนี้ ข้อมูลด้านภูมิอากาศเป็นปัจจัยสำคัญประการหนึ่งที่ช่วยลดผลกระทบที่เกิดกับการผลิตทางการเกษตร ทั้งพืช สัตว์ ประมง ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรฯ มอบหมาย สศก. เป็นผู้ดำเนินการหลักในการจัดทำ Big Data พร้อมกับดำเนินการจัดตั้งศูนย์ข้อมูลเกษตรแห่งชาติ (National Agricultural Big Data Center) หรือ NABC ซึ่งเปิดให้บริการมาตั้งแต่เดือน มีนาคม 2563 ซึ่งปัจจุบัน สศก. ได้บูรณาการข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง รวมถึงศึกษาและพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อเป็นเครื่องมือในการวิเคราะห์ พยากรณ์ สนับสนุนการตัดสินใจด้านการเกษตร และอยู่ระหว่างการพัฒนาระบบการพยากรณ์และเตือนภัยด้านการเกษตร โดยนำข้อมูลด้านสภาพภูมิอากาศด้านการเกษตร และความเสียหายจากภัยพิบัติทางธรรมชาติที่ส่งผลต่อพื้นที่การเกษตรที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาต่างๆ ในอดีต เป็นองค์ประกอบสำคัญสำหรับการพยากรณ์และเตือนภัยทางการเกษตร เพื่อเตรียมการรองรับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่อาจส่งผลต่อผลผลิตทางการเกษตร และเป็นประโยชน์ต่อการบริหารจัดการความมั่นคงด้านอาหารได้เป็นอย่างดี

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๐ เม.ย. COM7 เดินหน้าเต็มสปีด EV7 ส่งมอบแท็กซี่ไฟฟ้าล็อตแรก ดันเมกะเทรนด์ EV สู่หัวใจเมือง
๓๐ เม.ย. GCAP ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ไฟเขียวผ่านฉลุยทุกวาระ พร้อมเดินหน้าแผนธุรกิจขยายสู่กลยุทธ์ Non Lending
๓๐ เม.ย. PYLON จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผู้ถือหุ้นไฟเขียวจ่ายปันผล 0.04 บาท/หุ้น
๓๐ เม.ย. LDC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 มุ่งเป็นคลินิกทันตกรรมพรีเมียม ในราคาที่เข้าถึงง่าย
๓๐ เม.ย. ผู้ถือหุ้น TATG ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.07 บาท/หุ้น ลงทุนเครื่องจักรใหม่เสริมแกร่งสายการผลิต พิชิตเป้ารายได้ 3,000
๓๐ เม.ย. ADVICE จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นรูปแบบ Hybrid ประจำปี 2568 ผถห.ไฟเขียวทุกวาระ เคาะแจกปันผล 0.175 บ./หุ้น
๓๐ เม.ย. LE ร่วมงานสถาปนิก'68 โชว์นวัตกรรมแสงสว่างอัจฉริยะ เสริมภาพผู้นำ Lighting Solutions Provider
๓๐ เม.ย. SELIC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ปี 2568 ผู้ถือหุ้นเห็นชอบทุกวาระ อนุมัติจ่ายปันผล 0.038 บาท/หุ้น เดินหน้า 3 ธุรกิจ
๓๐ เม.ย. STA เปิดบ้านต้อนรับภาครัฐ โชว์มาตรฐานรับซื้อยางโปร่งใส เป็นธรรม หนุนรัฐต้านยางเถื่อน
๓๐ เม.ย. กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จับมือเอกชน ปั้นช่างเชื่อมโกอินเตอร์ รายได้ทะลุ 70,000 บาทต่อเดือน