ดันน์ฮัมบี้เผยผลรายงานดัชนีวัดความพึงพอใจในกลุ่มห้างค้าปลีกไทย (RPI) ที่จัดทำขึ้นเป็นครั้งแรก

อังคาร ๑๕ กันยายน ๒๐๒๐ ๑๗:๑๓
ดันน์ฮัมบี้เผยผลรายงานดัชนีวัดความพึงพอใจในกลุ่มห้างค้าปลีกไทย (RPI) ที่จัดทำขึ้นเป็นครั้งแรก เซเว่น อีเลฟเว่น ติดอันดับผู้นำตลาดสินค้าเพื่อความงามและผลิตภัณฑ์การดูแลตนเองในประเทศไทย แต่ผู้ค้าปลีกรายอื่น เช่น เทสโก้และวัตสันก็ไม่ได้ทิ้งห่างและพร้อมที่จะเลื่อนอันดับได้ทุกเมื่อ
ดันน์ฮัมบี้เผยผลรายงานดัชนีวัดความพึงพอใจในกลุ่มห้างค้าปลีกไทย (RPI) ที่จัดทำขึ้นเป็นครั้งแรก

ความสะดวกสบายและความสะอาด คือปัจจัยชี้วัดความพึงพอใจในผู้ค้าปลีกที่สำคัญที่สุดเป็นอันดับต้นๆ สำหรับสินค้ากลุ่มความงามและผลิตภัณฑ์การดูแลตนเอง ตามมาด้วยความคุ้มค่าของเงินที่จ่ายไปความภักดีของผู้ซื้อในตลาดไทยที่มีต่อห้างค้าปลีกยังอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำ ทำให้เกิดโอกาสสำหรับผู้ค้าปลีกในการสร้างกลยุทธ์เพื่อให้ได้ใจลูกค้า

ในรายงานดัชนีวัดความพึงพอใจในกลุ่ม ห้างค้าปลีก (RPI) ประเทศไทยที่จัดทำขึ้นเป็นครั้งแรกโดยดันน์ฮัมบี้ ผู้นำระดับโลกในด้านวิทยาการข้อมูลลูกค้า พบบทสรุปที่น่าสนใจโดยมี เซเว่น อีเลฟเว่นรั้งอันดับผู้นำตลาดสินค้าเพื่อความงามและการดูแลตนเอง – ซึ่งเป็นกลุ่มสินค้าที่มีอัตราการเติบโตโดดเด่น ประกอบด้วยสินค้าประเภท ชุดปฐมพยาบาลเบื้องต้น ยาแก้ปวด วิตามิน ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวกาย ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้า เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขอนามัยสำหรับผู้หญิง และผ้าอ้อมสำหรับเด็ก/ผู้ใหญ่

รายงานผลการศึกษานี้ได้มาจากการตอบแบบสอบถามเพื่อสำรวจความคิดเห็นของผู้ซื้อชาวไทยจำนวนกว่า 2,000 คน ที่มีต่อผู้ค้าปลีกชั้นนำเจ็ดรายในหมวดหมู่สินค้าเพื่อความงามและการดูแลตนเอง โดยให้น้ำหนักและความสำคัญในเรื่องของความสะดวกสบายและความสะอาด และความคุ้มค่าของเงินที่จ่ายไป อย่างไรก็ดีในช่วงเวลาที่ โควิด-19 ส่งผลกระทบต่อสาธารณสุขและสภาพเศรษฐกิจไปทั่วโลก กลุ่มสินค้านี้มีเทรนการขยายตัวสูงตอบรับต่อสถานการณ์โควิด จึงเป็นตลาดที่น่าสนใจและเป็นโอกาสให้ผู้เล่นทุกรายทุ่มสรรพกำลังเพื่อช่วงชิงความเป็นผู้นำตลาด

“ณ วันนี้เราทุกคนต่างตกอยู่ในช่วงเวลาแห่งความไม่แน่นอนอย่างยิ่ง ทั้งในสภาพเศรษฐกิจและอนาคตของธุรกิจ แต่ถึงกระนั้นก็ไม่ใช่เวลาที่ผู้ค้าปลีกจะมานั่งถอดใจเพื่อรอคอยให้สถานการณ์คลี่คลายลง” คุณทิพวัลย์ วงศ์ธรรมชาติ ผู้จัดการประจำประเทศไทยของดันน์ฮัมบี้กล่าว

“ในรายงาน RPI สำหรับประเทศไทยฉบับปฐมฤกษ์นี้ เผยให้เห็นถึงภาพรวมได้ชัดเจนว่าผู้ค้าปลีกของไทยดำเนินธุรกิจอยู่ตรงจุดไหนในปัจจุบัน ใครคือผู้นำตลาดและมีกลยุทธ์ใดบ้างที่ควรนำไปพิจารณาปรับใช้เพื่อช่วงชิงตำแหน่งทางการตลาดที่สำคัญนี้”

บทเรียนสำคัญที่ได้จากการศึกษาดัชนีวัดความพึงพอใจในกลุ่มห้างค้าปลีก (RPI) ของไทย

ความสะดวกสบายและความสะอาด คือปัจจัยที่สำคัญที่สุดและเป็นตัวกระตุ้นความพึงพอใจในผู้ค้าปลีกสำหรับสินค้าหมวดหมู่ความงามและการดูแลตนเอง ปัจจัยข้อนี้ส่งผลให้เซเว่น อีเลฟเว่นได้คะแนนสูงสุดใน RPI ตามมาด้วยวัตสันและเทสโก้ เซเว่น อีเลฟเว่นได้คะแนนนำจากการได้รับการจัดอันดับสูงสุดโดยผู้บริโภคชาวไทย เนื่องเพราะประสิทธิภาพในการบริหารจัดการเรื่องความสะดวกสบายและความสะอาดสำหรับสินค้าในหมวดหมู่ความงามและการดูแลตนเอง ทว่า ผู้ค้าปลีกรายอื่นๆ ก็ยังมีโอกาสที่จะแข่งขันและปรับกลยุทธ์ทางด้านการจัดการความสะดวกสบายและความสะอาดเพื่อดึงคะแนนรวมให้ดียิ่งขึ้น

ปัจจัยขับเคลื่อนความพึงพอใจที่สำคัญที่สุดเป็นอันดับสองสำหรับตลาดคือ ความคุ้มค่าของเงินที่จ่ายไป ในส่วนนี้ผู้ค้าปลีกที่ได้คะแนนอันดับต้นๆ ได้แก่ เทสโก้ และ บิ๊กซีปัจจัยขับเคลื่อนความพึงพอใจที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ ความหลากหลายของสินค้า ประสบการณ์ในการซื้อสินค้าภายในห้าง/ร้านค้า และสินค้าแบรนด์ของผู้ค้าปลีกตามลำดับความหลากหลายของสินค้าคือปัจจัยหลักของตลาดขายสินค้าทางออนไลน์ (เช่น Shopee, Lazada) ขณะเดียวกันความหลากหลายก็ยังมีความสำคัญต่อผู้ซื้อสินค้าในเซเว่น อีเลฟเว่นเช่นกัน โดยเซเว่น อีเลฟเว่น ยังต้องพยายามให้มากขึ้นที่จะตอบสนองตามความคาดหวังของลูกค้าในจุดนี้บู๊ทส์และวัตสันได้รับคะแนนนำและทำได้ดีในส่วนของประสบการณ์ในการซื้อของภายในร้านค้าสินค้าแบรนด์ของผู้ค้าปลีกในประเทศไทยไม่ค่อยจะสัมพันธ์กับการจัดอันดับผู้ค้าปลีกด้านความงามและการดูแลตนเองมากนัก เมื่อเทียบกับตลาดอื่นๆ กล่าวคือ บู๊ทส์ และ วัตสัน ทำได้ดีในการสร้างความพึงพอใจให้กับผู้ซื้อในข้อนี้ความภักดีของผู้ซื้อในประเทศไทยอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำ ดังนั้นจึงเป็นโอกาสงามสำหรับผู้ค้าปลีกที่จะสร้างกลยุทธ์เพื่อให้ได้มาซึ่งความภักดีของผู้ซื้อได้ดีกว่าตลาดในประเทศอื่นๆ ขณะเดียวกันก็ต้องไม่ละเลยความสำคัญในเรื่องความสะดวกสบายและความสะอาด และความคุ้มค่าของเงินที่จ่ายไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากผลกระทบของโรคระบาดโควิด-19 ทั้งสองประเด็นดังกล่าวดูจะมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น

“ในฐานะผู้สนับสนุนให้ผู้ค้าปลีกเล็งเห็นถึงความสำคัญจากการใช้ประโยชน์จากข้อมูลลูกค้า (ที่ไม่ระบุตัวตน) เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันอันจะส่งผลโดยตรงต่อรายได้ และ ผลกำไร/ขาดทุนของผู้ค้าปลีก – ดันน์ฮัมบี้ได้ให้คำแนะนำมาโดยตลอดให้ผู้ค้าปลีกทำความเข้าใจถึงปัจจัยขับเคลื่อนโดยเฉพาะที่เกี่ยวกับการเชื่อมโยงทางอารมณ์ความรู้สึก และความภักดีของลูกค้าในตลาดของเขา ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องความสะดวกสบายและความสะอาด ความคุ้มค่าของเงินที่จ่ายไป ความหลากหลายของสินค้า ฯลฯ”

“ประการสุดท้ายที่สำคัญที่สุดเหนือสิ่งอื่นใดในปัจจุบันก็คือ ความเข้าใจในตัวลูกค้าอย่างลึกซึ้ง และสร้างกลยุทธ์บนพื้นฐานของข้อมูลและ Insight ที่ช่วยสร้างความพึงพอใจให้กับผู้บริโภคคนไทยในยุคนี้ ผู้ซื้อเหล่านี้มีการพัฒนาและปรับตัวให้เข้ากับสภาวะที่เปลี่ยนไปตามความไม่แน่นอนเป็นอย่างมากของเศรษฐกิจและภาวะสุขภาพ และนี่คือแนวโน้มที่ผู้ค้าปลีกของไทยมั่นใจได้ในการนำไปใช้เพื่อคาดการณ์อนาคตล่วงหน้า” คุณทิพวัลย์ วงศ์ธรรมชาติ ผู้จัดการประจำประเทศไทยของดันน์ฮัมบี้ กล่าวเพิ่มเติม

แนวทางในการวัดความรู้สึกของลูกค้าเกี่ยวกับผู้ค้าปลีก (โดยผสานการเชื่อมโยงทางอารมณ์ความรู้สึกและความถี่ในการเข้าร้าน)

RPI เป็นแนวทางการศึกษาที่มีลักษณะเฉพาะตัวเนื่องจากเป็นการผสมผสานระหว่างการวัดอารมณ์ความรู้สึกของลูกค้าเกี่ยวกับผู้ค้าปลีก (การเชื่อมโยงทางอารมณ์ความรู้สึก) กับพฤติกรรมของลูกค้า (ในรูปของสัดส่วนการเข้าร้าน) การวัดทั้งสองข้อนี้จะถูกนำมารวมกันเพื่อคำนวณคะแนนความพึงพอใจสำหรับผู้ค้าปลีกแต่ละราย และ RPI จะระบุถึงจุดแข็งเชิงเปรียบเทียบของผู้ค้าปลีกในความคิดของลูกค้า เราได้จัดทำรายงาน RPI ในตลาดขนาดใหญ่อื่นๆ ทั่วโลกด้วยเช่นกัน อาทิอเมริกาเหนือ ออสเตรเลีย และสเปน

ในรายงานได้มีการตรวจสอบจุดแข็งของผู้ค้าปลีกซึ่งให้นิยามว่าเป็นการผสมผสานระหว่างการเชื่อมโยงทางอารมณ์ความรู้สึกของผู้ซื้อกับห้างค้าปลีกและพฤติกรรมของผู้ซื้อ ตามด้วยการพิจารณาปัจจัยขับเคลื่อนความพึงพอใจ อันประกอบด้วยความสะดวกสบายและความสะอาด ความคุ้มค่าของเงินที่จ่ายไป ความหลากหลายของสินค้า ประสบการณ์ที่มีต่อการช้อปปิ้งภายในร้านค้า และสินค้าแบรนด์ของผู้ค้าปลีก ซึ่งปัจจัยเหล่านี้จะช่วยให้เราเรียนรู้ว่าข้อใดที่เป็นตัวกระตุ้นที่สำคัญต่อความสำเร็จในตลาดของไทย

“เราจะคอยติดตามผลการดำเนินงานของผู้ค้าปลีกในหมวดหมู่นี้ และอาจจะขยายการศึกษาไปสู่หมวดสินค้าอื่นๆ ในตลาดไทยที่มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว” คุณทิพวัลย์ วงศ์ธรรมชาติ ผู้จัดการประจำประเทศไทยของดันน์ฮัมบี้ กล่าวสรุป

เกี่ยวกับดันน์ฮัมบี้

ดันน์ฮัมบี้เป็นผู้นำระดับโลกในด้านวิทยาการข้อมูลลูกค้าโดยช่วยเพิ่มขีดความสามารถให้กับธุรกิจต่าง ๆ ทุกหนทุกแห่งในการแข่งขันและประสบความสำเร็จในเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลที่ทันสมัย เราให้ความสำคัญกับลูกค้าเป็นอันดับแรกอยู่เสมอ พันธกิจของเรา: ทำให้ธุรกิจต่าง ๆ สามารถเติบโตและเปลี่ยนภาพลักษณ์ของตัวเองใหม่โดยกลายเป็นผู้สนับสนุนและเป็นตัวแทนให้กับลูกค้าของตัวเอง ด้วยสิ่งที่สืบช่วงอย่างล้ำลึกและความเชี่ยวชาญด้านธุรกิจค้าปลีก – ซึ่งเป็นหนึ่งในตลาดที่มีการแข่งขันสูงที่สุดในโลก โดยมีข้อมูลหลายมิติที่ล้นหลาม – ในปัจจุบันนี้ดันน์ฮัมบี้สามารถทำให้ธุรกิจต่าง ๆ ทั่วโลก ทั่วทุกอุตสาหกรรม ให้ความสำคัญกับลูกค้าเป็นอันดับแรก

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๔ พ.ค. Siriraj Education Expo 2024 ก้าวสู่ยุคใหม่ไปกับศิริราช พร้อมยกระดับทางการแพทย์ให้ดีขึ้น เพื่อสุขภาวะที่ดีของคนไทยทุกคน
๐๓ พ.ค. ครั้งแรก! งานเทศกาลคอนเทนต์ LGBTQ ฉลองความเท่าเทียมทางเพศ THAILAND INTERNATIONAL LGBTQ FILM TV FESTIVAL 2024 ปักหมุดเตรียมพบกัน กันยายนนี้
๐๓ พ.ค. โน วัน เอลส์ ส่ง 3 เพลงรัก 3 สไตล์! ผ่านมิวสิกซี่รีย์ ที่จะทำให้คุณเข้าใจความรักมากขึ้น
๐๓ พ.ค. ทีซีเอ็มซีมอบรางวัลประกวดการออกแบบผลงานด้านผลิตภัณฑ์อคูสติกส์
๐๓ พ.ค. GT Auto ฉลองแชมป์ยอดขาย Volvo จัดงาน มหกรรม GT Auto Show ลดสูงสุด 1,000,000 บาท พร้อมชูบริการ GT Auto Exclusive Service
๐๓ พ.ค. กทม. เตรียมพร้อมให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเสี่ยงและนักเรียนในสังกัด
๐๓ พ.ค. กรมส่งเสริมการเกษตร ประชุมคณะทำงานความร่วมมือด้านการรับรองแหล่งผลิตพืชฯ (GAP พืช) ครั้งที่ 1/2567
๐๓ พ.ค. First Sale! realme 12 5G และ realme 12X 5G สัมผัสประสบการณ์ Portrait Master กับกล้องซูม 3X in sensor
๐๓ พ.ค. CRYSTALLIZING ใหม่! โดย SHISEIDO PROFESSIONAL อัปเกรดกลุ่มผลิตภัณฑ์ยืด-ดัดผม ชูเทคโนโลยีสุดล้ำ DUAL PERFORMANCE SYSTEM
๐๓ พ.ค. บัลเลต์ รีทรีต บนเกาะมัลดีฟส์ กลับมาอีกครั้ง ที่ อวานี พลัส แฟเรส โดย คาร์ริส สการ์เลต นักเต้นบัลเลต์ชื่อดัง