วิริยะประกันภัย ปฏิบัติการ FIRST AID กู้รถยนต์น้ำท่วม พร้อมตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ภาคใต้

ศุกร์ ๐๔ ธันวาคม ๒๐๒๐ ๐๙:๑๘

วิริยะประกันภัย งัด "ปฏิบัติการ FIRST AID" รุดกู้และซ่อมรถยนต์ในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ ที่ได้รับผลกระทบหลังประสบอุทกภัยจากพายุมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ประเมินเบื้องต้นมีรถเอาประกันภัยไว้กับบริษัทฯ เกือบ 150 คัน ความเสียหายรวมกว่า 20 ล้านบาท เผยจังหวัดนครศรีธรรมราชมากสุด 102 คัน นอกจากนี้บริษัทฯ ยังได้ระดมธารน้ำใจจากวิริยะจิตอาสาทั่วประเทศส่งสิ่งของบรรเทาทุกข์ช่วยประชาชนในพื้นที่

วิริยะประกันภัย ปฏิบัติการ FIRST AID กู้รถยนต์น้ำท่วม พร้อมตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ภาคใต้

นายประสิทธิ์ สุนะชูแสง ผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการภาค 5 (ภาคใต้) บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์อุทกภัยอันเนื่องมากพายุมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังแรง ยังให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินสไลด์ในหลายจังหวัด ส่งผลให้ประชาชนต่างได้รับความเดือดร้อน บ้านเรือนและทรัพย์สินได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช จังหวัด สุราษฎร์ธานี จังหวัดพัทลุง จังหวัดสงขลา จังหวัดปัตตานี และจังหวัดนราธิวาส ที่สถานการณ์ยังคงน่าเป็นห่วง และในบางพื้นที่ยังคงต้องคอยเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง

สำหรับบริษัทวิริยะประกันภัย มีการรับประกันภัยเอาไว้ส่วนใหญ่เป็นรถยนต์ และคาดว่าน่าจะประสบภัยน้ำท่วมไม่ต่ำกว่า 200 คัน อย่างไรก็ตามจากข้อมูลที่ได้รับแจ้งจากผู้เอาประกันภัยตามรายงานจากศูนย์ปฏิบัติการสินไหมทดแทนในพื้นที่ ณ วันที่ 3 ธันวาคม 2563 เวลา 17.00 น. มีรถยนต์ได้รับความเสียหายจากภัยน้ำท่วมครั้งนี้ จำนวนรวมทั้งสิ้น 135 คัน โดยจังหวัดที่มีรถยนต์ประสบภัยน้ำท่วมมากที่สุด คือ จังหวัดนครศรีธรรมราช 102 คัน รองลงมา คือ จังหวัดสงขลา 18 คัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี 9 คัน จังหวัดพัทลุง 4 คัน และจังหวัดปัตตานี 2 คัน ประเมินความเสียหายเบื้องต้นรวมเป็นเงินกว่า 20 ล้านบาท

นายประสิทธิ์ กล่าวต่อไปอีกว่า บริษัทฯ ได้ดำเนินการเข้าไปช่วยเหลือรถยนต์ที่ถูกน้ำท่วมจำนวนมาก ด้วยการนำโมเดล "ปฏิบัติการ FIRST AID" อันเป็นระบบที่บริษัทฯ ได้คิดค้นขึ้นมา เพื่อดำเนินการกู้และซ่อมแซมรักษารถยนต์ที่ถูกน้ำท่วมจากการเกิดอุทกภัยครั้งร้ายแรงที่สุดของประเทศไทยเมื่อปี 2554 และยังคงมีการพัฒนากระบวนการทำงานอยู่เสมอ อีกทั้งเมื่อเกิดเหตุอุทกภัยในครั้งต่อๆ มา บริษัทฯ ยังได้นำ "ปฏิบัติการ FIRST AID" มาใช้จนเป็นผลสำเร็จอย่างต่อเนื่อง จึงเชื่อมั่นได้ว่าไม่ว่าอุทกภัยจะเกิดขึ้นที่ไหน และมีรถยนต์เสียหายจำนวนมากน้อยแค่ไหนก็ตาม ศูนย์ปฏิบัติการสินไหมทดแทนก็สามารถทำงานได้ทันทีโดยไม่ต้องรอการสั่งการ ตลอดไปถึงการส่งทีมงานจากส่วนกลางเข้าไปช่วยเหลือ

บริษัทฯ มีความเชี่ยวชาญจากการปฏิบัติการ FIRST AID ในเหตุการณ์อุทกภัยที่ผ่านมา และมีการเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว ที่จะต้องใช้ความรวดเร็วในการเข้าไปยังพื้นที่น้ำท่วม ซึ่งหัวใจหลักของระบบ First Aid อยู่ที่ความรวดเร็วในการฟื้นฟูหรือซ่อมแซม นำรถยนต์ออกจากน้ำให้เร็วที่สุด เพื่อไม่ให้ความเสียหายขยายตัวไปมากกว่าเดิมทั้งนี้การจำแนกระดับความเสียหายโดยตรวจสอบระดับน้ำสูงสุดที่ท่วมตัว ได้แก่ ระดับน้ำ A-B สูงถึงพื้นรถยนต์ แต่ไม่ถึงเบาะนั่ง ระดับ B-C สูงถึงเบาะนั่ง และระดับน้ำ C-D สูงเกินกว่าเครื่องยนต์ไปจนถึงหลังคารถ เนื่องจากปริมาณน้ำในระดับที่ต่างกัน จะมีผลต่อชิ้นส่วนที่ต้องตรวจสอบ และทำความสะอาดด้วย ส่วนขั้นตอนการทำงานจะเหมือนกับไลน์ผลิตรถยนต์ ในขณะที่การประเมินความเสียหายที่ต้องดำเนินการไปตามขั้นตอนของการเคลมประกันภัย อาทิ การตรวจสอบหลักฐานว่าอยู่ในเงื่อนไขความคุ้มครองของกรมธรรม์ประกันภัยครบถ้วนเพียงใด จะเป็นเรื่องที่ดำเนินการในภายหลัง หรืออย่างน้อยๆ ต้องผ่าน 2 ขั้นตอนแรกไปก่อน คือการนำเอารถออกจากพื้นที่น้ำท่วมและการเปลี่ยนถ่ายระบบน้ำมันหล่อลื่นภายใน

"มีรถยนต์หลายคันที่กู้ขึ้นมาและเข้าสู่ระบบการฟื้นฟูหรือซ่อมแซมในเบื้องต้นไปแล้ว แต่เมื่อเข้าสู่ขั้นตอนการเคลมประกันภัยก็พบว่าไม่ได้ทำประกันภัยไว้กับบริษัทฯ หรือเป็นการประกันภัยประเภทอื่นที่ไม่มีความคุ้มครองภัยน้ำท่วม ซึ่งกรณีนี้บริษัทฯ ยินดีที่จะให้คำปรึกษาและแนะนำถึงกระบวนการต่อไปว่าควรทำอย่างไรกับสภาพความเสียหายจริงที่เกิดขึ้น ทั้งนี้บริษัทฯ ได้มีการจัดตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อรองรับการบริการและให้ความช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที" นายประสิทธิ์ กล่าว

นอกจากการระดมสรรพกำลังเข้าไปกู้และซ่อมแซมรถยนต์ที่ถูกน้ำท่วม ซึ่งถือเป็นภารกิจหลักของบริษัทฯ แล้ว การเข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในรูปแบบอื่นๆ ทางบริษัทฯ ก็ได้ดำเนินการควบคู่ไปพร้อมๆ กัน โดยนายประสิทธิ์ ได้กล่าวถึงการดำเนินงานในส่วนนี้ว่า เป็นภารกิจหลักของกลุ่มพนักงานวิริยะจิตอาสา ซึ่งเริ่มจากกลุ่มพนักงานสำรวจภัยซึ่งต้องทำหน้าที่เข้าไปสำรวจรถยนต์ที่ถูกน้ำท่วมตามที่ได้รับแจ้งอยู่แล้ว จะทำหน้าที่สำรวจความเดือดร้อนของผู้คนในพื้นที่นั้นๆ ไปด้วยเลยว่า ต้องการให้ช่วยเหลือในเรื่องของเครื่องอุปโภคและบริโภคอย่างไรบ้าง จากนั้นจะส่งข้อมูลความต้องการเหล่านี้มายังศูนย์กลางประสานที่สาขานครศรีธรรมราช ศูนย์ปฏิบัติการสินไหมทดแทนทุ่งสง และศูนย์ปฏิบัติการสินไหมทดแทนหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ซึ่งจะทำหน้าที่ประมวลความต้องการและดำเนินการจัดซื้อ รวมไปถึงการผลิตอาหารพร้อมรับประทาน จากนั้นก็จะส่งไม้ต่อให้กลุ่มพนักงานจิตอาสาของ ศูนย์ฯ/สาขา ตัวแทน ศูนย์ซ่อมมาตรฐาน ตลอดไปถึงคู่ค้า ดีลเลอร์รถยนต์ ฯลฯ ที่อยู่ในพื้นที่ต่างๆ ตามพิกัดข้อมูลที่ได้รับมา เพื่อกระจายกำลังออกไปมอบสิ่งของบรรเทาทุกข์และอาหารพร้อมทานถึงมือผู้ประสบภัยโดยตรงอย่างรวดเร็วและทันต่อความต้องการ

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๔ พ.ค. Siriraj Education Expo 2024 ก้าวสู่ยุคใหม่ไปกับศิริราช พร้อมยกระดับทางการแพทย์ให้ดีขึ้น เพื่อสุขภาวะที่ดีของคนไทยทุกคน
๐๓ พ.ค. ครั้งแรก! งานเทศกาลคอนเทนต์ LGBTQ ฉลองความเท่าเทียมทางเพศ THAILAND INTERNATIONAL LGBTQ FILM TV FESTIVAL 2024 ปักหมุดเตรียมพบกัน กันยายนนี้
๐๓ พ.ค. โน วัน เอลส์ ส่ง 3 เพลงรัก 3 สไตล์! ผ่านมิวสิกซี่รีย์ ที่จะทำให้คุณเข้าใจความรักมากขึ้น
๐๓ พ.ค. ทีซีเอ็มซีมอบรางวัลประกวดการออกแบบผลงานด้านผลิตภัณฑ์อคูสติกส์
๐๓ พ.ค. GT Auto ฉลองแชมป์ยอดขาย Volvo จัดงาน มหกรรม GT Auto Show ลดสูงสุด 1,000,000 บาท พร้อมชูบริการ GT Auto Exclusive Service
๐๓ พ.ค. กทม. เตรียมพร้อมให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเสี่ยงและนักเรียนในสังกัด
๐๓ พ.ค. กรมส่งเสริมการเกษตร ประชุมคณะทำงานความร่วมมือด้านการรับรองแหล่งผลิตพืชฯ (GAP พืช) ครั้งที่ 1/2567
๐๓ พ.ค. First Sale! realme 12 5G และ realme 12X 5G สัมผัสประสบการณ์ Portrait Master กับกล้องซูม 3X in sensor
๐๓ พ.ค. CRYSTALLIZING ใหม่! โดย SHISEIDO PROFESSIONAL อัปเกรดกลุ่มผลิตภัณฑ์ยืด-ดัดผม ชูเทคโนโลยีสุดล้ำ DUAL PERFORMANCE SYSTEM
๐๓ พ.ค. บัลเลต์ รีทรีต บนเกาะมัลดีฟส์ กลับมาอีกครั้ง ที่ อวานี พลัส แฟเรส โดย คาร์ริส สการ์เลต นักเต้นบัลเลต์ชื่อดัง