นฤมล เดินหน้าพัฒนาสถานประกอบกิจการด้านความปลอดภัย

อังคาร ๐๘ ธันวาคม ๒๐๒๐ ๐๙:๑๑

รมช.แรงงาน เชิญชวนสถานประกอบกิจการ ร่วมโครงการพัฒนาสถานประกอบกิจการด้านความปลอดภัย พร้อมยกระดับองค์กรสู่มาตรฐานสากล โดยไม่มีค่าใช้จ่ายในการเข้าร่วมโครงการ

วันที่ 7 ธันวาคม 2563 ศาสตราจารย์ นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า สถาบันส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน (องค์การมหาชน) (สสปท.) ได้ทำการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจและสังคมต่อการลงทุนด้านความปลอดภัยในสถานประกอบกิจการ จำนวน 30 แห่ง จากผลการศึกษาพบว่า สถานประกอบกิจการมีมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ 51,795.53 บาท หรือคิดเป็น 3,341.65 บาท/แห่ง นอกจากนี้เมื่อพิจารณามูลค่าเพิ่มทางสังคม พบว่า สถานประกอบกิจการสามารถลดจำนวนการประสบอันตรายได้จาก 302 ราย เหลือ 294 ราย นั่นหมายความว่า การลงทุนด้านความปลอดภัยในสถานประกอบกิจการมีความคุ้มค่า รวมถึงก่อให้เกิดผลกำไรและมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจและสังคม โดยสามารถลดอัตราการประสบอันตรายลงได้

รมช. แรงงาน กล่าวเพิ่มเติมว่า สถาบันฯ ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญและพร้อมสนับสนุนการดำเนินงานด้านความปลอดภัยให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน จึงได้จัดทำมาตรฐานระบบการจัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน พร้อมทั้งคู่มือและแนวทางในการจัดทำมาตรฐานดังกล่าว ทั้งนี้ เพื่อเป็นการส่งเสริมให้สถานประกอบกิจการที่ต้องการเริ่มสร้างระบบด้านความปลอดภัยฯ เบื้องต้นด้วยตนเอง สถาบันฯ จึงจัดทำโครงการพัฒนาสถานประกอบกิจการตามมาตรฐานระบบการจัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้สถานประกอบกิจการมีการจัดทำมาตรฐานระบบการจัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน ทั้งนี้ยังสามารถพัฒนาการจัดการด้านความปลอดภัยฯ ภายในองค์กรอย่างยั่งยืน และสามารถต่อยอดหรือยกระดับสู่มาตรฐานสากลได้ โดยมีผู้เชี่ยวชาญในการให้คำปรึกษาตลอดระยะเวลาที่เข้าร่วมโครงการ

สำหรับคุณสมบัติของสถานประกอบกิจการในการเข้าร่วมโครงการฯ จะต้องเป็นสถานประกอบกิจการแห่งใหม่ทุกขนาดและทุกประเภท ที่ยังไม่เคยเข้าร่วมโครงการดังกล่าว ต้องมีบุคลากรรับผิดชอบการดำเนินการจัดทำระบบการจัดการด้านความปลอดภัยฯ อย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 6 เดือน ในส่วนของประโยชน์ที่สถานประกอบกิจการจะได้รับ ประกอบด้วย ประกาศเกียรติคุณที่รับรองมาตรฐานด้านความปลอดภัย การสนับสนุนและให้คำปรึกษาในการดำเนินงานด้านความปลอดภัยในการทำงาน การเพิ่มโอกาสในการพัฒนาผลิตภาพแรงงานและเสริมศักยภาพแรงงาน รวมถึงสามารถเพิ่มการต่อยอดทางธุรกิจและโอกาสในการแข่งขันทางการค้ามากขึ้น เนื่องจากมีการดำเนินงานด้านความปลอดภัยที่เป็นระบบ มีประสิทธิภาพและมีความยั่งยืน

สถานประกอบกิจการที่สนใจสามารถดาวน์โหลดใบสมัครเข้าร่วมโครงการได้ที่ www.tosh.or.th และส่งใบสมัครผ่านทางอีเมล์ [email protected] หรือ [email protected] หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 0 2448 9111 ตั้งแต่วันนี้ - วันที่ 16 ธันวาคม 2563 โดยไม่มีค่าใช้จ่ายตลอดโครงการ

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘:๓๓ COM7 เดินหน้าเต็มสปีด EV7 ส่งมอบแท็กซี่ไฟฟ้าล็อตแรก ดันเมกะเทรนด์ EV สู่หัวใจเมือง
๑๘:๓๖ GCAP ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ไฟเขียวผ่านฉลุยทุกวาระ พร้อมเดินหน้าแผนธุรกิจขยายสู่กลยุทธ์ Non Lending
๑๘:๔๔ PYLON จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผู้ถือหุ้นไฟเขียวจ่ายปันผล 0.04 บาท/หุ้น
๑๘:๓๙ LDC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 มุ่งเป็นคลินิกทันตกรรมพรีเมียม ในราคาที่เข้าถึงง่าย
๑๘:๑๒ ผู้ถือหุ้น TATG ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.07 บาท/หุ้น ลงทุนเครื่องจักรใหม่เสริมแกร่งสายการผลิต พิชิตเป้ารายได้ 3,000
๑๘:๕๗ ADVICE จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นรูปแบบ Hybrid ประจำปี 2568 ผถห.ไฟเขียวทุกวาระ เคาะแจกปันผล 0.175 บ./หุ้น
๑๘:๓๖ LE ร่วมงานสถาปนิก'68 โชว์นวัตกรรมแสงสว่างอัจฉริยะ เสริมภาพผู้นำ Lighting Solutions Provider
๑๘:๔๖ SELIC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ปี 2568 ผู้ถือหุ้นเห็นชอบทุกวาระ อนุมัติจ่ายปันผล 0.038 บาท/หุ้น เดินหน้า 3 ธุรกิจ
๑๘:๔๙ STA เปิดบ้านต้อนรับภาครัฐ โชว์มาตรฐานรับซื้อยางโปร่งใส เป็นธรรม หนุนรัฐต้านยางเถื่อน
๑๘:๓๕ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จับมือเอกชน ปั้นช่างเชื่อมโกอินเตอร์ รายได้ทะลุ 70,000 บาทต่อเดือน