บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด เล็งเห็นว่า มจธ. มีศักยภาพในการดำเนินงานด้านเทคโนโลยี ในขณะที่บริษัทฯ มีเทคโนโลยีระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพสูง การลงนามกับ มจธ. ครั้งนี้จึงเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกในไทยที่ทางบริษัทฯ ได้มีความร่วมมือและเป็นที่แรกที่จะมีการเรียนการสอนทางด้าน AI โดยเฉพาะ ซึ่งในโอกาสนี้ทางบริษัทฯ ได้มอบอุปกรณ์ระบบคลาวด์คอมพิวติ้ง (Huawei Cloud Computing Lab Equipment) เพื่อสนับสนุนการเรียนการสอนของมหาวิทยาลัย ภายใต้โครงการ Huawei ICT Academy
ทั้งนี้ ภายใต้ความร่วมมือดังกล่าว หัวเว่ย จะทำงานร่วมกับ มจธ. เพื่อส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพการเรียนการสอนด้าน AI ของนักศึกษา คณาจารย์ และบุคลากรของมหาวิทยาลัย รวมถึงดำเนินโครงการวิจัยและพัฒนาร่วมกัน โดยมุ่งเน้นการใช้เทคโนโลยีล้ำสมัยอย่าง AI ในเชิงสร้างสรรค์และเป็นประโยชน์ต่อสังคม ส่งเสริมการพัฒนาบุคลากรและสร้างรากฐานทักษะและองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีขั้นสูง เตรียมความพร้อมให้นักศึกษาสามารถนำทักษะที่ได้ฝึกฝนผ่านโครงการไปใช้ในการทำงานจริงในอนาคต ตอบสนองความต้องการแรงงานทักษะสูงในตลาดเกิดใหม่ เพื่อเร่งให้เกิดนวัตกรรมและส่งเสริมการใช้ AI อย่างแพร่หลายในประเทศไทย
แนวโน้มการใช้ระบบปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI จะเข้ามามีบทบาทมากขึ้น แต่บุคลากรทางด้านนี้ยังขาดแคลนอยู่มาก โดยเฉพาะในประเทศไทย เรื่องที่ทำโดยมากจะเกี่ยวกับ Image Recognition ซึ่งในต่างประเทศ AI ถูกพัฒนาไปไกลกว่านั้นมาก บริษัทฯ จึงได้จับมือกับ มจธ. เพื่อมาพัฒนาร่วมกัน เพราะสิ่งที่บริษัทฯ ต้องการ คือ การสร้างบุคลากร สร้างคน สร้าง Eco System ให้มีคนที่มีความสามารถพัฒนาโปรแกรมขึ้นมาบนอุปกรณ์ของ Huawei ได้ ถือเป็นจุดประสงค์หลักๆ ที่ต้องการสร้างคน สร้างงาน สร้างความรู้ให้กับบุคลากรในประเทศไทย ให้สามารถทำงานด้าน AI ได้ โดยที่ทาง มจธ. จะจัดการเรียนการสอนโดยใช้อุปกรณ์ของทางบริษัทฯ ที่เรียกว่า 'AI Atlas 200 dk' นอกเหนือจากเรื่องการเรียนการสอนแล้ว บริษัทฯ ยังสนับสนุนการดูงานด้าน AI ที่ประเทศจีน รวมถึงเปิดโอกาสให้นักศึกษาที่จบหลักสูตรนี้ได้เข้าทำงานร่วมกับบริษัทฯ และ Partner ของบริษัทฯ
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเปิดโอกาสให้นักศึกษานำผลงานที่ผ่านการคัดเลือกไปจัดแสดงบนเว็บไซต์ของ หัวเว่ย หรือ ในงาน HUAWEI CONNECT ซึ่งเป็นงานระดับโลก เช่น งาน Symposium ที่เซี่ยงไฮ้ ซึ่งจะมีผู้สนใจจากทั่วโลกเข้ามาชมผลงาน หากผลงานของนักศึกษาเข้าตากรรมการก็จะได้รับการคัดเลือกเพื่อไปจัดแสดงในงาน ซึ่งประโยชน์ที่นักศึกษาจะได้รับ คือ การสนับสนุนอุปกรณ์ เพื่อนักศึกษามีประสบการณ์ในการใช้งานจริง ช่วยย่นระยะเวลาในการเรียนรู้งานใหม่ สำหรับนักศึกษาที่ลงเรียน ในรายวิชา Routing and Switching หรือ รายวิชา Cloud Computing ทางบริษัทฯ สนับสนุนให้นักศึกษาสอบใบรับรอง HCIA (Huawei Certified ICT Associate) ซึ่งเป็นใบประกาศนียบัตรด้านวิชาชีพแสดงว่ามีความรู้ความสามารถในเทคโนโลยีด้านนี้ สำหรับอุปกรณ์ชนิดที่ได้รับใบรับรอง
ด้าน ผศ. ดร.ประเสริฐ คันธมานนท์ รองอธิการบดีอาวุโสฝ่ายบริหาร มจธ. กล่าวว่า ในเบื้องต้น บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด จะเข้ามาทำงานร่วมกับ มจธ. ใน 2 เรื่อง เรื่องแรกคือ Cloud Computing โดยทางบริษัทฯ ให้ Cloud Server กับ มจธ. ซึ่ง Cloud Computing มจธ. ตั้งใจเอาไปใช้เพื่อการเรียนการสอนในการพัฒนาเรื่องความสามารถและศักยภาพ ในการเข้าใจถึงวิธีการที่จะบริหารจัดการเรื่องระบบ Cloud Computing Server เรื่องที่สอง คือ เทคโนโลยี AI โดย AI ที่บริษัทฯ มอบให้จะเป็น AI ที่ลงไปดูในระบบถึงระดับฮาร์ดแวร์เป็นหลัก
วัตถุประสงค์ ในการทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือร่วมกัน ประเด็นแรกคือ เพื่อที่จะพัฒนานักศึกษาให้มีศักยภาพมีความสามารถ ถือเป็นเป้าหมายหลักของ มจธ. คือนำเอาเทคโนโลยีเหล่านั้นมาช่วยพัฒนาทำให้นักศึกษาเก่งขึ้น ตามเจตนาที่ มจธ. ต้องการให้นักศึกษาเป็นคนที่เก่งและดี The Best and the Brightest หรือเป็น Social Change Agent ซึ่งนักศึกษาในความหมายของ มจธ. วันนี้คงไม่ใช่แค่นักศึกษาในระบบเพียงเท่านั้น แต่ยังเปิดสอนให้กับคนวัยทำงานที่สามารถจะเข้ามาหาความรู้ได้เช่นกัน
วัตถุประสงค์ ในการทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือร่วมกัน ประเด็นแรกคือ เพื่อที่จะพัฒนานักศึกษาให้มีศักยภาพมีความสามารถ ถือเป็นเป้าหมายหลักของ มจธ. คือนำเอาเทคโนโลยีเหล่านั้นมาช่วยพัฒนาทำให้นักศึกษาเก่งขึ้น ตามเจตนาที่ มจธ. ต้องการให้นักศึกษาเป็นคนที่เก่งและดี The Best and the Brightest หรือเป็น Social Change Agent ซึ่งนักศึกษาในความหมายของ มจธ. วันนี้คงไม่ใช่แค่นักศึกษาในระบบเพียงเท่านั้น แต่ยังเปิดสอนให้กับคนวัยทำงานที่สามารถจะเข้ามาหาความรู้ได้เช่นกัน
"เป้าหมายของ มจธ. วันนี้ คือ Everywhere is for Learning ในสิ่งที่เราตั้งเป้าหมายไว้ ก็คือ Every time is learning. แล้วก็ Everyone is educator. ซึ่งเริ่มต้นมาเพื่อช่วยให้ มจธ. พัฒนานักศึกษาให้เป็นบัณฑิตที่มีคุณภาพ ซึ่งในส่วนของนักศึกษาระดับชั้นปีที่ 3 หรือ ชั้นปีที่ 4 ที่จะต้องมีความรู้พื้นฐานมาบ้างแล้ว จะเรียนเป็นรายวิชา 1 เทอม และในรายวิชานี้จะไม่ได้จำกัดแค่นักศึกษาอย่างเดียว แต่เปิดโอกาสให้บุคคลภายนอกเข้ามาเรียนเพิ่มเติมทักษะเพื่อการทำงานด้วย
ให้มหาวิทยาลัยเป็น Living Lab
ผศ.ดร.ประเสริฐ กล่าวเสริมอีกว่า นอกจากที่จะใช้อุปกรณ์นี้เพื่อการเรียนการสอนแล้ว มจธ. หวังว่าจะใช้อุปกรณ์ทั้งหมดเหล่านี้เพื่อสร้างความเข้าใจ สร้างระบบต้นแบบที่สำคัญ คือ การนำเอาองค์ความรู้เหล่านี้และการทำงานร่วมกันระหว่างอาจารย์กับนักศึกษาไปสร้างระบบที่จะทดลองใช้ใน มจธ. ได้จริง ทำการวิจัยทดลองใช้ในโครงสร้างพื้นฐานของระบบมหาวิทยาลัยจริง ๆ
"โดยให้มหาวิทยาลัยเป็น Living Lab มหาวิทยาลัยจะเป็นห้องทดลอง เป็นสถานที่ค้นคว้า ทดลอง เพราะฉะนั้นนักศึกษาจะเห็นงานวิจัยที่ไม่ใช่แค่จัดขึ้นในห้องทดลองเท่านั้น แต่นักศึกษาจะเห็นตัวอย่างของงานที่ใช้งานได้จริงประกอบการเรียนรู้ ที่เป็นการเรียนรู้ในแบบที่เรียกว่า Living Lab เป้าหมายสำคัญของมหาวิทยาลัย คือ ต้องการพัฒนาคน ซึ่งเราก็ต้องพยายามหาวิธีการในการขยายผล ต่อยอด และในที่สุดก็กลับมาพัฒนาคน" ผศ.ดร.ประเสริฐ กล่าว