PwC ประเทศไทย แนะธุรกิจปรับกลยุทธ์รับมือภัยไซเบอร์ปี 64

จันทร์ ๒๑ ธันวาคม ๒๐๒๐ ๐๙:๒๕

หลังแฮกเกอร์ฉวยโอกาสช่วงวิกฤตโควิด-19 จู่โจมระบบความปลอดภัยขององค์กรเพิ่มขึ้น

PwC ประเทศไทย แนะธุรกิจปรับกลยุทธ์รับมือภัยไซเบอร์ปี 64

PwC ประเทศไทย แนะธุรกิจปรับกลยุทธ์รับมือภัยคุกคามไซเบอร์ในปี 2564 โดยเร่งลงทุนและนำเครื่องมือ-เทคโนโลยีที่จำเป็นเข้ามาใช้ หลังพบแฮกเกอร์ฉวยโอกาสในช่วงวิกฤตโควิด-19 เข้าคุกคามระบบมากขึ้น พร้อมต้องจัดหาบุคลากรที่เหมาะสม-ยกระดับทักษะพนักงานที่มีอยู่ และให้ความสำคัญในการซักซ้อมความปลอดภัยของระบบ หรือข้อมูลขององค์กรอย่างต่อเนื่อง คาดมัลแวร์เรียกค่าไถ่ (Ransomware) การละเมิดข้อมูล (Data breaches) และการหลอกลวงโดยใช้อีเมลหรือหน้าเว็บไซต์ปลอมเพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูล (Phishing) ติด 3 อันดับรูปแบบการโจมตีไซเบอร์ที่จะพบมากในปีหน้า

นางสาว วิไลพร ทวีลาภพันทอง หุ้นส่วนสายงานธุรกิจที่ปรึกษา และหัวหน้าสายงานกลุ่มธุรกิจบริการทางการเงิน บริษัท PwC ประเทศไทย เปิดเผยว่า ในช่วงกว่า 1 ปีที่ผ่านมา การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้องค์กรไทยโดยเฉพาะอย่างยิ่ง บริษัทขนาดใหญ่ที่มีหน่วยงานกำกับคอยควบคุมดูแล หันมาตื่นตัวในการเพิ่มมาตรการป้องกันและเพิ่มขีดความสามารถในการรักษาความปลอดภัยขององค์กรในระดับสูงสุด เนื่องจากการทำงานที่บ้าน (Work from Home) ของลูกค้าและพนักงานทำให้เกิดความเสี่ยงจากการถูกโจมตีทางไซเบอร์เพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ มาตรการต่าง ๆ ที่องค์กรไทยได้นำมาใช้ในการดูแลความปลอดภัย ได้แก่ การเข้าระบบจากที่บ้าน หรือข้างนอกที่ทำงานที่ต้องมีการเข้าระบบผ่านเครือข่ายส่วนตัวเสมือน (Virtual Private Network: VPN) ที่มีความปลอดภัยและไม่ใช้เครือข่ายสาธารณะ การใช้อุปกรณ์พกพาที่ต้องมีการติดตั้งและการรักษาความปลอดภัยที่รัดกุม และมีนโยบายเกี่ยวกับการให้นำอุปกรณ์ส่วนตัวมาใช้ทำงาน (Bring Your Own Device: BYOD) รวมถึงมีการซักซ้อมแผนรับมือเหตุการณ์ด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cybersecurity Incident Response) อย่างเป็นประจำและต่อเนื่อง เป็นต้น

"กลยุทธ์สำคัญที่ผู้บริหารต้องนำมาใช้ในปีหน้า เพื่อให้ Cybersecurity ขององค์กรเกิดประสิทธิภาพสูงสุด จะต้องครอบคลุมตั้งแต่เรื่องของการจัดสรรงบให้แตะกับเรื่องนี้ การจัดหาบุคลากรที่เหมาะสมพร้อมทั้งอัพสกิลบุคลากรที่มีอยู่แล้ว นำเครื่องไม้ เครื่องมือที่มีประสิทธิภาพมาใช้ รวมทั้งมีนโยบายและแนวทางปฏิบัติในการรักษาความปลอดภัยที่สอดคล้องกับมาตรฐานสากล เพื่อลดความเสี่ยงจากการถูกแฮกเกอร์โจมตีระบบ และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย" นางสาว วิไลพร กล่าว

ลงทุนเพื่อ "สุขอนามัยทางไซเบอร์" ที่ดีขึ้น"ภาพรวมการลงทุนด้านความปลอดภัยไซเบอร์ขององค์กรไทยในช่วงที่ผ่านมามีแนวโน้มดีขึ้น แต่ยังดีขึ้นกว่านี้ได้อีก ผู้บริหารต้องให้ความสำคัญกับสุขอนามัยทางไซเบอร์ หรือ Cyber hygiene ขององค์กร โดยควรพิจารณาการลงทุนเพื่อปรับระบบงานต่าง ๆ ให้มีความพร้อมในการป้องกัน ตรวจจับ รับมือ และตอบสนองอย่างรวดเร็วต่อภัยคุกคามที่จะยิ่งเพิ่มขึ้นและเกิดขึ้นได้ทุกขณะ และที่สำคัญ

ต้องสร้างความตระหนักให้เกิดขึ้นกับคนทุกระดับในองค์กร และทำให้เข้าใจว่าการรักษาความปลอดภัยขององค์กร เป็นเรื่องที่เราทุกคนต้องใส่ใจ" นางสาว วิไลพร กล่าว

"วันนี้ปัญหาหลักที่เป็นอุปสรรคต่อการลงทุนด้านความปลอดภัยไซเบอร์สำหรับองค์กรไทยมีอยู่ด้วยกัน 2 มิติ ได้แก่ การขาดแคลนบุคลากรที่มีทักษะทางด้านความปลอดภัยไซเบอร์ และยังส่งผลมาถึงการลงทุนอย่างเหมาะสมกับธุรกิจและขนาดของบริษัท หลายบริษัทยังคง Underinvest และในบางกรณีก็ Overinvest โดยไม่ได้เข้าใจในมูลค่าสินทรัพย์ขององค์กร" นางสาว วิไลพร กล่าวเสริม

การขาดแคลนแรงงานที่มีทักษะด้านกลยุทธ์ความปลอดภัยไซเบอร์ในไทย

นางสาว วิไลพร กล่าวว่า การขาดแคลนแรงงานที่มีทักษะด้านความปลอดภัยไซเบอร์ ยังคงเป็นปัญหามากสำหรับองค์กรไทย เพราะแรงงานที่มีทักษะทางด้านนี้ในประเทศยังคงมีน้อยและส่วนใหญ่เป็นบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน แบ่งตามตามประเภทของเทคโนโลยี เช่น การป้องกันการสูญหายหรือรั่วไหลของข้อมูล (Data Loss Prevention) การบริหารจัดการตัวตนและการเข้าถึง  (Identity and access management) และ ความปลอดภัยของเครือข่าย (Network security) เป็นต้น

"ในไทยเรามีคนเก่ง แต่มีจำนวนน้อย และมักจะเก่งเฉพาะด้าน ๆ และเป็นไปตามประเภทของเทคโนโลยี แต่บุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญและความสามารถในการมองภาพใหญ่ที่สามารถวางแผนกลยุทธ์เรื่องความปลอดภัยไซเบอร์ และมีความสามารถในการสื่อสารกับผู้บริหารระดับสูง หรือระดับบอร์ดได้มีจำนวนไม่มาก" นาวสาว วิไลพร กล่าว

สอดคล้องกับรายงาน Global Digital Trust Insights 2021: Cybersecurity comes of age ของ PwC ที่ได้ทำการสำรวจความคิดเห็นของผู้บริหารจำนวนกว่า 3,200 คนทั่วโลกเกี่ยวกับมุมมองของความปลอดภัยไซเบอร์พบว่า บทบาทของผู้บริหารด้านการรักษาความปลอดภัยให้กับโครงสร้างเครือข่ายและความปลอดภัยข้อมูลสารสนเทศ (Chief Information Security Officer: CISO) จะยิ่งทวีความสำคัญและขยายขอบเขตครอบคลุมทั้งการเปลี่ยนผ่านองค์กรสู่ดิจิทัลและระบบปฏิบัติการในอนาคต นอกจากนี้ ยังได้แนะนำ 5 แนวทางสำคัญที่องค์กรต้องปฏิบัติเพื่อยกระดับความปลอดภัยไซเบอร์ให้กับองค์กร ดังนี้

  1. ปรับกลยุทธ์ความปลอดภัยไซเบอร์ขององค์กสู่การเป็นองค์กรยุคใหม่ ผู้บริหารด้านไอทีต้องขยายบทบาทหน้าที่เพื่อช่วยผลักดันองค์กรไปสู่ดิจิทัลตั้งแต่วันนี้
  2. ปรับงบประมาณทางด้านความปลอดภัยไซเบอร์ให้เกิดความเหมาะสม และเชื่อมโยงโดยตรงกับแผนการเติบโตของธุรกิจ และการบริหารจัดการความเสี่ยงในระยะยาว
  3. ลงทุนเพื่ออนาคตและต่อกรกับอาชญากรไซเบอร์ได้ทันท่วงที ซึ่งการเปลี่ยนมาใช้เทคโนโลยีคลาวด์แทนที่ระบบ Legacy แบบเดิมจะเป็นพื้นฐานของการใช้โซลูชันทางธุรกิจในโลกอนาคต นอกจากนี้ การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีชั้นนำอื่น ๆ จะช่วยให้องค์กรสามารถตั้งรับและยกระดับขีดความสามารถในการรับมือกับผู้โจมตีทางไซเบอร์ได้ดีขึ้นและสร้างความมั่นใจให้เกิดขึ้นกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
  4. จัดสรรบุคลากรและทีมงานที่มีคุณภาพ โดยกำหนดกลยุทธ์ในการจ้างงาน ฝึกอบรม และยกระดับทักษะพนักงานภายในองค์กรอยู่เป็นประจำ
  5. เน้นสร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจ ผ่านการทดสอบและจัดทำการประเมินความพร้อมทางด้าน Cyber Resilience อย่างต่อเนื่องเพื่อให้แน่ใจว่า หากธุรกิจถูกโจมตีทางไซเบอร์ ก็จะยังคงสามารถดำเนินงานได้ตามปกติ ซึ่งคาดว่า แนวโน้มภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่น่าจะเกิดขึ้นมากเป็นอันดับต้น ๆ ในปี 2564 ได้แก่ มัลแวร์เรียกค่าไถ่ (Ransomware) การละเมิดข้อมูล (Data breaches) และการหลอกลวงโดยใช้อีเมลหรือหน้าเว็บไซต์ปลอมเพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูล (Phishing)

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๔ พ.ค. Siriraj Education Expo 2024 ก้าวสู่ยุคใหม่ไปกับศิริราช พร้อมยกระดับทางการแพทย์ให้ดีขึ้น เพื่อสุขภาวะที่ดีของคนไทยทุกคน
๐๓ พ.ค. ครั้งแรก! งานเทศกาลคอนเทนต์ LGBTQ ฉลองความเท่าเทียมทางเพศ THAILAND INTERNATIONAL LGBTQ FILM TV FESTIVAL 2024 ปักหมุดเตรียมพบกัน กันยายนนี้
๐๓ พ.ค. โน วัน เอลส์ ส่ง 3 เพลงรัก 3 สไตล์! ผ่านมิวสิกซี่รีย์ ที่จะทำให้คุณเข้าใจความรักมากขึ้น
๐๓ พ.ค. ทีซีเอ็มซีมอบรางวัลประกวดการออกแบบผลงานด้านผลิตภัณฑ์อคูสติกส์
๐๓ พ.ค. GT Auto ฉลองแชมป์ยอดขาย Volvo จัดงาน มหกรรม GT Auto Show ลดสูงสุด 1,000,000 บาท พร้อมชูบริการ GT Auto Exclusive Service
๐๓ พ.ค. กทม. เตรียมพร้อมให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเสี่ยงและนักเรียนในสังกัด
๐๓ พ.ค. กรมส่งเสริมการเกษตร ประชุมคณะทำงานความร่วมมือด้านการรับรองแหล่งผลิตพืชฯ (GAP พืช) ครั้งที่ 1/2567
๐๓ พ.ค. First Sale! realme 12 5G และ realme 12X 5G สัมผัสประสบการณ์ Portrait Master กับกล้องซูม 3X in sensor
๐๓ พ.ค. CRYSTALLIZING ใหม่! โดย SHISEIDO PROFESSIONAL อัปเกรดกลุ่มผลิตภัณฑ์ยืด-ดัดผม ชูเทคโนโลยีสุดล้ำ DUAL PERFORMANCE SYSTEM
๐๓ พ.ค. บัลเลต์ รีทรีต บนเกาะมัลดีฟส์ กลับมาอีกครั้ง ที่ อวานี พลัส แฟเรส โดย คาร์ริส สการ์เลต นักเต้นบัลเลต์ชื่อดัง