ศปถ.คุมเข้มบังคับใช้กฎหมายจราจร - กวดขันพฤติกรรมเสี่ยงอุบัติเหตุ สร้างความปลอดภัยในการเดินทาง

พุธ ๓๐ ธันวาคม ๒๐๒๐ ๑๑:๓๔

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2564 โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สรุปสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 29 ธันวาคม 2563 ซึ่งเป็นวันแรกของการรณรงค์ "ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่ปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ" เกิดอุบัติเหตุ 414 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 43 ราย ผู้บาดเจ็บ 438 คน ประสานทุกจังหวัดคุมเข้มการบังคับใช้กฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด กวดขันปัจจัยเสี่ยงอุบัติเหตุ พร้อมอำนวยความสะดวกในการเดินทางแก่ประชาชนตลอดเส้นทาง รวมถึงปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขในการเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) อย่างเคร่งครัด

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะประธานแถลงข่าวสรุปผลการดำเนินงานป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2564 เปิดเผยว่า ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2564 โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและความร่วมมือของหน่วยงานภาคีเครือข่ายได้รวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 29 ธันวาคม 2563 ซึ่งเป็นวันแรกของการรณรงค์ "ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่ปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ" เกิดอุบัติเหตุ 414 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 43 ราย ผู้บาดเจ็บ 438 คน สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ขับรถเร็ว ร้อยละ 32.85 ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 24.88 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 81.11 ส่วนใหญ่เกิดบนเส้นทางตรง 66.43 ถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 38.89 ถนนใน อบต./หมู่บ้าน ร้อยละ 32.13 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 16.01 - 20.00 น. ร้อยละ 29.47 ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุดอยู่ในช่วงอายุ 50 ปีขึ้นไป ร้อยละ 29.94 ทั้งนี้ ได้จัดตั้งจุดตรวจหลัก 1,933 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 61,575 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 288,881 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดี รวม 44,657 ราย มีความผิดฐานไม่สวมหมวกนิรภัย 12,648 ราย ไม่มีใบขับขี่ 12,154 ราย โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ มหาสารคาม (15 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ ชลบุรี บุรีรัมย์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ และอุดรธานี (จังหวัดละ 3 ราย) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ (17 คน)

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า วันนี้คาดว่าประชาชนเริ่มเดินทางออกจากกรุงเทพมหานครเพื่อเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยว โดยถนนสายหลักที่มุ่งสู่ภูมิภาคต่าง ๆ จะมีปริมาณรถหนาแน่น ศปถ.ได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบังคับใช้กฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด เข้มข้นการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจหลัก เน้นหนักกวดขันปัจจัยเสี่ยงอุบัติเหตุ โดยเฉพาะการขับรถเร็วและดื่มแล้วขับ เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงหลักของการเกิดอุบัติเหตุทางถนน พร้อมเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ในการดูแลเส้นทางหลัก สายรอง และเส้นทางเลี่ยงที่เชื่อมต่อระหว่างจังหวัด บริหารจัดการจราจรและอำนวยความสะดวกในการเดินทางแก่ประชาชนตลอดเส้นทาง โดยเฉพาะจังหวัดที่มีเส้นทางหลักมุ่งสู่ภูมิภาคต่าง ๆ และมีการจราจรหนาแน่น ให้เร่งระบายรถ เปิดช่องทางพิเศษ ปิดจุดกลับรถ ปรับสัญญาณไฟจราจรให้สอดคล้องกับช่วงเวลาในการเดินทางของประชาชน รวมถึงปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขในการเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) อย่างเคร่งครัด

นายชัยณรงค์ วาสนะสมสิทธิ์ รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนได้ประสานศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัด บูรณาการตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง อาสาสมัคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่สนธิกำลังสนับสนุนการปฏิบัติงานในจุดตรวจ จุดบริการ และด่านชุมชน โดยเฉพาะเส้นทางสายรองและเส้นทางเลี่ยง ทางลัด ที่เชื่อมต่อระหว่างจังหวัด เพื่อเสริมประสิทธิภาพในการสร้างความปลอดภัยในการเดินทาง อย่างไรก็ตาม จากการติดตามสภาพอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ในระยะนี้บางจังหวัดในพื้นที่ภาคใต้อาจมีฝนตก ทำให้เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุจากสภาพถนนเปียกลื่นและทัศนวิสัยไม่ดี ศปถ.จึงประสานจังหวัดดูแลความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชน โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีฝนตกให้กวดขันการใช้ความเร็วเป็นพิเศษ รวมถึงเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามมาตรการของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ท้ายนี้ ขอฝากให้ผู้ใช้รถใช้ถนนปฏิบัติตามกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด มีน้ำใจต่อผู้ร่วมใช้เส้นทาง รวมถึงดูแลตัวเองให้ปลอดภัย โดยสวมหน้ากากอนามัย รักษาระยะห่างทางสังคม และหมั่นล้างมือให้สะอาด เพื่อลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) และเพื่อให้เทศกาลปีใหม่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขและความปลอดภัย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๓:๒๑ FLOYD คว้า 2 โปรเจกต์ใหม่ จากบิ๊กศูนย์การค้าส่งชั้นนำ รวมมูลค่ากว่า 115.56 ล้านบาท
๑๓:๕๒ เมอร์เซเดส-เบนซ์ นำทีม The new E-Class บุกห้างดัง จัดเต็มข้อเสนอในงาน Mercedes-Benz StarFest 2024 ชวนลูกค้าสัมผัสรถที่ใช่ในพื้นที่ใกล้บ้านคุณ
๑๓:๒๔ โฮมโปรเดินหน้าโปรเจค Green Transport เปิดตัวรถขนสินค้า EV Truck พลังไฟฟ้า พลังงานสะอาด 100% มุ่งเป้าสู่ Net Zero ระดับโลก ในปี
๑๓:๑๒ STA เดินหน้าส่งมอบยาง EUDR แก่ลูกค้า ย้ำความพร้อมรับมาตรการตรวจสอบย้อนกลับจากยุโรปและทั่วโลก
๑๓:๐๔ บลจ.กสิกรไทย เปิดตัว KNOW THE MARKETS SERIES คัมภีร์การลงทุนเชิงลึก มองไตรมาส 2 ตลาดหุ้นปรับฐาน แนะเน้นหลักการกระจายลงทุน
๑๓:๑๖ FWD ประกันชีวิต จัดงาน MDRT Agency Annual Awards 2024 ฉลองความสำเร็จในการพัฒนาศักยภาพตัวแทนอย่างต่อเนื่อง
๑๓:๔๑ บลจ.อีสท์สปริง ได้รับอนุมัติเปลี่ยนชื่อกองทุนรวม 135 กองทุน จากสำนักงาน ก.ล.ต. มีผล 17 มิ.ย. 67
๑๓:๑๑ บางจากฯ ร่วมภาคีเครือข่ายป่าชายเลน Thailand Mangrove Alliance
๑๓:๐๙ สคร.12 สงขลา เตือนเปิดเทอมนี้ 4 โรค ต้องระวัง แนะผู้ปกครอง เตรียมความพร้อมบุตรหลาน ป้องกันตนเองเมื่อไปโรงเรียน
๑๓:๔๔ BBLAM เสนอขาย IPO 'BP10/24(AI)' วันที่ 2-7 พ.ค. 2567