มนัญญา ชี้ช่องเที่ยว 22 ศูนย์วิจัยเกษตรทั่วไทย สั่งทำปฏิทินเที่ยวทั้งปี ป้อนนักท่องเที่ยวหวังเป็นแหล่งบันดาลใจงานเกษตรกลิ่นวิชาการเพิ่มรายได้

พุธ ๓๐ ธันวาคม ๒๐๒๐ ๑๖:๕๘

นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่าได้มีนโยบายให้กรมวิชาการเกษตร เปิดศูนย์วิจัยเกษตรทั่วประเทศเพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรให้ประชาชนทั่วไปได้เข้าชมและมีความรู้ความเข้าใจงานด้านเกษตรและพันธุ์พืช ร่วมถึงเรียนรู้ในการพัฒนาวิจัยงานเกษตรของไทยเพื่อนำไปสู่เป้าหมายครัวของโลก โดยให้ทำปฏิทินท่องเที่ยวทั้งปี แต่ละพื้นที่เพื่อให้ประชาชนคนไทยที่จากสถานการณ์โควิดไปต่างประเทศไม่ได้ หรืออยากออกไปท่องเที่ยวคลายเครียดจากสถานการณ์ ได้ออกมาทดลองเที่ยวชมในพื้นที่ดังกล่าวเป็นอีกทางเลือกของประชาชน ซึ่งเบื้องต้นพบว่ามีถึง 22 ศูนย์วิจัยที่น่าเที่ยวชม

"ทั้งนี้ให้กรมวิชาการเกษตรทำปฏิทินท่องเที่ยวประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบว่าที่สถานีไหน จังหวัดไหน เหมาะสมท่องเที่ยวในเดือนใด มีอะไรดีที่ต้องมาชม มาศึกษา หรือมาดูบรรยากาศ ทั้งอากาศหนาว หรือดูทะเลหมอกหรือมารอชิมผลไม้เมืองหนาว ผลไม้ขึ้นชื่อในพื้นที่ที่อื่นไม่มี เพื่อเป็นการกระจายการท่องเที่ยวทั้งปีและกระจายรายได้ให้กับประชาชนในท้องถิ่นในภาวะที่โควิดทำประชาชนขาดรายได้ นอกจากนั้นแต่ละจุดก็ต้องให้ความรู้งานด้านเกษตรด้วย หรือการเปิดให้มีกิจกรรมปลูกต้นไม้ ปลูกผักสวนครัวแบบง่ายเหมาะกับครัวเรือนเพื่อจะได้นำกลับไปลองปลูกที่บ้านตนเองเป็นต้น อย่างไรก็ตามหากจุดไหนที่เปราะบางด้านการวิจัยก็จะสงวนไว้ไม่ให้เข้าตามกฎหมายของกรมวิชาการเกษตร" นางสาวมนัญญากล่าว

นางสาวศิริพร วรกุลดำรงชัย ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยพืชสวน กรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า กรมวิชาการเกษตรเป็นหน่วยงานที่มีภารกิจด้านการวิจัยและปรับปรุงพันธุ์พืชจึงมีศูนย์วิจัยสำหรับดำเนินการงานวิจัย ทดลอง พัฒนาปรับปรุงพันธุ์พืชที่ตั้งอยู่ในแหล่งธรรมชาติ กระจายอยู่ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ และภายในศูนย์วิจัยดังกล่าวมีแปลงการผลิตพืช ขยายพันธุ์พืช แปลงต้นแบบทฤษฎีใหม่รวมถึงแปลงรวบรวมและอนุรักษ์ความหลากหลายทางพันธุกรรมพืชจำนวนมาก จึงเป็นแหล่งเรียนรู้ที่ให้ความรู้ด้านการเกษตรอย่างครบวงจรแก่เกษตรกร นักเรียน นักศึกษา และผู้สนใจทั่วไป ปัจจุบันมี 22 แห่ง

ทั้งนี้ตั้งแต่มีการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่ศูนย์เกษตรหลวงที่สูงขุนวางและแม่จอนหลวง จ.เชียงใหม่ ตั้งแต่ปี 2547-63 มีนักท่องเที่ยวเข้าชมรวม 494,156 ราย โดยในปี 59-63 พบว่ามีนักท่องเที่ยวไปขุนวางเพิ่มเป็นปีละ 2.9 แสนคน เพื่อมาชมดอกนางพญาเสือโคร่งบานในช่วงเดือนมกราคมของทุกปี โดยในปี 2564 คาดว่าดอกนางพญาเสือโคร่งจะบานระหว่างวันที่ 10-11 ม.ค. ซึ่งตรงกับเทศกาลชิมกาแฟขุนวาง

อย่างไรก็ตามหากเปิดปฏิทินเฉพาะในพื้นที่ศูนย์วิจัยเกษตรหลวง เริ่มตั้งแต่เดือน ม.ค. เป็นจุดชมดอกนางพญาเสือโคร่งที่จะบานสะพรั่งสีชมพูทั้งดอย ก.พ. ช่วง สตรอว์เบอร์รีออกผล มี.ค. ช่วงบ๊วย และกาแฟออกดอก เดินชมดอกไม้สูดกลิ่นดอกกาแฟ เม.ย. -พ.ย. หลบร้อนมาตากความเย็นที่ขุนวางอุณภูมิเฉลี่ย 18 องศาเซลเซียส ช่วงมะคาเดเมียออกผล แปรรูปอบกรอบหอมอร่อย ธ.ค. อากาศหนาวจัด ดอกไม้บานสะพรั่ง กาแฟเก็บผลผลิต ชิมกาแฟขุนวาง เป็นต้น

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๖:๓๕ อีคิวกรุ๊ป จัดค่าย STEM Camp 2024 เสริมสร้างทักษะด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ปูทางสู่อนาคต ณ โรงเรียนกุดชุมวิทยาคม
๑๖:๐๕ ภาคเอกชนไทย หนุนความร่วมมือ ACMECS ขับเคลื่อนเศรษฐกิจภูมิภาคเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๖:๔๐ Bitkub Group ร่วมงาน Kaia Square Lounge โชว์แนวคิดการขยายธุรกิจสู่ระดับภูมิภาค นงาน Korea Blockchain Week
๑๖:๐๐ สายบุญเตรียมตัวให้พร้อม ประเพณีถือศีลกินผัก จ.ภูเก็ต เริ่ม 3-11 ตุลาคม นี้ เทศกาลแห่งการชำระจิตใจและร่างกาย ตามรอยศรัทธา
๑๖:๒๒ การพัฒนากำลังคนสมรรถนะสูงทางด้านวิศวกรรมและเทคโนโลยีระบบรางเพื่อรองรับการพัฒนาระบบขนส่งทางรางในภูมิภาคของประเทศไทยภายใต้โปรแกรมธัชวิทย์
๑๖:๕๒ ยัวซ่า แบตเตอรี่ ปลื้มยอดขายครึ่งปีแรกพุ่ง 10% ขานรับตลาดรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ที่มีความต้องการหลากหลาย
๑๖:๕๔ แอ็กซอลตา ถ่ายทอดความเชี่ยวชาญ มุ่งสู่ความสำเร็จด้วย แรปเตอร์ (RAPTOR) โปรเทคโค้ทกว่า 45 อู่ในโครงการกลุ่มวิริยะประกันภัย
๑๖:๐๙ ลูนิค เรียลเอสเตท ฉลองครบรอบ 1 ปี เปิดขาย Skypark Lucean คอนโดหรูริมหาดจอมเทียนมูลค่ากว่า 4,500 ล้าน[บาท
๑๖:๓๗ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คงประมาณการจีดีพีปี 2567 ที่ 2.6% คาดครึ่งปีหลังเติบโตดีขึ้น แนะจับตาผลกระทบจากน้ำท่วม เศรษฐกิจชะลอ
๑๖:๐๒ ตะเกียงน้ำหอมจาก Maison Berger Paris ตัวช่วยกำจัดกลิ่นห้องครัวที่ทุกบ้านต้องมี