เอกรัฐฯ ทุ่มเม็ดเงินกว่า 1,500 ล้านบาท สร้างโรงงานผลิตเซลล์แสงอาทิตย์แห่งแรก ในเดือนมีนาคมนี้

ศุกร์ ๑๐ มีนาคม ๒๐๐๖ ๐๘:๑๙
กรุงเทพฯ--10 มี.ค.--124 คอมมิวนิเคชั่น
บริษัท เอกรัฐวิศวกรรม จำกัด (มหาชน) ผู้ประกอบธุรกิจผลิตหม้อแปลงไฟฟ้า พร้อมบริษัท เอกรัฐโซล่าร์ จำกัด (บริษัทย่อย) ผู้ประกอบธุรกิจประกอบแผงโซล่าร์เซลส์ ประกาศทุ่มเม็ดเงินกว่า 1,500 ล้านบาท ก่อสร้างโรงงานผลิตเซลล์แสงอาทิตย์แห่งแรกของประเทศในเดือนมีนาคมนี้ พร้อมก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้นำในธุรกิจพลังงานครบวงจรในปี 2550
ดร.วิวัฒน์ แสงเทียน กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอกรัฐวิศวกรรม จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงความคืบหน้าของโครงการก่อสร้างโรงงานผลิตเซลล์แสงอาทิตย์ว่า บริษัทฯ จะสามารถอนุมัติการก่อสร้างโรงงานผลิตเซลล์แสงอาทิตย์ได้ภายในต้นเดือนมีนาคมนี้ ภายหลังได้ข้อสรุปเรื่องแบบแปลนโรงงานขั้นสุดท้ายจากคณะกรรมการบริษัทฯ ทีมสถาปนิก และวิศวกร โดยโรงงานแห่งนี้จะก่อสร้างในเขตนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ระยอง บนพื้นที่กว่า 15 ไร่ ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จและเริ่มการผลิตได้ในปี 2550
“ขณะนี้บริษัทฯอยู่ระหว่างขั้นตอนการพิจารณา เพื่ออนุมัติการก่อสร้างโรงงานผลิตเซลล์แสงอาทิตย์ขั้นสุดท้าย ก่อนจะเริ่มการก่อสร้างในต้นเดือนมีนาคม และจะนำเข้าเครื่องจักรจากเยอรมนีราวเดือนกันยายนปีนี้ ซึ่งถือว่าเป็นไปตามกำหนดการที่วางไว้ในตอนแรก โดยโรงงานผลิตเซลล์แสงอาทิตย์แห่งนี้จะใช้ระบบวางแผนการก่อสร้างแบบฟาสต์ แทร็กซ์ ซึ่งจะสามารถเริ่มการก่อสร้างได้ทันทีหลังได้แบบโครงสร้างโดยรวม และจะดำเนินการก่อสร้างควบคู่ไปกับการออกแบบภายใน เพื่อให้แล้วเสร็จตามกำหนดการที่วางไว้ในปี 2550”
ทั้งนี้ โรงงานผลิตเซลล์แสงอาทิตย์จะมีกำลังการผลิตเซลส์แสงอาทิตย์ต่อปีอยู่ที่ 25 เมกะวัตต์ และจะสามารถเพิ่มกำลังการผลิตไปจนถึง 50 เมกะวัตต์ โดยมีการตั้งเป้าการผลิตในระยะแรกไว้ที่ 12 เมกะวัตต์ โดย 6 เมกะวัตต์แรกจะถูกนำไปใช้ในกระบวนการผลิตแผงเซลล์แสงอาทิตย์ที่บริษัทฯ ได้ดำเนินการอยู่ และอีก 6 เมกะวัตต์จะส่งออกไปขายในประเทศจีน อินเดีย ไต้หวัน และยุโรป ซึ่งประเทศเหล่านี้ล้วนเป็นประเทศที่มีแนวโน้มการเติบโตของอุตสาหกรรมการผลิตแผงเซลล์แสงอาทิตย์ค่อนข้างสูง นอกจากนั้นจากการประเมินราคาเซลล์ในปัจจุบัน คาดว่าจะมีรายได้เพิ่มจากการผลิตเซลล์แสงอาทิตย์ในปีแรกที่เริ่มดำเนินการกว่า 1,400 ล้านบาท
“ภาพรวมของธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์ในปัจจุบันถือว่ามีความชัดเจนมากขึ้น อีกทั้งยังมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี อันเป็นผลมาจากความชัดเจนของนโยบายทางด้านพลังงานของภาครัฐ อาทิ มาตรการพลังงานทดแทน (Renewable Portfolio Standard : RPS) และ โครงการโซล่าร์โฮม อีกทั้งปัจจัยของความจำเป็นทางด้านพลังงานที่มีเพิ่มสูงขึ้น จึงทำให้ผู้ประกอบการทางด้านพลังงาน พร้อมที่จะหันมาใช้พลังงานทดแทนรูปแบบต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเลือกใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ที่มีความเหมาะสมกับสภาพภูมิอากาศของประเทศไทย ซึ่งขณะนี้ถือว่าเอกรัฐวิศวกรรมเป็นผู้ประกอบการรายแรกที่ได้เตรียมพร้อมกับสถานการณ์ดังกล่าว และทันทีที่มาตรการนี้ประกาศใช้ เชื่อว่า ธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์จะมีการเติบโตในทิศทางที่ดีกว่าที่กำลังการผลิตจะสนองความต้องการของตลาดได้” ดร.วิวัฒน์ กล่าว
สำหรับความคืบหน้าในการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยนั้น ขณะนี้บริษัทกำลังอยู่ระหว่างการยื่นไฟลิ่งต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) โดยมีบริษัท ฟาร์อีสท์ แคปปิตอลแอ็ดไวเซอรี่ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน โดยบริษัทฯ จะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 182 ล้านหุ้น โดยมีมูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 1 บาท โดยการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อาจจะต้องเลื่อนออกไปเป็นช่วงไตรมาส 2 ปี 2549 จากกำหนดเดิมคือภายในไตรมาส 1 ปี 2549
“ภายหลังการหารือร่วมกับคณะกรรมการบริษัทฯ มีความเห็นว่า การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อาจจะต้องเลื่อนออกไปเป็นช่วงไตรมาส 2 ปีนี้ เพราะบริษัทฯต้องรอการอนุมัติไฟลิ่งจากสำนักงานก.ล.ต. อีกทั้งปัจจัยหลายอย่างมีความไม่แน่นอน และส่งผลกระทบต่อการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ อย่างไรก็ตามความล่าช้าดังกล่าวจะไม่ส่งผลต่อแผนการขยายธุรกิจผลิตเซลล์แสงอาทิตย์ของบริษัทฯอย่างแน่นอน” ดร. วิวัฒน์ กล่าวในตอนท้าย
อนึ่ง บริษัท เอกรัฐวิศวกรรม จำกัด (มหาชน) ผู้นำในธุรกิจผลิตและจำหน่ายหม้อแปลงไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดของประเทศ และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยกำลังการผลิต 3,000 เมกะโวลต์แอมแปร์ต่อปี พร้อมด้วยธุรกิจต่อยอดในรูปแบบการบริการในเชิงพลังงานครบวงจร อาทิ งานซ่อมบำรุงรักษาหม้อแปลงไฟฟ้าทุกระบบ มอเตอร์ไฟฟ้าอุตสาหกรรม และเครื่องกำเนิดไฟฟ้า งานออกแบบและติดตั้งระบบไฟฟ้าอุตสาหกรรมทั้งระบบ Medium และ Low Voltage งานที่ปรึกษาด้านระบบบริหารจัดการทั้งระบบบริหารคุณภาพ การจัดการสิ่งแวดล้อม การจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย เป็นต้น พร้อมด้วย บริษัท เอกรัฐโซล่าร์ จำกัด ผู้ดำเนินกิจการประกอบแผงเซลล์แสงอาทิตย์ ทั้งชนิดผลึกเดี่ยวซิลิคอนและชนิดผลึกโพลีซิลิคอน พร้อมด้วยโครงการก่อสร้างโรงงานผลิตเซลล์แสงอาทิตย์แห่งแรกในประเทศไทยและภูมิภาค ซึ่งจะแล้วเสร็จในปี 2550
ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ
ชัยวัฒน์ สิมะวัฒนา / จตุพล นาคนิ่ม
พรพรรณ ฉวีวรรณ
บริษัท 124 คอมมิวนิเคชั่นส จำกัด (มหาชน)
โทร 0-2662-2266
www.124comm.com

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๖:๕๒ คณะ กิจกรรม วิศวฯ ม.เกษตรศาสตร์ จับมือ อัลเตอร์วิม ร่วมวิจัย-พัฒนาขีดความสามารถเชิงธุรกิจ ด้านพลังงานหมุนเวียนและระบบกักเก็บพลังงาน
๑๖:๐๖ กรุงศรีออกมาตรการช่วยเหลือ ลดดอกเบี้ยเงินกู้ 0.25% ให้ลูกค้ากลุ่มเปราะบาง เป็นเวลา 6 เดือนตอบรับแนวทางการช่วยเหลือของสมาคมธนาคารไทย
๑๖:๒๙ Lexar Professional CFexpress 4.0 Type B Card DIAMOND คว้ารางวัล BEST STORAGE MEDIA ในงาน TIPA WORLD AWARDS
๑๖:๔๔ ฟอร์ติเน็ต ร่วมมือ สกมช. คัดเลือก-ฝึกอบรมเสริมทักษะบุคลากรคลาวด์ เล็งเพิ่มทรัพยากรบุคคล เสริมความมั่นคงปลอดภัยบนคลาวด์ทุกรูปแบบ
๑๖:๒๙ ไอ-เทล รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสแรก แข็งแกร่งด้วย รายได้กว่า 4 พันล้าน กำไรเพิ่ม 93 เปอร์เซ็นต์ มุ่งการเติบโตต่อเนื่องตลอดปี
๑๖:๒๒ หมอแม็ค แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการปลูกผมของไทย
๑๖:๐๗ ทรูเวฟ (ประเทศไทย) เปิดตัว GreenFarm.AI ผู้ช่วยคนใหม่ที่จะทำให้สวนเติบโตสวยและยั่งยืนได้ดั่งใจ
๑๖:๕๐ ไบเทคบุรี เมกะโปรเจกต์ของภิรัชบุรี กรุ๊ป พลิกโฉม ไบเทค บางนา ก้าวข้ามอุตสาหกรรม MICE สู่สถานที่แห่งไลฟ์สไตล์ครบวงจร
๑๖:๕๒ ดีมันนี่ ตอกย้ำความสำเร็จในงาน Money 20/20 Asia ในฐานะผู้บุกเบิกโซลูชัน โอนเงินไปต่างประเทศชั้นนำในวงการฟินเทคไทย
๑๖:๕๔ สบยช. ยืนยัน ชาเม่ คอลลาเจน ไม่มีสารเสพติด