เอกชนจับมือทหารแก้ไขปัญหาขาดแคลนแรงงานมีฝีมือในภาคอุตสาหกรรม

กรุงเทพฯ--13 มี.ค.--สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
ส.อ.ท.ร่วมมือโรงเรียนช่างฝีมือทหาร แลกเปลี่ยนข้อมูลวิชาการเทคโนโลยี พร้อมสถานที่และวิทยากรการอบรม เพื่อยกระดับทักษะฝีมือแรงงานเดิมในระบบและผลิตนักเรียนช่างฝีมือทหารในสาขาที่ภาคอุตสาหกรรมต้องการ
สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ได้จัดพิธีลงนามข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือระหว่างสถาบันเสริมสร้างขีดความสามารถมนุษย์ สภาอุตสาหกรรมฯ กับกองบัญชาการทหารสูงสุด โดยโรงเรียนช่างฝีมือทหาร กรมยุทธศึกษาทหาร เพื่อร่วมกันส่งเสริมสนับสนุนการผลิตช่างฝีมือประเภทต่างๆ รองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจตามนโยบายของรัฐบาล ทั้งนี้ ภายหลังจากนายกิตติ โสณมัย รองประธานสภาอุตสาหกรรมฯ ได้ลงนามในข้อตกลงฯ กับพลเรือตรีพจนา เผือกผ่อง ผู้บัญชาการโรงเรียนช่างฝีมือทหารแล้ว ได้เปิดเผยความเป็นมาของความร่วมมือที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ว่า ในปัจจุบัน ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมต้องเร่งปรับตัวเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทุกด้านเพื่อรับมือกับสถานการณ์การแข่งขันที่รุนแรงบนเวทีการค้าโลก ซึ่งทักษะฝีมือและความรู้ความสามารถของบุคลากรนับเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อประสิทธิภาพการผลิตและความเข้มแข็งขององค์กร โดยขณะนี้พบว่าภาคอุตสาหกรรมประสบปัญหาเรื่องแรงงานในหลายด้าน ทั้งปัญหาขาดแคลนแรงงานมีฝีมือในบาง อุตสาหกรรมที่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญเฉพาะ เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ ปัญหาแรงงานเดิมในระบบยังขาดหน่วยงานฝึกอบรมที่จะพัฒนาความรู้ความสามารถให้ก้าวทันกับวิทยาการเทคโนโลยีและสมัยใหม่ ปัญหาทักษะฝีมือของแรงงานจบการศึกษาใหม่ไม่สอดรับกับระบบการทำงานจริงในภาคอุตสาหกรรม ด้วยเหตุนี้ สถาบันเสริมสร้างขีดความสามารถมนุษย์ สภาอุตสาหกรรมฯ ซึ่งมีภารกิจในการเชื่อมโยงภาคการศึกษาและภาคอุตสาหกรรมให้ประสานความร่วมมือกันยกระดับคุณภาพของบุคลากรในภาคอุตสาหกรรม จึงมีนโยบายแลกเปลี่ยนความร่วมมือด้านวิชาการเทคโนโลยี และการจัดฝึกอบรมในภาคปฏิบัติการจริงกับสถาบันการศึกษาต่างๆ เพื่อร่วมกันพัฒนาแรงงานเดิมในระบบ และนักเรียนนักศึกษาที่กำลังก้าวเข้าสู่ตลาดแรงงานให้มีความรู้ความสามารถตรงตามความต้องการของอุตสาหกรรมประเภทต่างๆ และมีทักษะฝีมือในระดับพร้อมเริ่มงานได้ทันทีที่เข้าสู่ระบบงาน
"โรงเรียนช่างฝีมือทหารเป็นอีกหนึ่งสถาบันการศึกษาที่ได้ผลิตบุคลากรคุณภาพในสาขาที่ภาค อุตสาหกรรมมีความต้องการสูงในขณะนี้ ทั้งช่างยานยนต์ ช่างไฟฟ้า และช่างอิเล็กทรอนิกส์ เนื่องจากเป็นอุตสาห-กรรมที่มีแนวโน้มการเติบโตดีในปัจจุบันและอนาคต ซึ่งเชื่อมั่นว่าความร่วมมือภายใต้ข้อตกลงนี้ จะเอื้อประโยชน์ต่อการพัฒนาหลักสูตรการศึกษาของโรงเรียนช่างฝีมือทหาร และเป็นการเพิ่มปริมาณบุคลากรคุณภาพเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรม ซึ่งจะส่งผลดีต่อการยกระดับคุณภาพฝีมือแรงงานเดิมในระบบต่อไปในอนาคต" นายกิตติกล่าว
ทั้งนี้ ขอบเขตความร่วมมือของสภาอุตสาหกรรมฯ ภายใต้ข้อตกลงดังกล่าว ประกอบด้วย
สำรวจจำนวนความต้องการช่างฝีมือของสมาชิกผู้ประกอบการ เพื่อสนับสนุนผู้สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนช่างฝีมือทหารเข้าทำงานในสถานประกอบการที่เป็นสมาชิกสภาอุตสาห-กรรมฯ โดยจะประชาสัมพันธ์ข่าวสารการผลิตนักเรียนของโรงเรียนช่างฝีมือทหารไปยังสมาชิก ผู้ประกอบการผ่านเว็บไซต์สภาอุตสาหกรรมฯ www.fti.or.th และวารสาร INDUSTRY FOCUS
สนับสนุนให้นักเรียนช่างฝีมือทหารเข้าฝึกงาน และศึกษาดูงานในสถานประกอบการที่เป็นสมาชิกของสภาอุตสาหกรรมฯ และเป็นสื่อกลางระหว่างสมาชิกผู้ประกอบการที่ประสงค์จะสนับสนุนการศึกษาแก่นักเรียนช่างฝีมือทหาร
สนับสนุนการศึกษาของโรงเรียนช่างฝีมือทหาร โดยเผยแพร่และแลกเปลี่ยนข้อมูลวิชาการและเทคโนโลยีที่ทันสมัยระหว่างกัน รวมทั้งร่วมกันพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนให้สอดรับกับความต้องการของภาคอุตสาหกรรมยิ่งขึ้น
สำหรับความร่วมมือในส่วนโรงเรียนช่างฝีมือทหาร พลเรือตรีพจนา เผือกผ่อง ผู้บัญชาการโรงเรียน ช่างฝีมือทหารเปิดเผยว่า จะให้การสนับสนุนด้านวิชาการ บุคลากร และสถานที่ในการฝึกอบรมแก่สภาอุตสาหกรรมฯ และจะผลิตนักเรียนช่างฝีมือทหารตามสาขาวิชาชีพต่างๆ ตามความต้องการของแรงงาน และข้อเสนอแนะของสภา อุตสาหกรรมฯ ซึ่งภายหลังจากพิธีลงนามข้อตกลงนี้ ทั้ง 2 องค์กรจะจัดตั้งคณะทำงานร่วมกัน ประกอบด้วยผู้แทนจากทั้ง 2 องค์กรๆ ละ 3 ท่าน เพื่อดูแลและติดตามความคืบหน้าในการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ตามข้อตกลงฯ ให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ที่วางไว้
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
โทร. 0-2345-1012-3