ทีเอ็มบี คะแนนโดดเด่นขึ้นแท่นเบอร์หนึ่ง "การเงินที่เป็นธรรม" สองปีซ้อน ผนึกสองแบงก์เพิ่มพลังขับเคลื่อนสังคม มุ่งสร้างชีวิตทางการเงินที่ดีให้คนไทย

ศุกร์ ๒๒ มกราคม ๒๐๒๑ ๑๑:๓๔
ทีเอ็มบี ตอกย้ำความมุ่งมั่นก้าวสู่ธนาคารที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง ครองอันดับหนึ่ง "การเงินที่เป็นธรรม" ติดต่อกันเป็นปีที่สอง ด้วยคะแนนที่เพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่น จากการประกาศผล "ธนาคารไทยใส่ใจกี่คะแนน ปีที่ 3" จัดโดยแนวร่วมการเงินที่เป็นธรรมประเทศไทย หรือ Fair Finance Thailand ปี 2563 พร้อมสานต่อพันธกิจการดำเนินธุรกิจธนาคารที่ยั่งยืนควบคู่ไปกับการเติบโต เพื่อตอบโจทย์ผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน รุกเดินหน้าสร้างชีวิตทางการเงิน หรือ Financial Well-being ที่ดีขึ้นให้กับคนไทยทั้งประเทศ เชื่อเป็นเรื่องสำคัญต่อสังคมและเศรษฐกิจของประเทศ

นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีเอ็มบี หรือ ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ทีเอ็มบีมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนองค์กรให้ก้าวไปสู่ธนาคารที่ยั่งยืน (Sustainable Banking) ที่ทีเอ็มบีให้ความสำคัญและผลักดันมาโดยตลอด และพร้อมสานต่อพันธกิจการดำเนินธุรกิจอย่างเป็นธรรมและโปร่งใส เพื่อตอบโจทย์เป้าหมายของทีเอ็มบีในการสร้างชีวิตทางการเงิน (Financial Well-being) ที่ดีขึ้นให้กับคนไทยทั้งประเทศ อันเป็นรากฐานที่จะช่วยให้ทุกคนบรรลุเป้าหมายในชีวิตได้

"การที่ทีเอ็มบีได้รับคะแนนสูงสุด เป็นอันดับ 1 ต่อเนื่องติดต่อกันสองปี จากการประกาศผล "ธนาคารไทยใส่ใจกี่คะแนน ปีที่ 3" ซึ่งประเมินผลความเป็นธรรมของธนาคารพาณิชย์ในประเทศไทย ตามแนวทาง Fair Finance Guide International โดยแนวร่วมการเงินที่เป็นธรรมประเทศไทย (Fair Finance Thailand) ประจำปี 2563 การได้คะแนนเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่นในหลายประเด็น เนื่องมาจากความมุ่งมั่นทุ่มเทปฏิบัติตามหลักการธนาคารที่ยั่งยืนและการเงินที่เป็นธรรม ตั้งใจสร้างประโยชน์ให้กับผู้คน เป็นผู้นำวงการธนาคารที่ใส่ใจลูกค้า ตลอดจนสร้างสังคมให้เข้มแข็งและมีความเป็นอยู่ที่ดี ซึ่งสิ่งที่ทีเอ็มบีนำมาตอบโจทย์เรื่องความยั่งยืน มีทั้งเรื่องการสร้างวินัยในการออมและการลงทุน รวมถึงโซลูชันทางการเงินอื่น ๆ เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าทุกช่วงชีวิต การสร้างประสบการณ์แบบไร้รอยต่อในทุกช่องทาง รวมทั้งคำนึงถึงผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม"

นายปิติ กล่าวด้วยว่าการสร้างความยั่งยืนอย่างแท้จริงต้องเกิดจากความเชื่อของทั้งองค์กร เริ่มจากผู้บริหารและคณะกรรมการต้องเป็นแรงผลักดันสำคัญ โดยทั้งทีเอ็มบีและธนชาตมีความเชื่อมั่นตรงกันในเรื่องของความยั่งยืน ดังนั้นภายหลังการรวมธนาคารแล้วก็จะยังให้ความสำคัญต่อไปและผลักดันให้บุคลากรเห็นถึงความสำคัญในเรื่องนี้มากขึ้น

"เราเชื่อว่าประโยชน์สูงสุดของการรวมธนาคารในครั้งนี้จะอยู่ที่ลูกค้าของทั้งสองธนาคาร ด้วยการนำจุดแข็งของแต่ละธนาคารมาช่วยกันพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินต่าง ๆ ให้ตอบโจทย์ลูกค้ามากขึ้น ที่สำคัญด้วยแนวทางที่ตรงกันเรื่องความยั่งยืน เมื่อรวมกันแล้วธนาคารมีขนาดที่ใหญ่ขึ้นทำให้เรามีความสามารถในการขับเคลื่อนประเทศและสังคมได้มากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งทิศทางที่สำคัญของธนาคารภายหลังการรวมคือต้องการสร้างชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นให้คนไทย เพราะเรื่องนี้มีความสำคัญมากขึ้นเรื่อย ๆ ต่อสังคมและภาวะเศรษฐกิจของประเทศ ด้วยปัจจัยเรื่องการก้าวสู่สังคมสูงวัยและปัญหาหนี้ครัวเรือนที่กำลังเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งสถานการณ์โควิด-19 ที่ทำให้ทั้งธุรกิจและผู้บริโภคตระหนักถึงความมั่นคงปลอดภัยในทุกเรื่อง"

ด้านนายนริศ อารักษ์สกุลวงศ์ หัวหน้ากลยุทธ์องค์กร ทีเอ็มบี กล่าวว่า ภารกิจของธนาคารไม่ได้ให้ความสำคัญเฉพาะการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในภาพรวม แต่ต้องพยายามเตรียมความพร้อมให้กับผู้บริโภคและธุรกิจต่าง ๆ ให้ทราบด้วยว่าสุขภาพทางการเงินที่ดีหมายถึงอะไร ถือเป็นแนวทางที่ธนาคารพยายามทำให้สังคมเรียนรู้เรื่องนี้ในวงกว้าง โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่ทุกคนต่างได้รับผลกระทบทางการเงิน ซึ่งธนาคารมองเรื่องการสร้างความยั่งยืนและการเติบโตก้าวหน้าของธนาคารเป็นเรื่องเดียวกัน เพราะคงเป็นไปไม่ได้ที่ธนาคารจะเดินไปข้างหน้าโดยที่ลูกค้ามีสุขภาพทางการเงินย่ำแย่ ดังนั้น การผลักดันให้ธนาคารก้าวไปข้างหน้า ผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็น ลูกค้า พนักงาน ผู้ถือหุ้น และหน่วยงานกำกับดูแลต่าง ๆ ต้องไปในทิศทางเดียวกัน ประกอบกับภาพรวมของประเทศก็เป็นเรื่องสำคัญ จึงเป็นที่มาว่า Financial Well-being เป็นแก่นของการดำเนินธุรกิจของทีเอ็มบีและธนชาต

นอกจากนี้ ทีเอ็มบียังให้ความสำคัญกับการปล่อยสินเชื่ออย่างรับผิดชอบ (Responsible Lending) โดยธนาคารมีแนวคิดในการผลักดันการปล่อยสินเชื่อที่มีความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมให้มีมาตรฐานที่สูงขึ้น จึงได้มีการทบทวนนโยบายความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม (Environmental and Social Responsibility Policy) เพื่อให้มั่นใจว่านโยบายดังกล่าว สอดรับกับสถานการณ์ที่เหมาะสมและเป็นไปตามหลักเกณฑ์ด้านความยั่งยืน ขณะเดียวกัน ธนาคารได้ร่วมกับผู้ประกอบการที่มีแนวคิดเดียวกัน มีความเชื่อเดียวกันในส่งเสริมการทำธุรกิจที่มีความยั่งยืนต่อสภาวะสิ่งแวดล้อม ร่วมกันทำโครงการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น ร่วมกันส่งเสริมให้ลดการเผาไร่อ้อยที่อาจส่งผลกระทบต่อสภาพอากาศ เป็นต้น แสดงให้เห็นว่าแนวทางการดำเนินธุรกิจกับความยั่งยืนไปด้วยกันได้

ที่มา: ชมฉวีวรรณ

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๗ เม.ย. อแมนด้า ชาร์ลีน ออบดัม VICHY LIFTACTIV BRAND PARTNER ตัวแทนประเทศไทย ร่วมงาน 'V.I.C VICHY INTEGRATIVE CENTER' อีเว้นท์สุดยิ่งใหญ่ในรอบ 5 ปี ของแบรนด์ VICHY (วิชี่) อวดลุคเซ็กซี่สุดฮอต สวย ปัง
๒๖ เม.ย. ไทยพีบีเอสผนึกกำลัง สสส. ผลิต และเผยแพร่เนื้อหาส่งเสริมสุขภาวะเด็ก เยาวชน และครอบครัว
๒๖ เม.ย. NPS ร่วมสืบสานประเพณีสงกรานต์ชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า ประจำปี 2567
๒๖ เม.ย. แพทย์แผนไทย มทร.ธัญบุรี แนะฤดูร้อนควรทานพืชผักที่มีฤทธิ์เย็นช่วยลดความร้อนในร่างกาย
๒๖ เม.ย. แพรนด้า จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2566
๒๖ เม.ย. RBRU Herb Shot ขยายศักยภาพทางธุรกิจ รุกตลาดอินเดีย
๒๖ เม.ย. ไฮเออร์ ประเทศไทย เดินเกมรุกไตรมาส 2 เปิดตัวตู้เย็นรุ่นใหม่ Multi-door HRF-MD679 ตั้งเป้าปี 67 ดันยอดขายตู้เย็นโต
๒๖ เม.ย. เอ็น.ซี.ซี.ฯ ประกาศจัดงาน PET EXPO THAILAND 2024 ระดมสินค้า บริการ ลดหนักจัดเต็ม รับกระแส Petsumer ดันตลาดสัตว์เลี้ยงโตแรง
๒๖ เม.ย. ธอส. ขานรับนโยบายรัฐบาล ลดอัตราดอกเบี้ย MRR 0.25% ต่อปี พร้อมส่งเสริมวินัยการออม ด้วย เงินฝากออมทรัพย์เก็บออม ดอกเบี้ยสูงถึง 1.95%
๒๖ เม.ย. ManageEngine ลดความซับซ้อน ช่วยองค์กรจัดการต้นทุนบนคลาวด์ทั่วมัลติคลาวด์ได้ง่ายขึ้น พร้อมรองรับแพลตฟอร์ม Google Cloud