วศ. แนะคนไทยบริโภค "ถั่งเช่า" อย่างไรให้ปลอดภัย พร้อมให้บริการทดสอบหาเชื้อจุลินทรีย์ก่อโรคและโลหะหนัก

อังคาร ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๐๒๑ ๑๕:๓๙
นพ.ปฐม สวรรค์ปัญญาเลิศ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) เปิดเผยเกี่ยวกับเทรนด์คนรักสุขภาพในปัจจุบัน โดยเฉพาะความนิยมการรับประทาน "ถั่งเช่า" ซึ่งเชื่อกันว่ามีคุณประโยชน์สำคัญในการมีฤทธิ์กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน ฤทธิ์ต้านมะเร็ง ผลต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด ฤทธิ์ปกป้องไต ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ชะลอความแก่ แต่การศึกษาสรรพคุณและความปลอดภัยด้วยวิธีทางวิทยาศาสตร์ที่เป็นระบบยังพบได้น้อยมาก ส่วนใหญ่เป็นเพียงกรณีศึกษาเท่านั้น

ซึ่งนอกจากถั่งเช่าจะมีสารออกฤทธิ์ที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพแล้วยังมีสารปนเปื้อนที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพโดยเฉพาะโลหะหนัก เช่น สารหนู ตะกั่ว ปรอท แคดเมียม ซึ่งโลหะหนักดังกล่าวในถั่งเช่าสายพันธุ์ธรรมชาติมาจากดิน แหล่งน้ำ และกากตะกอนของเสียที่ปลดปล่อยจากการเกษตรหรืออุตสาหกรรมต่างๆ

กรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม มีข้อแนะนำให้ประชาชนในการเลือกซื้อถั่งเช่าที่สามารถตรวจสอบในฉลากผลิตภัณฑ์ว่าเป็นถั่งเช่าสายพันธุ์ชนิดใด ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) อนุญาตให้ใช้ถั่งเช่าสีทองสายพันธุ์ Cordyceps militaris ในรูปแบบอบแห้งหรือบดผง เป็นส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและเครื่องดื่มในภาชนะบรรจุที่ปิดสนิทได้ ปริมาณไม่เกิน 230 มิลลิกรัมต่อวัน

โดยมีข้อกำหนดสารปนเปื้อนคือ สารหนู ไม่เกิน 2 mg/kg. ตะกั่ว ไม่เกิน 1 mg/kg. ปรอท ไม่เกิน 0.5 mg/kg. และเชื้อจุลินทรีย์ก่อโรคคือ Escherichia coli น้อยกว่า 3.0 MPN/g. ต้องไม่พบ Salmonella spp. ในอาหาร 25 กรัม และไม่พบ Staphylococcus aureus ในอาหาร 0.1 กรัม ทั้งนี้ ต้องมีปริมาณสารสำคัญ คอร์ไดเซปิน (Cordycepin) ไม่เกิน 0.3 มิลลิกรัมต่อกรัม และอะดีโนซีน (Adenosine) ไม่เกิน 1.7 มิลลิกรัมต่อกรัม และยังไม่สามารถแสดงการกล่าวอ้างทางสุขภาพสำหรับผลิตภัณฑ์ที่มีถั่งเช่าสีทอง (C.militaris) เป็นส่วนประกอบได้ จนกว่าจะได้รับการพิจารณาอนุญาตจาก อย. ตามคู่มือประชาชน เรื่อง การประเมินการกล่าวอ้างทางสุขภาพ

ดังนั้น การรับประทานถั่งเช่าควรทำตามข้อแนะนำที่ระบุในผลิตภัณฑ์ และผู้ที่มีโรคประจำตัวควรระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากการรับประทานถั่งเช่าในปริมาณที่มากเกินไปหรือเป็นระยะเวลานานอาจจะได้รับจุลินทรีย์ก่อโรคหรือโลหะหนักในระดับที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพได้ ทางที่ดีควรปรึกษาแพทย์ และก่อนที่ซื้อควรตรวจสอบการได้รับใบอนุญาตจาก อย. ได้ที่เว็บไซต์ http://porta.fda.moph.go.th/.../MAIN/SEARCH_CENTER_MAIN.aspx

ผู้ที่ต้องการทดสอบหาเชื้อจุลินทรีย์ก่อโรคและปริมาณโลหะหนักของผลิตภัณฑ์ถั่งเช่า สามารถส่งทดสอบได้ที่ กองผลิตภัณฑ์อาหารและวัสดุสัมผัสอาหาร กรมวิทยาศาสตร์บริการ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 2201-7000ในวันและเวลาราชการ

ที่มา: กรมวิทยาศาสตร์บริการ

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๐๒ บิทูเมน มารีน บริษัทลูก TASCO ลงนามสัญญาต่อเรือขนส่งยางมะตอย เสริมศักยภาพกองเรือ
๑๗:๓๓ รมว.เกษตรฯ ลุยร้อยเอ็ด ผลักดันโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ 3 แห่ง
๑๗:๔๔ กูรูหุ้นเชียร์ซื้อ PSP เคาะเป้าราคาสูงสุด 8 บ./หุ้น ยอดขายพุ่ง-หนี้ลด ดันกำไรปี 67 ออลไทม์ไฮ ดีล MA สร้าง New S-Curve
๑๗:๔๒ ข้าวกล้อง-จักรีภัทร พร้อมเต็มร้อย! ประเดิม จูเนียร์จีพี สนามแรก ประเทศอิตาลี
๑๗:๑๕ กรมประมงขอเชิญร่วมแข่งขันตกปลาชะโด
๑๗:๑๕ เชลล์ดอน การ์ตูนดังร่วมสาดความสนุกในเทศกาลสงกรานต์
๑๗:๒๙ สปสช. ติดปีกเทคโนโลยีไอทีด้วยคลาวด์กลางภาครัฐ GDCC ยกระดับบริการบัตรทองรวดเร็วทันสมัย ดูแลสุขภาพคนไทยยุคดิจิทัล
๑๗:๑๐ GSK ร่วมงาน Re-imagining UK Aging Care Event ของสถานทูตอังกฤษ มุ่งสร้างเสริมภูมิคุ้มกันผู้สูงอายุ
๑๗:๔๓ เอส เอฟ จับมือ กปน. มอบสิทธิ์ดูฟรีรวม 1,000 ที่นั่ง เพียงใช้ MWA Point ที่ เอส เอฟ!!
๑๖:๓๖ เตรียมพร้อมนับถอยหลัง 12 ชั่วโมงสุดท้าย! ก่อนเริ่มประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ Bitcoin Halving ครั้งที่ 4