นางสาวจอมขวัญ จิราธิวัฒน์ หัวหน้าคณะกรรมการ ESG บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้ประกอบธุรกิจบริการอาหาร (Food Services) เปิดเผยว่า ปัจจุบันโลกกำลังเผชิญกับปัญหาภาวะโลกร้อนและสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง เนื่องจากการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และก๊าซเรือนกระจกจากอุตสาหกรรมต่างๆ ที่เพิ่มขึ้น หนึ่งในพันธกิจ (Mission) ของบริษัทฯ จึงมุ่งมั่นพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ล่าสุดบริษัทฯ ได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงการร่วมดำเนินโครงการ "ขยายผลกิจกรรมชดเชยคาร์บอน เพื่อสนับสนุนตลาดคาร์บอนภาคสมัครใจภายในประเทศ ปีที่ 8" ระหว่างองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ อบก. และศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านกลยุทธ์ธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลากว่า 30 ปีที่บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นเซ็นและร้านอาหารในเครือ ได้มุ่งมั่นมอบประสบการณ์ความอร่อยของอาหารและบริการที่มีคุณภาพอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ดีธุรกิจร้านอาหารก็มีส่วนในการสร้างก๊าซเรือนกระจก จากขั้นตอนการรักษาคุณภาพวัตถุดิบและการขนส่ง การปรุงอาหาร ปริมาณการใช้ไฟฟ้าเพื่อให้บริการลูกค้า ตลอดจนการจัดการเศษอาหารที่เหลือจากการรับประทาน ซึ่งการเข้าร่วมโครงการขยายผลกิจกรรมชดเชยคาร์บอนในครั้งนี้ บริษัทฯ จะดำเนินกิจกรรมที่ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อย่างน้อย 10% ของปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกขององค์กรโดยความสมัครใจ และนำคาร์บอนเครดิตภายใต้โครงการฯไปขายในตลาดคาร์บอนภาคสมัครใจภายในประเทศ
สำหรับการดำเนินกิจกรรมลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของบริษัทฯ ประกอบด้วย การใช้พลังงานจากไฟฟ้าให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด การบริหารจัดการเพื่อลดปริมาณขยะจากเศษอาหาร รวมทั้งใช้บรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืนภายในร้านอาหาร
"การลดภาวะโลกร้อน เป็นเรื่องที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเซ็น กรุ๊ป มีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้เข้าโครงการขยายผลกิจกรรมชดเชยคาร์บอนในครั้งนี้ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการรักษาสิ่งแวดล้อมให้สังคมตามความตั้งใจ และพร้อมทำกิจกรรมชดเชยคาร์บอน เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม และสร้างอุปสงค์คาร์บอนเครดิตจากโครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจในประเทศไทย เพื่อร่วมขับเคลื่อนประเทศไทยลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 20% ในปี 2573 ได้ตามเป้าหมาย" นางสาวจอมขวัญ กล่าว
ที่มา: เอ็ม ที มัลติมีเดีย