ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ เทคโนโลยีโมดูลใหม่ได้ถือกำเนิดขึ้นมากมาย ขณะที่การพัฒนาและการพลิกโฉมทั่วทั้งอุตสาหกรรมดำเนินไปอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น แต่การเพิ่มประสิทธิภาพและการลดต้นทุนก็ยังคงเป็นเป้าหมายสำคัญ ทั้งนี้ เมื่อเทียบกับโมดูล 158.75 และ 166 แล้ว พบว่าโมดูล 182 และ 210 สามารถลดต้นทุนอุปกรณ์ประกอบระบบ (BOS) และต้นทุนการผลิตไฟฟ้าต่อหน่วยไฟฟ้าปรับเฉลี่ย (LCOE) ของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ได้มากกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งโมดูล 210 ซึ่งประหยัดต้นทุนมากที่สุด
โมดูล 210 ซีรีส์ Titan ของ Risen Energy ใช้วงจรไฟฟ้าแรงดันต่ำ เทคโนโลยีการตัดแบ่งโมดูลโดยไม่สร้างความเสียหาย และเทคโนโลยี Multi-Busbar โดย Risen Energy สามารถผลิตไฟฟ้าได้สูงสุดพร้อมกับลดต้นทุน LCOE ด้วยการใช้เซลล์ที่มีการลดทอนต่ำ รวมถึง welding tape สะท้อนแสง และกล่องพักสายไฟฟ้าแรงสูง ประกอบกับ switching voltage ในระดับต่ำ และ loading ในระดับสูง
Risen Energy จะใช้โรงงานผลิตเซลล์และโมดูลแห่งใหม่ในเมืองอี้อูแลฉูโจว ประเทศจีน รวมถึงโรงงานในประเทศมาเลเซียที่กำลังก่อสร้างและคาดว่าจะเปิดใช้งานในไตรมาส 4 ในการผลิตโมดูล 210 ส่วนใหญ่ โดยโรงงานในมาเลเซียจะช่วยอุดช่องว่างด้านกำลังการผลิตในต่างประเทศและยกระดับการตอบสนองความต้องการของตลาดอเมริกาเหนือ
ศักยภาพด้านการวิจัยและพัฒนา รวมถึงประสบการณ์ด้านเทคโนโลยีเซลล์แสงอาทิตย์ที่สั่งสมมานานหลายปี ส่งผลให้ Risen Energy คว้ารางวัล Most Influential PV Module Company - Innovative Breakthrough Pioneer Award ซึ่งมอบโดย Solarbe และ China General Certification Center รวมถึงรางวัลแบรนด์โมดูลเซลล์แสงอาทิตย์ชั้นนำในออสเตรเลียประจำปี 2564, รางวัลแบรนด์โมดูลเซลล์แสงอาทิตย์ชั้นนำในโปแลนด์ประจำปี 2564 และรางวัลแบรนด์โมดูลเซลล์แสงอาทิตย์ชั้นนำในสเปนประจำปี 2564 จาก EuPD Research ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยชั้นนำระดับโลก
รูปภาพ: https://mma.prnewswire.com/media/1475880/image_1.jpg
คำบรรยายภาพ: รางวัลแบรนด์โมดูลเซลล์แสงอาทิตย์ชั้นนำโดย EuPD Research